Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Koocast
•
ติดตาม
14 ก.ย. 2018 เวลา 00:29
เล่าเก่า : นวัตกรรม กึ่ง สำเร็จรูป
----
1“Peace will come when people have food”
คำกล่าวนี้เป็นของชายผู้สร้างนวัตกรรมที่ได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรตนี้ 'Momofuku Ando'
เขาเกิดที่ Kagi-cho เมื่อปี 1910 ในไต้หวัน
หลังสงครามโลก ญี่ปุ่นแพ้สงคราม... ประชาชนอดอยาก ข้าวเป็นของหายาก รัฐบาลสนับสนุนให้ทุกคนกินขนมปังจากแป้งสาลีที่นำเข้าจาก สหรัฐ เพราะหาง่าย ราคาถูก และเก็บไว้ได้นาน
แต่เขากลับสังเกตเห็นว่าคนทั่วไปมักยืนต่อแถวเพื่อกินราเมนมากกว่าจะกินขนมปังแข็งแห้งเหล่านั้น เขาหาข้อมูลพบว่า อุตสหกรรมราเมนไม่สามารถรองรับความต้องการของประชากรได้ ทำให้เขาพยายามค้นคว้าว่า จะทำอย่างไรให้ผลิตราเมนให้พอต่อความต้องการ ราคาถูก ทำได้ง่าย และเก็บได้นาน
---
2
วัยเด็ก Momofuku Ando มีชื่อว่า 'Go Pek-Hok' อาศัยอยู่กับยายเนื่องจากพ่อเเม่เสียชีวิต และกับยายนี่เองที่ทำให้เขาชอบทำธุรกิจ
ด้วยเงินมรดกของพ่อแม่เพียงหนึ่งแสนเก้าหมื่นเยน เขาเริ่มธุรกิจแรกคือธุรกิจสิ่งทอ ในวัยเพียง 22 ปี เขาบริหารงานจนกระทั่งปี 1933 เขาก็มาเรียนบริหารธุรกิจที่ Ritsumeikan University, Osaka และในขณะที่เขาศึกษาอยู่นั้น ก็เริ่มธุรกิจเสื้อผ้าไปด้วย
Go Pek-Hok ได้แต่งงานกับภรรยาชาวญี่ปุ่น และเปลี่ยนชื่อเป็น Momofuku และนำเอานามสกุล Ando ซึ่งเป็นของภรรยามาใช้
1948 ชีวิตของเขาสู่จุดตกต่ำ เมื่อเขาโดนต่อต้านด้วยข้อหาเลี่ยงภาษี
(โดยเขาบอกว่าเงินเหล่านั้นนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน)
เป็นสาเหตุให้เขาต้องเข้าคุกเป็นเวลากว่า 2 ปี ต่อมาเขามีปัญหาด้านการเงิน ทำให้ต้องเสียธุรกิจเสื้อผ้าไป และต้อหาสิ่งอื่นทำ
สิ่งอื่นที่ว่าก็คือสินค้าเกี่ยวกับเกลือ โดยทำกันเล็ก ๆ ภายในครัวเรือน เพื่อให้มีชีวิตรอด
---
3
ญี่ปุ่นเข้าสู่สงคราม เเละกลายเป็นผู้แพ้ บ้านเมืองขาดแคลนและจำเป็นต้องพึ่งแป้งสาลีและขนมปังจากสหรัฐ แต่ด้วยความที่เขาเป็นนักธุรกิจ เขามองว่าเหล่านี้ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของคนญี่ปุ่น เขาจึงพัฒนาราเมนที่เป็นอาหารคู่ชาติ (แม้จะเป็นของจีนก็ตาม) ให้สามารถรับประทานได้ง่ายและเก็บได้นาน
จนกระทั่งปี 1958 Ando ในวัย 48 ก็ค้นพบวิธีการ
"Flash-frying"
ที่รักษาคุณภาพของเส้นราเมนให้อยู่ได้นาน และเมื่อนำมาใส่น้ำร้อนก็สามารถรับประทานได้ทันที โดยสินค้าแรกที่ออกวางจำหน่ายคือ ราเมนรสซุปไก่ มีชื่อว่า 'Chickin Ramen' และก่อตั้ง
Nissin Food Products Co., Ltd
แต่เอาเข้าจริงผลที่ได้ก็ต่างจากที่ตั้งใจพอสมควร เพราะเเรกเริ่มที่เขาขาย Chickin Ramen นั้น ราคาอยู่ที่ 35 เยน หรือเป็นหกเท่าของราคามาตรฐานของ โซบะ หรือ อุด้ง ในสมัยนั้น
แต่สุดท้ายด้วยสินค้าที่มีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่เก็บรักษานาน และสามารถทำกินเองง่ายนั้น ก็สามารถสร้างยอดขายให้ Ando
---
4
ในปี 1959 Mitsubishi Corp มองว่าธุรกิจนี้จะเป็นการนำญี่ปุ่นให้กลายเป็นประเทศอุตสหกรรม จึงช่วยโปรโมตสินค้า และ Ando ก็ก่อตั้ง ‘Instant Food Industry Association’ ในปี 1964 เพื่อวางรากฐานธุรกิจราเมนกึ่งสำเร็จรูป พัฒนาการพิมพ์รูปภาพลงหีบห่อ รวมถึงเป็นประธาน ‘International Ramen Manufacturers Association.’
จากนั้นพยายามตีตลาดอเมริกา (บางคนกล่าวว่านี้คือการเอาคืนด้วยสงครามธุรกิจ) แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก ทำยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า
Ando จึงบินไปสังเกตว่า ทำไมสินค้าของเขาไม่ได้รับความนิยม เขาจึงพบว่า คนอเมริกันนั้น ไม่ถนัดใช้ตะเกียบ รวมถึงการบรรจุห่อนั้นผู้บริโภคต้องมีถ้วย ทำให้ไม่สะดวกในการรับประทานนั่นเอง
แล้วจุดเปลี่ยนของธุรกิจของเขาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาสังเกตเห็นบางคนฉีกห่อราเมนและนำมาใส่แก้วกาแฟ กดน้ำร้อนแล้วกินด้วยส้อม
เขาจึงนำไอเดียนี้มาพัฒนาเป็น Cup Noodle โดยเขาเป็นคนพัฒนา Packaging สำเร็จในปี 1971 แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ก็มีเรื่องที่ถือว่าเป็นโชคของ Cup Noodle ก็ว่าได้
เมื่อเหตุการณ์การลักพาตัวประกันโดยกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่จังหวัดนากาโน่ โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ตลอดเวลาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 10 วัน
เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์ญี่ปุ่น ถึงร้อยละ 90 ผู้ชมเห็นความเคลื่อนไหวและความเป็นไปของเหตุการณ์โดยตลอด
และช่วงเหตุการณ์นี้เป็นช่วงหน้าหนาว ทำให้ผู้คนในเหตุการณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ไม่สามารถกินเบนโต๊ะได้ เพราะกลายเป็นน้ำแข็ง จึงมีการกิน Cup Noodle อยู่ตลอดเวลา เป็นเเรงส่งให้สินค้าของเขาบูมขึ้นมานั่นเอง
---
5
ปัจจุบันราคาของ Nissin ถูกสุดอยู่ที่ 70 เยน แต่ก็ยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าราเมนทั่วไปถึงสามเท่า ซึ่งมีการประมาณการว่า แต่ละปีทั่วโลกมีการรับประทานราเมนหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้กว่า 9.7 หมื่นล้านซอง/ถ้วย/ปี
โดยประเทศที่มีการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดคือ จีน ส่วนประเทศไทยมีการบริโภคกว่า สี่พันล้านซอง เป็นอันดับ 9 ของโลก แต่แนวโน้มยอดขายในจีนนั้นลดลง โดยจากการวิเคราะห์นั้นสาเหตุน่าจะมาจากชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนดีขึ้น และพยายามหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นนั่นเอง
แม้จะมียอดขายลดลงในช่วงสามสี่ปีหลัง แต่ก็ยังทิ้งห่างอันดับสองคือ อินโดนิเซียอยู่สามเท่าตัวอยู่ดี
---
6
ในปี1999 มีการตั้ง
"Momofuku Ando Instant Ramen Museum ที่ Osaka"
Momofuku Ando อยู่บริหารงานที่ Nissin จนกระทั่งปี 2005 และจากไปเมื่อปี 2007 ตอนอายุ 96 เรียกได้ว่าทำหน้าที่จนถึงที่สุด
ในชีวิตของเขาได้รางวัลมากมาย แต่ที่น่าภูมิใจที่สุด ก็น่าจะเป็นการได้รับการยกย่องจากคนญี่ปุ่นว่า เป็นนวัติกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรต
ก็อย่างที่เขากล่าวไว้ว่า สันติภาพจะเกิดเมื่อมีอาหารเพียงพอ
ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์นั้น ก็คือเรื่องปากท้องนี่เอง
---
Read on Blog
>>>>>>
http://upstartvalley.com/2018/09/no-instant-life-ando/
<<<<<<<
----
#MonkeyD
#เล่าเก่า
---
Cradit
https://www.bbc.com/thai/international-42428278
https://www.posttoday.com/market/news/543490
https://lemelson.mit.edu/resources/momofuku-ando
https://www.vox.com/2015/3/5/8150929/momofuku-ando-ramen-instant-noodles
https://en.wikipedia.org/wiki/Momofuku_Ando
2 บันทึก
23
2
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย