"เงิน" ยังยุติธรรมเสมอ
เมื่อ ผอ.องค์การอนามัยโลกเอ่ยปากขอร้องประเทศร่ำรวย อย่าปาดหน้าซื้อวัคซีนหมด ขอแบ่งให้ประเทศยากจนบ้าง
..
"ตราบใดที่เงินจ้างผีโม่แป้งได้
ตราบนั้น เงินยังยุติธรรมเสมอ
บนโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้"
อ่านข่าวล่าสุดที่ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ถึงกับต้องออกมาวิงวอนขอร้องให้ประเทศร่ำรวยช่วยมีความเมตตา อย่าแซงคิว อย่ากักตุนวัคซีนโควิด-19 ขอแบ่งปันวัคซีนให้กับประเทศยากจนบ้าง..
..
เจอข่าวนี้ไปทำให้ผมไม่แปลกใจ ว่าทำไมโลกเรามันถึงได้ยุ่งเหยิง อิรุงตุงนัง มาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีมานี้..
ก็เพราะต่างคนต่างเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างเอาตัวรอด
..
คำกล่าวจาก ผอ.องค์การอนามัยโลกครั้งนี้ เกิดขึ้นที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.
ที่ผ่านมา
โดยใจความสำคัญก็คือ..
นายกรีบีเยซุส ได้ออกมาเรียกร้อง ขอให้ประเทศที่มีเงินทั้งหลายยุติการเจรจาเพื่อให้ได้วัคซีนแซงหน้าบางประเทศที่ยากจนกว่า และขอให้ช่วยลดจำนวนการสั่งจองวัคซีนลอตแรกลงบ้าง
ทั้งนี้เพื่อให้มีวัคซีนบางส่วนเพียงพอที่จะนำเข้าสู่โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก
สำหรับโครงการโคแวกซ์นั้น
เป็นโครงการภายใต้การดูแลขององค์การอนามัยโลก(WHO)สำหรับจัดหาวัคซีนจำนวน 2,000 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชนกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางและยากจนจำนวน 92 ประเทศทั่วโลก
วัคซีนจำนวน 2,000 ล้านโดสนี้ อาจจะดูเหมือนมาก แต่แท้จริงแล้ว วัคซีนจำนวนดังกล่าว เพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชากรในประเทศเหล่านั้นได้เพียงแค่ 20 % เท่านั้นเอง
..
นายกรีบีเยซุส ยังกล่าวเสริมอีกว่า
การแย่งชิงวัคซีนของกลุ่มประเทศร่ำรวย ยังมีผลทำให้ราคาวัคซีนถีบตัวสูงขึ้น ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสเข้าถึงวัคซีนของประเทศรายได้ปานกลางและประเทศยากจนเพิ่มขึ้นไปอีก
จากรายงานล่าสุด พบว่า กลุ่มประเทศที่เริ่มมีการแจกจ่ายวัคซีนชุดแรกจำนวน 42 ประเทศนั้น เป็นประเทศที่ร่ำรวยหรือมีรายได้สูงถึง 36 ประเทศ
..
ทีนี้เรามาดูตัวเลขการจองวัคซีนของประเทศชั้นนำกันดีกว่าว่ามีจำนวนเท่าไหร่?
หลัก ๆ แล้วจะมีเพียง 3 บริษัทนี้คือ
Phizer & BioNTech,Moderna
และAstra Zeneca เท่านั้น ที่ถูกสั่งจองวัคซีนจำนวนมาก
เริ่มกันที่ สหรัฐอเมริกา
อเมริกา จองวัคซีคโควิด - 19 จากทั้ง 3 บริษัทจำนวนกว่า 700 ล้านโดส
อเมริกามีประชากรทั้งหมด 328 ล้านคน
ต่อให้ฉีดครบทุกคน วัคซีนก็ยังมีเหลือสบาย ๆ
งบประมาณวัคซีนอเมริกาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท
..
มาต่อกันที่ สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักร จองวัคซีนทั้งหมด 145 ล้านโดส
ซึ่งเป็นจำนวนที่พอสำหรับคนจำนวน 72.5ล้านคน
แต่สหราชอาณาจักรมีประชากร
ทั้งหมด 66.6 ล้านคน
แสดงว่า ฉีดครบคนแล้ว วัคซีนก็ยังพอแบบเหลือ ๆ
..
ต่อมาเป็น แคนาดา
แคนาดาจองวัคซีนไว้ 96 ล้านโดส
ทั้งที่แคนาดามีประชากรเพียง 35.6ล้านคน
(วัคซีน 96 ล้านโดสฉีดได้ 48 ล้านคน)
..
สุดท้ายมาดูที่ ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นจองวัคซีนไว้ 290 ล้านโดส
ซึ่งพอสำหรับคนจำนวน 145 ล้านคน
แต่ญี่ปุ่นมีประชากรอยู่ที่ 126 ล้านคน
..
แล้วประเทศไทยเราล่ะ
ประเทศไทยเรา จองวัคซีนหลัก ๆ จาก
Astra Zeneca จำนวน 26 ล้านโดสอันนี้ไม่รวมที่สั่งเพิ่มของซิโนแวค(ประเทศจีน)อีก 2 ล้านโดสเป็นลอตพิเศษ
ซึ่งจำนวน 26 ล้านโดสนี้
เพียงพอสำหรับประชากรเพียงแค่ 13 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 18.5% ของประชากรไทยเท่านั้น
..
โอเคว่า เราต้องยอมรับว่า วัคซีนผลิตโดยบริษัทเอกชน และเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง เมื่อเป็นธุรกิจก็ย่อมต้องทำธุรกิจ
การซื้อขาย ตามหลักอุปสงค์ อุปทานก็ถือเป็นเรื่องปกติของโลกการค้าแบบทุนนิยม
ใครมีเงิน ก็มีโอกาสมากกว่า
ใครมีเงินมากกว่า ก็มีอำนาจต่อรอง
สูงกว่า...
อีกอย่าง ผู้นำประเทศส่วนมากก็คือนักการเมือง นอกจากเขาต้องคำนึงถึงความเป็นคนชาติเดียวกันแล้ว เขายังต้องแคร์เรื่องคะแนนนิยมอีกด้วย
ถ้าเขามีเงิน เขามีสิทธิ์ ทำไมเขาจะไม่ซื้อเพื่อประชาชนประเทศตัวเองก่อน
..
เพียงแต่อยากให้มองกว้างออกไปอีกนิด..เรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ มันไม่ใช่ปัญหาของใครของมัน แต่มันคือปัญหาของโลกทั้งใบ
มนุษย์โลกจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนหรือใกล้เคียงของเดิมไม่ได้ ถ้ายังมีประเทศใด ประเทศหนึ่งในโลกที่ยังหลงเหลือการมีเชื้อโควิดระบาดอยู่แบบนี้..
..
ในเมื่อโลกใบนี้ ไม่มีใครอยู่คนเดียวได้ต่อไปอีกแล้ว ทุกชาติ ทุกประเทศเชื่อมโยงกันหมด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพราะฉะนั้นเราจะเอาเพียงตัวเรารอดแล้วคิดว่ามันจะรอดตลอดไป คงจะเป็นไปไม่ได้
..
อ่านมาถึงตรงนี้ ยังมีใครไม่เข้าใจคำว่า
"เงิน"ยังยุติธรรมเสมอ บ้าง?
..
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
สำนักข่าว AFP
ภาพประกอบจากunsplash
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
