Eco Trail Paris, France
(March 17th 2018, 80km 1,200m+, bib 1659, finished 12:20:37)
Profile: 80km gain1500+m ออกวิ่งจากชนบทด้านตะวันตกของ Île-de-France region เข้าสู่Paris โดยมีเส้นชัยอยู่ที่ชั้นหนึ่งของหอEiffel, 5 aid stations, ไม่มีdrop bags
Goal: เป็นการวอร์มอัพสั่งลาฤดูหนาว จบสวยๆต่ำกว่า10ชม. เก็บ4แต้ม ITRA Pointsสะสมไว้เสี่ยงดวงสมัครUTMB (120km)ปีหน้า
03.16.18
เดินทางถึงปารีสด้วยรถไฟICE จากFrankfurt ใช้เวลาแค่4ชม. ถึงสถานีParis Gare de I'Estบ่ายๆ เช็คอินรร.ใกล้สถานีเสร็จก็ออกไปรับbibที่Paris Expo Porte de Versaillesซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง เสร็จแล้วเดินทางไปหอEiffelเพื่อดูเส้นทางและซ้อมกลับรร. กลับรร.แวะทานข้าว รีบพักผ่อน จบวัน
03.17.18
นั่งรถไฟจากรร.ด้วยMetroไปที่สถานี Gare Montparnasse เพื่อไปต่อรถไฟสายNออกนอกเมืองไปสู่จุดstartที่ Île de Loisirs de Saint-Quentin-en-Yvelines รายการ80km เริ่มต้นที่นี่ ณ เวลาเที่ยงวัน 15นาที มีcutoffเป็นช่วงๆ cutoffท้ายสุดต้องจบก่อนตีหนึ่ง
เช้าวันนี้มีฝนปรอยๆ และสภาพพื้นแค่เปียกๆ ณ จุดstart แต่พอเริ่มวิ่งออกตัวไปก็เริ่มแฉะมากขึ้น พยายามเลี่ยงๆเลือกลุยขอบๆทางที่มีต้นไม้ใบหญ้าคลุมเพราะลื่นน้อยกว่า แต่ก็เลี่ยงได้ไม่นานเพราะพอเข้าไปในtrailก็ต้องลุยทั้งน้ำทั้งโคลน เท้าเปียกชุ่มตลอดเส้นทางตั้งแต่จุดนี้ เส้นทางมีแต่โคลนหนืดและเละมาก หลายจุดโคลนลึกมิดข้อ คล้อยบ่ายฝนหมด หิมะตามมาปรอยๆตลอดไปจนค่ำ
ผ่านครึ่งทางใช้เวลาไป6ชม. ณ ตอนนี้มีดสนิทแล้วและเริ่มไม่แน่ใจว่าจะวิ่งจบเพราะเส้นทางส่วนใหญ่ยังคงเป็นโคลน ในหัวคิดวนไปวนมาว่าวันนี้อาจต้องยอมแพ้ระหว่างทาง และสงสัยจริงๆว่าคนข้างหน้าเค้าผ่านไปได้ไง แล้วคนข้างหลังเราคิดอะไรอยู่ อยากจะคุยกะใครซักคนก็ไม่ได้เพราะเกือบ100%รายการนี้เป็นคนฝาหรั่งเศษ อยากจะถามว่าเค้าขยายเวลาหรือมีมาตรการอะไรช่วยเหลือเรามั้ย? เพราะส่วนตัวแล้วไม่เชื่อสักนิดเลยว่าผู้จัดปล่อยให้การวิ่งเกิดขึ้นได้ในสภาพนี้ ทุกย่างก้าวก้าวด้วยความยากลำบาก วางเท้าแต่ละทีจม ยกขาแต่ละทีรองเท้าจะหนึบๆเหมือนจะหลุด เท้าที่เปียกและเย็นมายาวนานเริ่มชา ยิ่งค่ำอากาศยิ่งเย็น ยังดีที่ระยะนี้มีคนร่วมทางเกือบ2,200 ทำให้หน้าหลังมีเพื่อนในระยะสายตาตลอดเวลา ไม่กังวลเรื่องหลงทาง (ปล.ระยะนี้sold out จำกัดที่2500คน)
สรุปคร่าวๆ พื้นผิวที่วิ่งหรือพอจะวิ่งได้น่าจะมีซักราวๆ30% โดยส่วนใหญ่คือไมล์หลังๆที่เข้าสู่เมือง ณ จุดนี้มีแรงกลับมา หรือน่าจะเป็นความกังวลว่ารถไฟกลับรร.จะหมดมากกว่า และทั้งตัวมีเงินแค่2ยูโร เลยพยายามวิ่งขณะที่คนอื่นเดินริมแม่น้ำชมวิวกันหมดแล้ว แม้กระทั่งขึ้นบันได341ขั้นสู่เส้นชัยก็ยังแซงได้4-5คน ใช้เวลาไปทั้งหมด 12ชม. 20นาที 37วินาที เวลาตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้ว!!! ปารีสยังไม่หลับไหล รถไฟยังวิ่งอยู่ ดีใจมาก ขึ้นรถไฟกลับรร.แบบเน่ามว๊ากกก
03.18.18
ตื่นเช้าลุกขึ้นมาได้อย่างปกติ และเข้าเมืองไปเดินเล่นถ่ายรูป Cathédrale Notre-Dame, Sainte-Chapelle, และ Louvre แวะทานมื้อเย็น ก่อนกลับFrankfurtด้วยรถไฟเที่ยว5โมงเย็น
บทสรุป:
วันถัดมาทางผู้จัดส่งe-mailมาแสดงความยินดีเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมีข้อความชี้แจงแกมขอโทษ สำหรับสภาพอากาศที่เหนือความคาดหมายในช่วงดึกถึงเช้าวันวิ่ง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ้าเป็นแค่ฝนและหิมะในช่วงนั้น ไม่น่าจะทำให้trailเละเป็นโคลนได้อุบาทว์ขนาดนี้ คือก็ไม่มั่นใจ100% แต่จากประสบการณ์ตรง12+ชม.ประเมินว่าพื้นคงมีสภาพที่เละอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และทางผู้จัดควรแจ้งเตือน เพราะข้อมูลตรงนี้มีความสำคัญมาก ชี้เป็นชี้ตายได้เลย เป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งที่ทางผู้จัดก็ยอมรับเองว่าDNF(did not finish)เกือบ500คนปีนี้คือrecordสูงสุดตั้งแต่จัดมา ประสบการณ์ที่เหนือการคาดการแบบนี้สำหรับนักวิ่งนั้นผ่านได้ก็โชคดีไป ผ่านไม่ได้มันก็น่าเจ็บใจอยู่ เพราะบางคนtrainมาดี ถ้ามาขาดข้อมูลตรงนี้ แล้วใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสมอีกอาจเป็นปัญหาใหญ่ได้เลย ยกแค่ซักหนึ่งตัวอย่างเช่น นักวิ่งเท้าเปล่าหรือรองเท้าแตะเค้าจะรู้มั้ยว่าสภาพพื้นเป็นแบบนี้???
บางคนการDNFอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่บางคนที่เค้าไม่ได้วิ่งบ่อยๆ หรือเค้ามีแผนการเป๊ะสำหรับการสะสมคะแนน นี่มันเรื่องseriousมากๆที่ผู้จัดต้องให้ความสำคัญให้มากกว่านี้ มาตรการที่ทำได้ในกรณีนี้เท่าที่พอคิดได้คือ แจ้งเตือน, ปรับเปลี่ยนย่อเส้นทาง, ขยายเวลาcutoff, ปรับเวลาเริ่มวิ่ง ฯลฯ
รายการนี้นอกเหนือจากระยะ80kแล้วก็ยังมี 45, 30, 18kให้เลือก จุดเริ่ม เส้นทาง และจุดจบทับกันบางช่วง โดยปกติตามใบปลิวจั่วหัวน่าจะเป็นรายการที่ชิวมากๆทีเดียว Eco Trailนี้ยังเป็นซีรี่ที่จัดขึ้นอีกหลายประเทศแถบยุโรป ใครสนใจอยากเห็น Florence, Paris, Oslo, Madrid, Geneve, Stockholm, Brussels, etc ในมุมมองใหม่ๆก็ลองกันดูนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
