18 ม.ค. 2021 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เวลาที่เหมาะสมมาถึง ]
สื่อหลายสำนักต่างเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าสัญญาฉบับใหม่ของ จินี่ ไวจ์นัลดุม ไม่มีความคืบหน้า
ลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอมาแล้ว อีกทั้งมีการเจรจามาพอสมควร แต่ยังได้คำตอบเดิมๆ นั่นคือยังไม่ตกลง
สัญญาของเขากับหงส์แดงจะหมดลงในซัมเมอร์ 2021 หรืออีกไม่กี่เดือนนี่แหล่ะ ตามกฎแล้วสามารถคุยสโมสรอื่นได้เลย ซึ่งเชื่อกันว่ามีมาบ้างแล้ว
ความจริงลิเวอร์พูลไม่ได้นิ่งนอนใจเลย เรียกนักเตะมาเปิดอกคุยตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้ว แต่ก็มีการซื้อเวลาเรื่อยมา
กระทั่งกันยายน 2020 สโมสรยังแสดงความจริงใจ จับเข่าคุยกันพร้อมสัญญาฉบับใหม่ที่คิดว่าดีพอแล้ว
แต่เชื่อกันว่า ไวจ์นัลดุม หรือเพื่อนฝูงเรียกว่า จินี่ ต้องการแบบระยะยาวคือลากไปถึงปี 2025 โน่นเลย เพื่อความมั่นคงในบั้นปลายของการค้าแข้ง
เขาเพิ่งครบ 30 ปีเต็มเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา นโยบายของลิเวอร์พูลหรือแม้กระทั่งสโมสรใหญ่ๆทั้งหลาย ไม่ค่อยให้สัญญายาวๆกับนักเตะอายุที่แตะหลักสามแล้ว
พอการต่อรองเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าต่างฝ่ายต้องเสียเวลากลับไปทบทวนชั่งใจกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไร
ประเด็นสำคัญคือ จินี่ ไม่ได้มีตัวเลือกเพียงแค่ลิเวอร์พูล แต่มีบาร์เซโลน่าแทรกมาเป็นมือที่สามด้วยและดูเหมือนนักเตะก็มีใจให้มากๆเช่นกัน
อย่างที่รู้กันในสถานการณ์เช่นนี้ เขากุมความได้เปรียบไว้อย่างชัดเจน สามารถต่อรองกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาหรือค่าจ้าง เนื่องจากย้ายแบบฟรีเอเจ้นต์
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่มาจากความรู้สึกด้วย นักเตะดัตช์ส่วนมากมีความฝันได้เล่นให้บาร์เซโลน่า
โยฮัน ครัฟฟ์ คือปรมาจารย์ผู้ปูทางสร้างความยิ่งใหญ่ในแบบฉบับ "ดัตช์โมเดล" เป็นเหมือนไบเบิ้ลให้พวกแข้งรุ่นลูกรุ่นหลานอยากมาบาร์เซโลน่า
ต่อให้ยุคหลังบาร์เซโลน่าจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังมีพลังดึงดูดมากพอช่วยให้แข้งฮอลแลนด์อยากจะย้ายมาร่วมทีม
อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะช่วยเติมเต็มความฝันให้เป็นจริง
สมัยยังเด็กฟุตบอลไม่เคยอยู่ในหัวของ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม เลยสักนิดเดียว
ไม่เคยแม้กระทั่งติดตามชมเกมทางหน้าจอทีวี
1
ความฝันที่เจิดจ้าคือการเป็นนักยิมนาสติก ไม่ก็พวกแนวนักกายกรรมที่เน้นความสวยงามอ่อนช้อย ไวจ์นัลดุม ไม่มีแนวโน้วเลยว่าจะมาเอาดีทางเกมลูกหนังได้เลย
นอกจากนี้ยังมีความมุ่งมั่นถึงขั้นสู่ทีมชาติไปเล่นในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างโอลิมปิก ได้เหรียญรางวัลมาคล้องคอเป็นเกียรติยศกับชีวิต
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในวันหนึ่งในวัย 6 ขวบญาติๆของเขาชวนกันไปดูสนามของสปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัมที่มีการรีโนเวทใหม่อย่างสวยงาม เลยตามไปด้วยอยากสัมผัสบรรยากาศที่ร่ำลือกันว่าเร้าใจ
ทันทีที่ได้เห็นมันน่าขนลุกมาก จิตวิญญาณของแฟนบอลสปาร์ต้าที่แม้ส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นแรงงาน เป็นกลุ่มคนรากหญ้า แต่ทรงพลังมากๆแพสชั่นทุกคนมาเต็มเปี่ยม
ไม่รู้ว่า จินี่ เป็นพวกจิตใจโลเลหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆความฝันเป็นนักยิมฯถูกพับเก็บไว้ จากนั้นวาดการเป็นแข้งอาชีพขึ้นมาทดแทน
อาจเพราะว่ามีพรสรรค์เกี่ยวกับการเล่นกีฬาติดตัวมาตั้งแต่เกิด จากที่ไม่คุ้นเคยฟุตบอล ก็พัฒนาด้านทักษะได้ดีมากๆภายในระยะเวลาอันสั้น
ไม่นานนักเขาได้ทดสอบฝีเท้าเพื่อเข้าอะคาเดมี่ของสปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัม ปรากฎว่าติดตามคาด แล้วหัวบันไดก็ไม่แห้งหลายสโมสรอยากได้ตัวรวมถึงสองมหาอำนาจอย่างอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นด้วย
เพราะยังอายุน้อย ไม่อยากจากบ้านไปไกลเขาจึงเล่นอยู่กับสปาร์ต้าซึ่งเป็นสโมสรท้องถิ่นไปพลางๆก่อน
ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปีในทีมเยาวชนก็ทะลุสู่ชุดใหญ่ ได้ลงเป็นตัวจริงทันทีในเกมลีกกับโกรนิงเก้นและถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ซึ่งน่าจับตาอย่างมากในวงการเวลานั้น
เขามีอายุเพียงแค่ 16 ปีกับอีก 148 วัน ทำสถิตินักเตะอายุน้อยสุดได้เล่นชุดใหญ่ของเฟเยนูร์ด
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเขาไม่ได้ลงเล่นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ ยังสร้างผลงานที่ทุกคนต้องอ้าปากค้าง จนคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ไปครอง
ชื่อของเขาถูกพูดถึงมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นักเตะสายเลือดใหม่ธรรมดา แต่ถูกคาดหวังจะก้าวขึ้นเป็นแกนหลัก
จินี่ มาร้อนแรงมากในฤดูกาล 2010/11 อายุเพียงแค่ 20 ปีแต่ทำไปถึง 14 ประตูจาก 34 นัดที่ลงเล่น ทั้งที่ส่วนใหญ่ถูกวางให้เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางหรือไม่ก็ริมเส้นบางคราว
มิถุนายน 2011 ผู้อำนวยการเทคนิคของเฟเยนูร์ดประกาศว่าได้รับข้อเสนอ 5 ล้านยูโรของพีเอสวี เพื่อขอซื้อ จินี่ ไปร่วมทีมด้วย
จากสถานการณ์การเงินเฟเยนูร์ดไม่สู้ดีนัก มีค่าใช้จ่ายมากทะลุเพดานรายได้ จึงต้องจำใจปล่อยแข้งดาวรุ่งที่ว่ากันว่าดีสุดในประวัติศาสตร์ของทีมไป
การเดินทางของ จินี่ ไม่ได้หวือหวาหรอก แต่เต็มไปด้วยความมั่นคงในลักษณะสเต็ปบายสเต็ป ไม่ได้ขึ้นลิฟท์จ้ำพรวดไปข้างหน้าอย่างที่แข้งอนาคตไกลหวังกัน
จินี่ แสดงให้เห็นความสามารถอย่างแท้จริง เอาชนะใจ ฟิลิป โคคู กุนซือของพีเอสวีในช่วงดังกล่าว ยึดตัวจริงเรื่อยๆมา อาจมีอุปสรรคตรงอาการบาดเจ็บบ้าง แต่ก็สู้จนผ่านมาด้วยดี
ปี 2013 แม้ โคคู จะไม่ได้เป็นกุนซือแล้ว แต่การเปลี่ยนบอสมาเป็น ดิก อัดโวค้าท ก็สร้างความประทับใจได้เช่นเดิม
ไม่นานนัก มาร์ค ฟาน บอมเมล กองกลางรุ่นลายครามประกาศรีไทร์ จินี่ จึงได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม
กระทั่งจุดพีกมาถึงในซีซั่น 2014/15 เมื่อพีเอสวีผงาดครองแชมป์เอเรดิวิซี่หรือลีกสูงสุดดัตช์สำเร็จ
การได้นำทีมครองแชมป์นี้ หมายถึงมาการเดินมาจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้นจึงพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ซัมเมอร์ 2015 เขาโยกมานิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้จะได้รับข้อเสนอจากอีกหลายทีม แต่เชื่อว่าที่นี่จะเปิดโอกาสได้เล่นอย่างต่อเนื่อง ในวัยเบญจเพสการได้มีบทบาทลงแบบยาวๆจะช่วยต่อยอดได้อีก ไม่ใช่ย้ายไปแล้วถูกจับดองข้างสนาม
ค่าตัว 14.5 ล้านปอนด์ที่ทางแม็กพายส์จ่ายให้นับว่าสมน้ำสมเนื้อดีแล้ว ซึ่งตัวเขาเองก็ตอบแทนอย่างคุ้มค่า
เพราะ 38 นัดในลีกลงเล่นครบเป๊ะ ไม่ขาดตกบกพร่อง อีกทั้งทำไปทั้งสิ้น 11 ประตูถือว่าสูงมาก ลิเวอร์พูลจึงเปิดอ้อมกอดพร้อมต้อนรับ
นิวคาสเซิ่ลเองก็แฮปปี้กับเงิน 23 ล้านปอนด์ที่ถูกยื่นมาให้ ได้กำไรเห็นๆเกือบ 10 ล้านในช่วงเวลาแค่ปีเดียว สำหรับ ไมค์ แอชลี่ย์ ซึ่งเป็นเจ้าของไม่เอาก็บ้าแล้ว
การมาลิเวอร์พูลอาจต้องทำงานและต่อสู้อย่างหนักมากสุดตลอดการค้าแข้ง แต่เขาก็ไม่เคยหวั่นไหว มั่นคงกับแนวทางในแบบตัวเองเรื่อยมา
อีกทั้ง จินี่ เองมีส่วนสำคัญช่วยให้ เฟอร์กิล ฟานไดค์ ตัดสินใจย้ายมาในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องทีมชาติฮอลแลนด์ ซึ่งนั่นช่วยขันนอตเกมรับให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอีก
ถึงซัมเมอร์นี้เขาจะรับใช้ลิเวอร์พูลครบ 5 ปีเต็ม ได้แชมป์สำคัญมาครบหมดแล้วทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก , พรีเมียร์ลีก , ยูฟ่า ซูเปอร์คัพหรือฟีฟ่าคลับ เวิล์ดคัพ
ดังนั้นอาจจะถึงเวลาเหมาะสมแล้ว ในวัย 30 ปีช่วงท้ายของการค้าแข้ง ฝันที่วางเอาไว้อย่างสวยงามรออยู่ข้างหน้า
บาร์เซโลน่าคือคำตอบของความฝันอย่างแน่นอน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา