7 ก.พ. 2021 เวลา 02:23 • อาหาร
อาหารตกพื้น กินได้มั๊ยน๊อ
freepik
ถ้ามีค้อนหล่นใส่หัวคุณ
คุณจะหลบหรือยืนอยู่เฉยๆ???
เชื้อโรคก็ไม่ต่างอะไรไปจากเรา
หลบได้ก็หลบ เรื่องอะไรจะปล่อยให้อาหารหล่นใส่หัวเจ็บตัวเปล่าๆ เนอะ
แต่น่าเสียดาย ที่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้น
รวมไปถึงคำพูดที่ว่า ตกพื้นไม่ถึงห้าวินาที กินได้ เชื้อโรคยังไม่เกาะ
https://th.wikipedia.org/wiki/Salmonella
ทันทีที่อาหารหล่นลงบนพื้น เชื้อแบคทีเรียก็เข้ามาเกาะติดได้โดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที
แต่
เชื้อจะเกาะติดมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ
ความชื้นของอาหาร
ยิ่งอาหารมีความชื้นสูงแบคทีเรียก็ยิ่งแพร่กระจายเข้าสู่อาหารได้มากขึ้น
เนื่องจากแบคทีเรียเคลื่อนที่ได้ดีในของเหลว เพราะฉะนั้นแบคทีเรียจะวิ่งกรูเข้าไปในพิซซ่าได้มากกว่ามันฝรั่งทอดนั่นเอง
ระยะเวลา
แน่นอนว่ายิ่งเวลาที่ปล่อยให้อาหารตกลงบนพื้นผิวนานเท่าไหร่ แบคทีเรียก็ยิ่งเกาะติดขึ้นมามากเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ยังต้องคิดเผื่อไปถึงอุณหภูมิในขณะนั้นด้วย เพราะที่อถณหภูมิระหว่าง5-60องศาเซลเซียส คือช่วงที่แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
พื้นผิว
คือสิ่งที่สำคัญสุด โดยเฉพาะหากพื้นผิวยิ่งเรียบยิ่งมันวาวมากเท่าไหร่ โอกาสที่อาหารจะปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียก็มีมากเท่านั้น เนื่องจากเป็นการสัมผัสแนบชิดสนิททุกอณูนั่นเอง
จึงทำให้อาหารนั้นรับสิ่งปนเปื้อนเข้าไปได้เต็มที่
freepik
นอกจากการปนเปื้อนทางชีวะภาพแล้ว
อีกสิ่งนึงที่ควรคิดก่อนหยิบอาหารที่ตกมากิน
ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหารของชาติที่แล้ว ที่อยู่บนพื้นที่เรากวาดไปไม่หมด
หรือจะเป็นเศษแก้วที่ทำแตกในห้องครัวที่กระเด็นเป็นเศษเล็กๆน้อยๆไปไกลถึงห้องอาหาร
freepik
การทดสอบอาหารอย่างจริงจัง
โดย Jillian Clarke ในปี2003 ได้ทดสอบการเกาะติดของเชื้อแบคทีเรีย
โดยใช้เชื้อsalmonella พ่นไปบนแผ่นกระเบื้อง และใช้เยลลี่หมีในการทดสอบ
ผลปรากฎออกมาว่า พบเชื้อแบคทีเรียก่อน5วินาที เพียงแต่เป็นการศึกษาเรื่องระยะเวลาเท่านั้น ไม่ได้ศึกษาต่ออย่างจริงจังว่าปนเปื้อนเชื้อเกาะติดมากแค่ไหน
ต่อมาในปี 2007 มีการทดลองจริงจังในมหาวิทยาลัยเคลมสัน
โดยใช้เชื้อซาโมในระยะเวลาที่แตกต่างกัน
ซึ่งพบกับความจริงที่ว่า ไม่เกี่ยวกับระยะเวลาว่าจะนานแค่ไหน
แต่ขึ้นอยู่กับพื้น พื้นยิ่งมันวาว ยิ่งเกาะติดได้ง่าย
โดยได้ผลการทดสอบคือ แบคทีเรียมาเกาะติดอาหารในสภาพพื้นที่เป็นพรมเพียงแค่0.5-1%
ในขณะที่พื้นกระเบื้องมีแบคทีเรียมาเกาะติดสูงสุดถึง 70%
เข้าไปอ่านเพิ่มเติมเรื่องเชื้อโรคได้จากลิ้งค์นี้
ไม่ใช่แค่ว่าอาหารตกเราควรระวัง
การเก็บของในตู้เย็นอย่างผิดวิธีก้มีโอกาสเกิดการปนเปื้อนได้ไม่ต่างอะไรกับหยิบของตกพื้นมากิน อย่างเช่นว่า เก็บไข่ไก่ดิบไว้รวมกับผักสดงี้ ซาโมเนลล่ามันก็มาติดผักได้ กลายเป็นปนเปื้อนข้ามไปอีกต่อนึง หรือดันเอาปลาแช่แข็งไปละลายทิ้งไว้ในตู้เย็นชั้นบน แต่ชั้นล่างเอาหม้อที่ใส่แกงปรุงสุกไว้ แบบนี้น้ำจากปลาที่ละลายก็อาจหยดลงมาปนเปื้อนอาหารสุกได้
อีกสิ่งที่อยากให้พึงระวังไว้
คือแบคทีเรียเนี่ย มันจะสร้างสารพิษสร้างสปอร์ขึ้นมา ไอ้ตัวเนี๊ยะแหละอันตรายไม่แพ้กัน
ยกตัวอย่างว่าที่บ้านทำแกงมัสมั่น คือยิ่งหลายวันยิ่งอุ่นหลายครั้งมันก็ยิ่งอร่อยยิ่งเข้าเนื้อก็จริง แบคทีเรียเกือบทุกตัวตายด้วยความร้อนก็จริง แต่ระหว่างนั้นหละ
หลังจากที่เราอุ่นจนเดือด แน่นอนว่าแบคทีเรียมันตายเกืบหมด แต่เราไม่ได้ทำให้มันเย็นลงอย่างรวดเร็วไปสู่อุณภูมิที่ปลอดภัยที่แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ยากนิ ช่วงเวลานั้น แบคทีเรียก็จะแบ่งตัวกันอีก สร้างสปอร์สารพิษกันขึ้นมาอีก
1
พออีกวันรุ่งขึ้น ก็เอาแกงหม้อเดิมมาอุ่นกินอีก
แอ๊ะ มันก็ไม่บูดนะ ไม่มีกลิ่น แต่มันจะท้องเสียอาหารเป็นพิษได้
ก็เพราะแม้แบคทีเรียมันตายไป แต่สปอร์ของมันยังอยู่ไงหละ
อุ่นเข้าไปเถอะ อุ่นแล้วอุ่นอีก สะสมสปอร์จนเข้ารพ.ซักวัน
ที่สำคัญกว่านั้นที่หลายคนอาจมองข้าม
แบบร้านนี้สะอาดดีจัง เช็ดโต๊ะตลอดเลย
เคยลองเอาจมูกไปดมฟุดฟิดๆดูมั๊ย สูดเข้าไปให้เต็มปอด
จะได้กลิ่นเหม็นนิดๆโชยออกมาที่น้ำยาทำความสะอาดกลบไม่หมด
ผ้าขี้ริ้วที่ใช้เนี่ยแหละตัวดี ใช้ตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิด แหล่งสะสมแพร่กระจายเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น หล่นบนโต๊ะก็อันตรายไม่แพ้กัน
https://board.postjung.com/929912
แถมท้าย
ถ้าอยากให้ผักปลอดภัย
แนะนำให้ล้างให้เสร็จก่อนปอกก่อนหั่น
เนื่องจากสารพิษและเชื้อจุลินทรีย์สามารถแทรกซึมเข้าไปเนื้อผักและผลไม้ได้
แต่บางทีผักมันก็ปนเปื้อนมาตั้งกะอยู่ในปี๊ปละหละ
freepik
รู้หรือไม่
เหตุที่คนสมัยก่อนบอกว่า
อย่ามือซนไปคนแกง เดี๋ยวแกงจะบูด
นั่นก็เป็นเพราะแกงกะทิแท้ๆของไทยเราจะเคี่ยวกะทิให้แตกมันซะก่อน
ทีนี้พอแกงเสร็จ ก็จะมีชั้นน้ำมันเคลือบผิวหน้าแกงไว้ แล้วไอ้น้ำมันตัวนี้เนี่ย มันก็มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจากพืชผักสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องแกงอีกต่างหาก
ชั้นของน้ำมันนี้จึงเป็นประหนึ่งดั่งมีชั้นบาเรีย คอยกันสิ่งสกปรกและเชื้อจุลินทรีย์ลงไปสัมผัสเนื้อแกง
แต่หากเราคนแกงบ่อยๆ นอกจากจะโดนคุณย่าดุ คุณยายตี
ยังเป็นการนำพาเชื้อและสิ่งสกปรกเข้าสู่อาหารนั่นเอง
บทความนี้ได้แรงบัลดาลใจจาก
คุณฟาง เพจ เรื่องดีดี
โฆษณา