17 ม.ค. 2021 เวลา 10:13 • ธุรกิจ
Veridium - เหรียญดิจิทัลสายรักษ์โลก 🌲 🌳
ยุคนี้ตลาดที่ร้อนแรงสำหรับนักลงทุนคงไม่พ้น Bitcoin ซึ่งพาพวกเราขึ้นรถไฟเหาะ สร้างเศรษฐีใหม่ไม่เว้นวัน แต่วันนี้ไม่ได้จะชักชวนไปเทรดเหรียญกันแต่อย่างใด แต่ "Innowayถีบ" จะพาลัดเลาะไปแถวฮ่องกงเพื่อรู้จักกับ Veridium ผู้นำในการใช้เทคโนโลยีคริปโตและบลอกเชนเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้น
🌳 ทำไมเราต้องมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิต?
คาร์บอนเครดิตนั้นเป็นการเเลกเปลี่ยนกันระหว่างองค์กรหรือธุรกิจที่ใช้ในการหักลดปริมาณก็าซเรือนกระจก (ในกรณีที่ธุรกิจนั้นมีการปลดปล่อยก็าซเกินจำนวนที่ได้รับอนุญาติ) คนที่ปล่อยน้อยก็จะมีเครดิต เอาไปขายให้คนที่ปล่อยมาก ทำให้ส่วนใหญ่การซื้อขายเครดิตทำในรูปแบบทวิภาคี (ตัวต่อตัว)
ซึ่งคาร์บอนเครดิตหนึ่งหน่วยนั้นมีประมาณเท่ากับ 1 เมตริกตันของคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งการจะได้คาร์บอนเครดิตนั้นต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงายที่เป็นมาตราฐาน เราไม่สามารถไปปลูกต้นไม้เอง 1 ต้นแล้วมาตีเป็นมูลค่าของคาร์บอนเครดิตเพื่อซิ้อขาบได้นะ
ซึ่งองค์กรที่สามารถให้การรับรองคาร์บอนเครดิตนั้นก็มีหลากหลาย แต่ที่มีมาตราฐานจะต้องได้รับการยอมรับอาทิเช่น climate action reserve (CAR), gold standard foundation (GSF), UN Clean development mechanism
คาร์บอนเครดิต (cr:UNEP)
🌳 Veridium - กับการกู้โลกแบบออนไลน์
แม้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ว่ากระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งการคำนวณ การซื้อขายแลกเปลี่ยน ยังมีจุดที่บกพร่อง เช่นการนับซ้ำเครดิตจากแหล่งเดียวกัน การซื้อขายเปลี่ยนมือที่สุดท้ายไม่รู้ว่าใครคือผู้ถือเครดิตตัวจริง หรือมูลค่าที่แท้จริง
Veridium ซึ่งอยู่ในแวดวงของการซื้อขายคาร์บอนเครดิต จึงตัดสินใจนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการกับปัญหาข้างต้นเพื่อให้การคำนวณมูลค่า และการนำเครดิตไปใช้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยร่วมมือกับ IBM และ Stellar ในการพัฒนาระบบ
Veridium จึงดูแลพัฒนาการประเมินมูลค่าของคาร์บอนเครดิตในแต่ละแหล่ง แล้วก็ทำการโค้ดข้อมูลให้อยู่ในรูปของเหรียญ ส่วน Steller ก็บริหารจัดการในส่วนของการแยกจัดเก็บข้อมูลและการเข้ารหัส ส่วน IBM จะดูแลในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ระหว่างกัน ซึ่งเมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์จะทำให้เกิดตลาดในการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตที่สะดวกต่อซื้อขายสะดวก โปร่งใส และเป็นตลาดที่เปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะคาดว่าจะเกิดการขยายตัวของตลาดนี้สูงขึ้นไปอีก (เนื่องจากมาตราฐานและข้อตกลงปารีสที่กำลังจะมีผลบังคับใช้)
โครงสร้างของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ของ IBM จะช่วยให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตเกิดได้คล่องตัวขึ้น
🌳 Veridium เหรียญที่มีเรื่องราว
ด้วยความที่ Veridium อยู่ในเครือของ InfiniteEarth เหรียญของพวกเขาจึงมีการนำเครดิตจากที่ได้การรับรอง Triple Gold REDD+ มาใช้ในการค้ำประกันด้วย ซึ่งต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า REDD+ เป็นชื่อย่อของโครงการระดับโลกเพื่อการฟื้นฟูและรักษาธรรมชาติในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อเป็นเครื่องมือในการลดการปลดปล่อยก็าซเรือนกระจกออกสู่ธรรมชาติ
โดย InfiniteEarth (บริษัทพี่น้องของ Veridium) เป็นผู้บริหารโครงการ Rimba Raya ฺBiodiversity Conservation ในอินโดนีเชีย โดยพื้นป่าดังกล่าวมีพื้นที่ประมาณประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการก็าซเรือนกระจกกว่า 130 ล้านตัน โดย InfiniteEarth เข้ามาบริหารจัดการให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูล เมื่อป่าอุดมสมบูรณ์ทาง InfiniteEarth ก็จะนำคาร์บอนเครดิตที่เกิดจากป่าไปขายให้แก่ผู้ที่มีความต้องการ
Rimba Raya ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ลิงอุรังอุตังที่ใช่เงินทุนของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพื้นป่าที่ทรงคุณค่าและมีมูลค่าสูงมากจริงๆ
อุรังอุตังที่อยู่ในพื้นป่า Rimba Raya
ในภาพใหญ่อุตสาหกรรมซื้อขายคาร์บอนเครดิตคงจะมีขนาดและสินทรัพย์ที่โตและหลากหลายมากขึ้นด้วยข้อกำหนดและมาตราฐานต่างๆ ที่ประเทศต่างๆเริ่มบังคับใช้
การนำเทคโนโลยีอย่างบล็อคเชนเข้ามา คงช่วยอนวยความสะดวกและทำให้เกิดการซื้อขายที่คล่องตัว
แต่ก็อย่าลืมว่าคาร์บอนเครดิตนั้นยังไม่ใช่วิธีลดการปล่อยก็าซเรือนกระจกที่แท้จริง พวกเราคงต้องมีส่วนในการช่วยโลก ด้วยการใช้พลังงานในปริมาณที่เหมะสมไม่ฟุ่มเฟือยจนการไป นั้นก็จะเป็นการลดภาระของป่าได้อย่างดีที่เดียว
IBM joins forces with a start-up to combine crypto with environmental credit trading, https://www.cnbc.com/2018/05/15/ibm-veridium-team-up-on-blockchain-enabled-carbon-credit-trading.html
โฆษณา