14 ม.ค. 2021 เวลา 07:55 • กีฬา
45th Berlin Marathon, Germany
(September 9th 2018, bib 53201, finished 03:31:18)
16 กันยายน 2561
ตี5:55 ตื่นมาฮาๆเอาฤกษ์เอาชัย ตั้งกาต้มน้ำที่ขนมาจากบ้าน กาแฟผงก็แบ่งเตรียมมา Muesliก็ยี่ฮ้อเดียวที่กินทุกเช้ามาเป็นปีๆ หลีกเลี่ยงทุกอย่างที่ไม่ใช่routine ทุกอย่างออกฤทธิ์ได้อย่างต้องการ การขับถ่ายไหลลื่นบ่งบอกว่า "วันนี้วันดี วันที่จะมีชัย" จะทุบเวลา3:30:00ได้เบาๆ แบบไม่เสียเลือดเสียเนื้อ
รายชื่อนักวิ่ง44,389คนเช้านี้ ในนั้นมีคนไทยร่วมอยู่238คน นับว่าเยอะทีเดียวสำหรับประเทศเล็กๆในรายการเมเจอร์ อากาศเช้านี้ดีมากๆ ไม่หนาวไม่ร้อน ตอน9โมงเช้าที่16องศา บรรยากาศคึกคักฮึกเหิมแข็งๆแบบเยอรมัน จุดออกตัวไหลลื่นไปได้ดีมากกว่าที่คิดไว้คงเป็นเพราะถนนที่กว้างงงงงมากๆ กลุ่มFนี้ออกตัวช้ากว่าพี่Kipchokeราวๆ15-20นาที ผมเข้าเส้นชัยลำดับที่ 6,266 คร่าวๆก็คือมีคนข้างหน้าเราตลอดเส้นทางราวๆ6,000คน ทำให้เห็นถนนที่กว้างๆมันแน่นไปจนสุดสายตา แน่นจนรู้สึกเมื่อยคอที่ต้องคอยชะเง้อธงpacer3:30ที่อยู่ไม่ไกลนัก ถ้าเป็นรถก็คือวิ่งกันเร็วแบบbumper to bumper ใครหยุดก็โดนสอยตรูดแน่
ผมพยายามตามธงนี้มาได้เรื่อยๆ ใกล้ที่สุดก็เมื่อถึงจุดให้น้ำที่คนหลีกเข้าซ้ายขวากัน เราพกน้ำเองก็เลยได้ใช้จังหวะนี้พุ่งไปใกล้ๆpacer มีบางจังหวะที่คิดอยากจะนำ แต่กล้ามเนื้อและGarminห้ามปรามไว้ คิดว่าถ้าเหลือที่10กิโลสุดท้ายค่อยมาว่ากันอีกที 35กิโลผ่านไปทำเวลาได้คล้ายกับที่ซ้อมมา คือถ้าเพซไม่ตกมากก็จะเข้าก่อน3:30:00ราวๆ2นาที หัวใจทำงานได้ดีมาก ไม่เหนื่อยไม่หอบเลย แต่ขาเริ่มหนักและล้ามาก มีเจ็บๆช้ำๆที่เท้าขวา เริ่มมีอาการหมด 2นาทีcushionที่เก็บหอมรอมริบมามะลายหายไปและติดลบในช่วง 7กิโลเมตรสุดท้ายนี้เอง เป็นการหมดที่ฮวบฮาบทีเดียว
Brandenburg Gateอยู่ในสายตาแล้ว เสียงประกาศแจ้งวันนี้มีnew world record เสียงเชียร์ก้องกระหึ่มตลอดแนว ทั้งหมดนี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ตะคริวที่ต้นขาและน่องขวามาเยือนแบบต้องหยุดเดินราวๆสิบก้าวตรงหน้าBrandenburg Gate ถอดใจจริงๆสำหรับ3:30:00 เส้นชัยอยู่แค่เอื้อม ก็พยายามเร่งเต็มที่เพื่อไม่ให้หลุดไปไกลมากนัก 3:31:18"เวลาอย่างเป็นทางการถูกตอกย้ำด้วยการสลักไว้บนเหรียญfinisher โอว...มันปวดใจ นี่ขนาดในวันที่สภาพทุกอย่างเป็นใจ ยังทำพลาดตกหล่นไปได้เอง
สรุปรวมรายการนี้ดีงาม เป็นมาราธอนที่5ของตัวเอง เป็นเมเจอร์แรกและคงวิ่งสนามนี้เพียงครั้งเดียว สองเดือนสำหรับการเทรนตัวเองที่เพซ5เป็นอะไรที่แปลกใหม่และทรมานดี ได้พาร่างกายและหัวใจไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ความสำเร็จตรงจุดนี้ทำได้ดี ทำเวลาจบได้ดีกว่าFrankfurtปีที่แล้ว10นาที แต่ก็พลาดเป้าหมายใหญ่ที่จะเบรค3:30:00 ก็เป็นสิ่งที่ต้องไปทบทวน เรียนรู้ ฝึกฝนกันต่อไป แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา มาราธอนมันสนุกตรงนี้ วิ่งจริงร่วมกันเป็นหมื่นๆ แต่เบื้องหลังมันเป็นเกมส์เงียบๆโง่ๆของเราเองคนเดียว
Timeline
สมัคร:
lotteryเปิดรับสมัครเดือนตุลาคม วัดดวงกันล้วนๆนะครับ ส่วนช่องทางพิเศษอื่นๆหรือวิ่งโคตรเร็วก็ลองดูข้อมูลเองนะครับ ผมประเมินแล้วsemi-eliteชายรุ่นอายุ40-45ปีต้องต่ำกว่า2:45:00 ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายมากครับด้วยการสมัครทางlottery การกรอกข้อมูลตอนสมัครต้องใช้บัตรเครดิตคาร์ดเลย เพราะถ้าได้เค้าจะหักเงินทันที 108ยูโรคือค่าวิ่งอย่างเดียว จะบวกอีกเท่าไหร่แล้วแต่ว่าเลือกซื้ออะไรไปเพิ่มหรือไม่ เป็นระบบของแถบยุโรปจริงๆที่ถ้าต้องการอะไรก็ต้องจ่ายเพิ่ม อะไรที่ไม่ต้องการก็ไม่ต้องเอาไปให้รกและไม่ต้องเสียเงิน
*นอกเหนือจาก ชื่อ วันเกิด ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น ก็ต้องกรอกเวลามาราธอนpersonal bestของเรา ถ้าไม่เคยวิ่งก็ไม่เป็นไร เค้าจะจัดให้เราไปอยู่กลุ่มstartกลุ่มท้ายสุด(A-H) ส่วนใครเกิดทำnew personal bestหรือวิ่งมาราธอนครั้งแรกขึ้นมาหลังจากสมัคร ก็สามารถเอาผลไปเปลี่ยนแปลงได้วันรับbib ถ้าซีเรียสเรื่องstarting block
*ที่ยุโรปยังนิยมใช้chipที่จับเวลาติดร้อยไว้ที่รองเท้าซึ่งเป็นระบบเก่า แต่สามารถนำไปวนใช้ได้เรื่อยๆ ถ้าใครมีเป็นของตัวเองก็นำไปregisterได้ที่งานexpo ส่วนใหญ่ไม่มีกันก็เช่าเอาครับ 6ยูโร ระบบนี้ต่างจากระบบใหม่ที่เคยเจอซึ่งใช้เป็นแถบข้อมูลอยู่หลังbibที่เรียกว่าB-tag
*เสื้อมี2แบบให้เลือก(เสียเงิน) event และ finisher ตัวละ30ยูโร จะไม่เลือกตอนสมัครแล้วมาซื้อที่expoหรือวันวิ่งก็ได้ แต่อาจเสี่ยงไซด์ที่ต้องการหมด ส่วนตัวคิดว่าเสื้อeventสวยกว่ามาก แต่ในฐานะคนวิ่งก็นะมักจะต้องมีfinisher t-shirt พองานจบของพวกนี้จะโล๊ะขายonlineลด20-40%
*Medal engraving สลักชื่อและเวลาบนเหรียญfinisher 9ยูโร
*Clothing drop-off หรือ poncho ทั้งสองอย่างไม่คิดเงิน แต่เลือกได้อย่างเดียว ถ้ามีของติดตัวที่ต้องการใช้ก่อนและหลังวิ่งให้เลือกclothing drop-off ก็คือจะได้ถุงdrop bagที่มีเบอร์bibของเรา ส่วนponchoก็เป็นเสื้อถุงคลุมอบอุ่นร่างกายซึ่งจะได้รับหลังวิ่งเสร็จ
*หลังการสมัคร ประมาณต้นเดือนธันวาคมถึงจะรู้ผล บางคนแนะนำว่าพอสมัครปุ๊บให้จองโรงแรมได้เลย จองแบบที่ยกเลิกได้ ก็เป็นข้อแนะนำที่ดีครับโดยเฉพาะงานใหญ่ๆ ค่าโรงแรมราวๆคืนละ100ยูโรขึ้นไปครับ ผมจองตอนรู้ผลแล้วก็ยังพอหาได้
ซ้อม:
เอาที่สะดวกนะครับ ผมสะดวกแบบแน่นๆ2เดือน เดือนสิงหาคมวิ่งรวมราว300กิโล ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามวิ่งที่เพซ5หรือเร็วกว่า แรกๆหอบมากแต่intervalทำให้หัวใจปรับตัวที่เพซนี้ได้ดี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต่างหากที่ตามมาไม่ทัน แต่โดยรวมคิดว่าซ้อมถึงและค่อนข้างมั่นใจสำหรับเวลา3:30:00 แต่ถ้าจะบวกลบก็1-2นาที
Pickup bib & Expo:
ก่อนมาถึงจุดนี้ ได้รับe-mailอะไรก็อ่านและศึกษารายละเอียดให้ครบนะครับ การมารับbibต้องมี startcard (หลักฐานการลงทะเบียนของเรา) และID
*ส่วนรับbibจะอยู่ด้านในๆของexpo ก่อนเข้าส่วนรับbibจะมีgateที่เค้าจะใส่สายข้อมือให้เฉพาะนักวิ่งเท่านั้น สายข้อมือนี้เอาไว้เข้าrestricted areasตลอดช่วงevent เช่นเค้าเตอร์รับbib ,จุดstart, after race party ฯลฯ
*สั่งอะไรไว้ก็ดูให้ครบถ้วนว่าได้ครบมั้ย ยกเว้นponchoครับที่รับหลังวิ่ง ที่นี่พิมพ์bibสดๆนะครับ ไม่ได้พิมพ์ล่วงหน้าแล้วแบ่งแยกช่องให้รับตามกลุ่มเบอร์ สรุปเข้าช่องไหนก็ได้เลยครับ Think Germanจริงๆ
*งานexpoก็ใหญ่โตมากมายดีครับ มีกิจกรรมและของแจกมากมาย ของขายโดยรวมราคาไม่ถูกกว่าหาซื้อเองครับ ทุกอย่างเป็นการเสียเวลาอย่างยิ่ง ถ้าไม่ชิวจริงๆก็ข้ามไปเลยครับexpo
Race day:
รวมๆแล้วก็ตามที่เล่ามาข้างต้น มีtipsอื่นๆเท่าที่จะนึกออกดังนี้ เรียงตามลำดับเวลานะครับ
*ห้องน้ำมีให้เยอะมาก แต่คนจะเยอะสำหรับห้องน้ำที่อยู่รอบนอกๆ ถ้าเดินเข้าไปเรื่อยๆก็ยังมีอีกเยอะหลายจุด สำหรับท่านชายมันง่ายมากเพราะจุดstartเป็นสวนสาธารณะใหญ่ สุมทุมพุ่มไม้เต็มไปหมด
*ถ้ามีการต่อคิว สำหรับห้องน้ำ อาหาร ฯลฯ เหลือบดูbibกันสักนิดนะครับ ถ้าเห็นใครมีstarting blockต้นๆ(A-H) ก็ให้เค้าใช้ก่อนเป็นน้ำใจที่ดีงามครับ ถ้าเราทนไหว ยิ่งถ้าเวลางวดเข้ามาแล้วคุณไม่ได้วิ่งด้วยแล้ว หลบให้นักวิ่งก่อนก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
*starting block เอาเข้าจริงก็มั่วๆได้ครับ แม้เค้าจะมีป้ายบอกไว้แยกไว้ให้เข้า แต่ดูเหมือนไม่มีการเช็คอะไรครับ แต่ก็อีกแหละ ถ้าเราฝีเท้าอ่อนด้อย การให้คนที่เร็วกว่าไปก่อนก็ดีงามเสมอครับ ออกไปกับคนเร็วกว่าเรามากก็ไปเป็นภาระให้เค้าต้องแซงเราเปล่าๆ
*อุณหภูมิ 16-20ดีงามมาก แขนสั้นขาสั้น เสื้อกล้ามก็ยังไหว เส้นทางร่มรื่นตลอด ไม่มีเนินจังๆ ไม่มีสะพานโค้งๆ ไม่มีหักศอก ไม่มีcobblestones
*จุดให้น้ำเพียงพอ แม้ไม่ได้ใช้บริการมากแต่สังเกตว่าทุกอย่างปกติ ถ้าใครไม่หิวน้ำต้องการผ่านไป พอเริ่มได้ยินเสียงก๊อบแก๊บๆจากการเหยียบแก้วน้ำ ก็ให้เตรียมอยู่ตรงกลางๆไว้เพื่อจะได้วิ่งผ่านไปได้สะดวกๆ
*ระยะ42.195เป๊ะจะถูกmarkไว้ด้วยเส้นสเปร์สามขีดสีฟ้า ถ้าซีเรียสก็ควรมองๆแนบๆเส้นนี้ไว้ให้สม่ำเสมอ และตามไปเนิ่นๆโดยเฉพาะก่อนเข้าโค้ง
Finish line:
หลังรับเหรียญ เดินออกมาจะเห็นส่วนต่างๆแยกกันเป็นโซนๆไปเช่น ส่วนรับponcho, ที่คืนchip (อย่าลืม), ที่รับdropbag, บริการนวด, ที่อาบน้ำ, nonalcoholic beer, สลักเหรียญ ซึ่งเคยอ่านรีวิวปีก่อนหน้าว่าแถวสลักเหรียญยาวมากๆ แล้วยังรอนานถึงขั้นต้องไปไหนแล้วค่อยกลับมารับ แต่ปีนี้สองนาทีเสร็จครับ Think German ขอชื่นชมในการแก้ปัญหาและนำไปปรับปรุง หรือว่าเค้าสลักกันไปหมดแล้วก็ไม่ทราบนะครับ?
เช้าวันรุ่งขึ้น:
หนังสือพิมพ์ Berliner Morgenpostจะมีinsertในส่วนของ Berlin Marathonครับ ในนั้นมีชื่อfinisherทุกท่าน 1.50ยูโร
บทเรียนที่ก็รู้ทั้งรู้แต่ยังทำได้ไม่ดี:
Anyone can run a hard 20 miles in a marathon; it’s what you do in the final 10k" — Tim Tollefson
โฆษณา