10 ม.ค. 2021 เวลา 05:52 • ความคิดเห็น
ต้อง"ทำให้คนอ่าน หัวเราะ ร้องไห้ และรอคอย"
1
คำแนะนำที่ลือชื่อในการเขียนนวนิยาย
ของ Charles Dickens
ไม่รู้ยุคนี้ เด็กๆยังได้งานหนังสือนอกเวลาของชาร์ลส์ ดิกเค็นส์ นักเขียนชาวอังกฤษยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือเปล่า จำได้ ไม่ใช่แค่นอกเวลา
ในเวลา ครูก็เอามาอ่านให้ศึกษากัน
และเราก็จะเริ่มด้วยเรื่องนี้ ซึ่งเป็นวรรณกรรมชิ้นแรกของเขา Oliver Twist จำกันได้ไหมคะ
งานของดิกเค็นส์ พล็อตเรื่องจะสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในสังคม ความไม่เป็นธรรม ความเป็นอยู่แย่ต่ำกว่ามาตรฐาน ชีวิตคนยากด้อยโอกาส ไม่ก็เด็กกำพร้า เหล่านี้ มองเห็นมากมายแม้ในลอนดอนในขณะนั้น
ดูรายชื่อผลงานการเขียนของเขา
คำแนะนำหากคุณจะเป็นนักเขียนนวนิยายหรือเรื่องสั้น..
ของดิ๊กเค็นส์ ตั้งแต่ยุค ศตวรรษที่19
ซึ่งแอดคิดว่า ใช้ได้กับงานเขียนอื่นๆด้วย
แอดไม่ได้แปลตรงหรือยกมาหมดตามจดดหมายมีตัดย่อ เพิ่มเติม ขยายความเข้าไป แต่หัวข้อหลัก1-10 ยกมาจากลิงก์แนบค่ะ
🌺🌺😍
1. งานเขียนที่ดี คือ งานที่
👍“ทำให้ผู้อ่านหัวเราะ ร้องไห้ และรอคอย”
1
ซึ่งแนวทางนี้มีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้
นักเขียนวรรณกรรม นวนิยาย ต่างพยายามเขียนให้บรรลุสิ่งสามสิ่งนี้..
มาถึงตรงนี้..ถามตัวเราดู เราเคยตั้งตารอคอยนิยาย เรื่องโปรดหรือเปล่า.. วางไม่ลง
แต่สอนให้เราอดทนรอคอยเป็น..
ผู้อ่านจะเป็นผู้สะท้อนกลับสิ่งเหล่านี้ ว่าทำให้คนอ่านติดใจงานเขียนหรือไม่แค่ไหน โดยยุคดูยอดพิมพ์ กี่ครั้ง ยอดจำหน่ายเป็นอย่างไร และการนำไปต่อยอด สร้างละครเวทีบ้าง ภาพยนตร์บ้าง
ยุคนี้มีเพิ่มเติม และเป็นที่นิยม คืออ่านผ่านออนไลน์ ดูยอดวิว ยอดการเข้าถึง ยอดEngagement ต่างๆนั่นเอง นอกจากอ่านผ่านEbookเสียเงิน
แต่เอาเข้าจริง ยอดเหล่านี้
ใช้วัดคุณภาพของงานไม่ได้....
ความนิยม อาจชั่วคราว อาจตามกระแส ตามราคาทุนบูสต์โพสต์ ตามเทคนิคการนำเสนอและการตลาด ตามความสัมพันธ์คนอ่านและคนเขียน ตามจุดประสงค์ เหตุปัจจัยบางอย่าง..
นักเขียนอย่าท้อค่ะ..
สำหรับส่วน "การรอคอย "ดิกเค็นส์ให้ความสำคัญคือไม่พิมพ์เป็นเล่ม แต่จะตีพิมพ์งานเป็นซีรีส์ แบ่งเป็นตอนๆ ให้ติดตามทางนิตยสารก่อน
เพราะเขาเห็นว่า คนอ่านซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง พอจบค่อยพิมพ์รวมเล่ม ดังนั้นต้องทำให้คนอ่านติด และรอคอย ลงเป็นตอนๆ
และเขามักใข้วิธีตัดจบแบบให้อยากรู้ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร..เหมือนซีรีย์ละครในยุคนี้เลย และซีรีย์งานเขียนดีๆในแพลตฟอร์มนี้ก็มีให้อ่านฟินๆ
หาอ่านกันได้ค่ะ มีให้เลือกมากมาย แต่ละเพจลงเป็นซีรีย์ไว้
🌺🌺🌺
2. จงใช้ชีวิต..บ้างอะไรบ้าง
1
อย่าเคร่งเครียดหรือพยายามมากเกินไป หรือรีบเขียน จนงานขาดความน่าอ่าน ไร้น้ำหนัก ไร้เหตุผลสนับสนุน ไร้เสน่ห์ ดึงดู
ให้ใชัชีวิตบ้าง จะมีความรู้ ประสบการ์ณ และมุมมองในชีวิตลึก กว้างขึ้น มากขึ้น ต่อเรื่องนั้นๆ ..
ในปี 1867 เขาให้ฟีดแบคตรงไปตรงมากับนักเขียนคนหนึ่ง ที่ส่งต้นฉบับให้เขาอ่าน
ดิกเค็นส์ให้คำตอบไปว่า..คุณพยายามมากเกินไปและขาดปรการณ์ ผมจะแปลกใจมากถ้ามีใครยอมตีพิมพ์งานชิ้นนี้.....
แรงอยู่นะคะ แต่ต้องบอกตรงๆ เพื่อช่วยนักเขียนคนนั้นจริงๆ
🌺🌺🌺
3. ทำงานหนัก
อยากเป็น นักเขียน ที่ดี และสำเร็จ ต้องจริงจัง ให้เวลากับงาน อุทิศตัว มีความอดทนสูง และรักษาพลังงานให้สม่ำเสมอ เพื่อสร้างผลงานได้ต่อเนื่อง
ตรงมีพลังงานสม่ำเสมอนี่ คือ งานท้าทายของนักเขียน หรือนักอยากเขียนอย่างเราๆจริงๆ
อยากเอาดีด้านนี้ ทำแบบดิกเค็นส์ค่ะ วินัยต้องสูง
🌺🌺🌺
4. อย่าเอาใจผู้อ่าน...ข้อนี้น่าคืด
1
บางคนอาจบอก ตามใจตลาด ขายได้
งานของเขาจึงประสบความสำเร็จ
แอดรู้ว่า นักเขียนมืออาขีพ ต้องหนักแน่นในอุดมการ์ณ แนวทาง พล็อตต้องไม่ไข้วเขว
ไม่ตามใจคนดู จนเสียเนื้อเรื่อง
อย่างละครยุคนี้ บางช่องจะสร้างไปออนแอร์ไป บทละครมักไม่ตรงกับต้นฉบับ โดยเฉพาะตอนจบ จะอิงกระแสคนดู
แต่บางครั้งก็หักมุม จากกระแสการคาดเดาของคนดู...ดึงดูดคนดู ทำให้น่าติดตาม
แต่บางทีก็เอาใจจนเห็นชัด กลายเป็น ดีต้น จบแย่ ...
🌺🌺🌺
5. ให้เป็นงานเขียนที่ยากเข้าไว้..
1
ข้อนี้ ใช้จินตนาการอย่างเดียวคงไม่ได้
ข้อมูลต้องเป๊ะ
คงต้องค้นคว้าหนัก อ่านมาก สำรวจเยอะ
อุทิศมากๆ บวกมีประสบการ์ณเพียงพอในงานเขียนเรื่องนั้นๆ ประสบการ์ตรง คนอ่านจะอินมากเข้าไปอีก
ในปีค.ศ. 1852 ดิกเคนส์เขียนจดหมายถึงพ่อของเด็กสาววัย 19 ที่อยากเป็นนักเขียนว่า บอกลูกสาวให้เธอเลิกคิดก่อนว่า
การเขียนนวนิยายเล่มหนึ่งให้ประสบความสำเร็จนั้น มันง่าย นิดเดียว
เขียนนวนิยาย ต้องอาศัยความอดทน ความใส่ใจ ความสันโดษ ..มันง่ายหรือไม่..หากทำได้ ก็ทำเลย เขายินดีแนะนำ
ซึ่งในที่สุด Georgina Craik เด็กสาววัย 19 คนนั้นเธอกลายเป็นนักเขียนในเวลาต่อมา
🌺🌺🌺
6. จงอดทนและเขียนต่อไป ....
คิดว่านักเขียนเก่งๆมืออาชีพทุกคนคงเป็นแบบนี้ทุกคน
คือ เขียนไม่ออก
2
ดิกเค็นส์ก็เช่นกัน มีช่วงเขียนนวนิยายเรื่อง Barnaby Rudge เขาเขียนต่อไม่ได้ มีหลักฐานเพราะเขาเขียนจดหมายโอดครวญไว้
เป็นหลักฐาน ว่าเขาเขียนไม่ออกแม้แต่บรรทัดเดียว...
หาจุดโฟกัส หาแรงบันดาลใจ อดทน และพยายามเขียนต่อไป... อย่างดิกเค็นส์ เขามาโฟกัสที่ตัวละคร Barnaby ก็เขียนต่อไปเรื่อยๆ
หยุดนานจะเขียนไม่ออก..แอดคนหนึ่งล่ะ
เขียนวันล่ะนิดหน่อย เสร็จแล้วค่อยนำเสนอได้
“ความพยายามสม่ำเสมอในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง”“
Giving consistent effort in the little things in day-to-day life leads to true greatness
From the Life of Howard W. Hunter ( LDS Leader)
🌺🌺🌺
7. หางานอดิเรกทำ
อย่าหมกมุ่นงานเขียน จนไม่ให้เวลาตัวเองผ่อนคลาย... ลุกออกไป หาความบันเทิง พักผ่อน
อาจเกิดไอเดียใช้ในงานเขียนต่อไปได้ด้วย
นักเขียนที่นี่ พักผ่อนร่วมกันด้วยการร้องเพลง ส่งชาเลนจ์ให้ร้องเพลงกัน...จนเป็นงานอีกชิ้นหนึ่งไป อาจได้รับเพชรจากคนฟังด้วย
8. หาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยง สักตัวก็ยังดี
หลายคนคงเลี้ยงน้องหมา แมว กระต่าย บลาๆ
แต่ดิกเค็นส์เลี้ยง กา ชื่อ Grip และเจ้าตัวนี้
ยังอยู่ในนิยาย Barnaby Rudge ด้วยค่ะ
เคยฟังหมอจิตวิทยาแนะนำ หากเครียด เล่นกับสัตว์เลี้ยง เพียง5นาที ฮอร์โมนความสุข บังเกิดทันที คนเราอารมณ์ดี ก็ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขอเอารูปแมว ของลูกชายลูกสะไภ้มาฝาก.ด้วยละกัน..
🌺🌺🌺
9. แนะนำตัวเอกให้เร็ว..
เราคงหงุดหงิด เวลาดูหนังละคร อ่านนิยายตัวเอก พระเอก นางเอก กว่าจะออก..ฉันใดก็ฉันนั้น
และ…ข้อนี้สำคัญ
🌺🌺🌺
10. การทำงานเขียนไม่รวย...
ข้อนี้ไม่ขอพูดมาก...เจ็บคอ อ้อ เจ็บข้อมือด้วย
ใจสุขก็เขียนไป..ใครรวยบอกด้วย..
อ้างอิง...
MomNoi❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา