30 ก.ย. 2018 เวลา 05:51
1 DAY - A GOAL : ใครๆ ก็ไม่รัก “มู”
 
José Mourinho ถ้าเอ่ยชื่อนี้ต้องบอกว่าเป็นผู้จัดการทีมอันดับต้นๆ ของโลกนี้ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ทำไมเขาอยู่กับแต่ละทีมไม่เกิน 3 ปี ก็มักจะออกหรือโดนไล่ออก...
📖 สถิติของ โชเซ่ มูรินโญ่
 
คุมทีม :
🥅 Benfica (2000)
🥅 União Desportiva de Leiria (2001 - 2002)
🥅 Porto (2002 - 2004)
🥅 Chelsea (2004 - 2007)
🥅 Inter Milan (2008 - 2010)
🥅 Real Madrid (2010 - 2013)
🥅 Chelsea (2013 - 2015)
🥅 Manchester United (2016 - 2018???)
 
รางวัล & เกียรติประวัติ :
🏅คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้ง กับปอร์โต และ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งทั้ง 2 ครั้งเป็นทริปเปิลแชมป์
🏅คว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรป้าลีก (ยูฟ่าคัพ) 2 ครั้ง กับปอร์โต และ แมนฯยูฯ
🏅คว้าแชมป์ลีกจากทุกประเทศที่ไปคุม ทั้งโปรตุเกส, อังกฤษ, อิตาลี และสเปน
🏅คว้าแชมป์บอลถ้วยภายในประเทศมากมาย จากทุกประเทศที่ไปคุม ทั้งโปรตุเกส, อังกฤษ, อิตาลี และสเปน
🎖นอกจากนั้นยังมีรางวัลเกียรติยศส่วนตัว อย่างรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน และประจำปี อีกนับไม่ถ้วน รวมถึงได้รับเกียรติจากสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ให้เป็นผู้ฝึกสอนชาวโปรตุกีสที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ ในปี 2015
ด้วยสถิติการคุมทีมใหญ่ๆ กวาดแชมป์มาเกือบทุกแชมป์ในโลกนี้ และการันตีการได้แชมป์อะไรสักอย่างแน่ๆ ถ้าเขาไปคุมทีม เขาจึงเป็นที่หมายปองของทีมใหญ่หลายทีม
เขาเริ่มสร้างชื่อและเป็นที่รู้จักในปี 2004 ในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อทีมปอร์โต้ ที่เขาคุมเอาชนะทีมปีศาจแดง แมนฯยูฯ คาบ้าน ที่คุมทีมโดยท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้ววิ่งสะใจอย่างบ้าคลั่ง (Touchline Gallop) ทำให้เริ่มเป็นที่จดจำตั้งแต่นั้น
และในฤดูกาลนั้นทีมปอร์โต้ คว้าทริปเปิลแชมป์ คือการคว้า 3 แชมป์ในปีเดียว คือ แชมป์ลีก, แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
ฤดูกาลถัดมา 2004/05 เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ก็จัดการเอาเขามาคุมทีมเชลซี และด้วยการเปิดตัวอย่างไม่ต้องถ่อมตัว เขาเรียกตัวเองว่า The Special One!!!
และในตอนนั้นเขาก็พิเศษ ไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะแค่ฤดูกาลแรก ก็จัดดับเบิลแชมป์ ให้เชลซีได้ โดยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี และแชมป์ลีกคัพ
หลายครั้งที่มูรินโญ่โดนไล่ออก ทั้งๆ ที่ก็ทำทีมได้แชมป์อย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะการทำทีมน่าเบื่อ เน้นผลการแข่งขันมากเกินไป จนดูไม่สนุก ไม่ว่าจะเป็นช่วงอยู่กับเชลซีรอบแรก หรือกับเรอัล มาดริด
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับผู้จัดการทีมอื่น
ด้วยบุคลิกที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร บวกกับการไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมอาชีพ และชอบจิกกัดผู้จัดการทีมคนอื่นๆ เป็นประจำ ทำให้แกไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครเลย ยกเว้นอยู่ 2 คนที่แกไม่กล้าแตะต้องคือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (เพราะแกไม่รู้จะเอาอะไรไปข่มท่านเซอร์ได้) กับ เซอร์บ๊อบบี้ ร็อบสัน (เพราะแกเคยทำหน้าที่ล่ามให้ ตอนอยู่ทีมสปอร์ติงลิสบอน, ปอร์โต้ และ บาร์ซ่า)
สำหรับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับมูรินโญ่ มากนัก เพราะช่วงที่ป๋า จะลงจากตำแหน่ง มูรินโญ่ ก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ป๋าเลือก ป๋ากลับไปหยิบ “The Chosen One” เดวิด มอยส์ ก่อน หลังจากหยิบพลาด ก็ยังไม่เลือก มูรินโญ่ กลับไปเลือก “อาจารย์หลุยส์” หลุยส์ ฟาน กัล… และสุดท้ายบอร์ดบริหารของแมนฯยูฯ เป็นคนเลือก มูรินโญ่ เข้ามาเอง
สรุปแล้วในโลกนี้ คงมีผู้จัดการทีมคนเดียว คือ เซอร์บ๊อบบี้ ร็อบสัน ที่สนิทกับมูรินโญ่จริงๆ และจะเรียกว่าเป็นอาจารย์ในด้านโค้ชก็ว่าได้
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับนักเตะในทีม
มูรินโญ่มักจะใช้ “พระเดช” มากกว่า “พระคุณ” ในการคุมลูกทีม ซึ่งจะเหมาะกับนักเตะที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก เขามักจะมีปัญหากับนักเตะระดับหัวโจกของทีมเสมอๆ ด้วยเหตุ ที่เขาไม่ใช่นักเตะที่มีชื่อเสียงหรือมีความสามารถขั้นเทพมาก่อน โดยมีประสบการณ์เป็นนักเตะแค่ 7 ปี (ช่วงปี 1980 - 1987) กับ 4 ทีมดิวิชั่นรองๆ ในโปรตุเกสบ้านเกิด (เล่นไป 94 นัด ยิงได้ 13 ประตู)
 
จนมีหลายครั้งที่เขาโดนนักเตะระดับ World Class สวนกลับเขาในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่เขาคุมเรอัล มาดริด
 
จะเห็นว่ามีหลายครั้งในระยะหลัง ที่เขาโดนนักเตะระดับ “พี่ใหญ่” ของทีมรวมตัวกดดัน จนเขาถูกไล่ออก
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับบุคลาการในทีม
จากกรณีที่มูรินโญ่ ได้ออกมาต่อว่า และสั่งไม่ให้แพทย์สาวประจำทีมเชลซี มาทำหน้าที่ข้างสนาม จนมีเรื่องฟ้องร้องกันที่ศาลในกรุงลอนดอนในปี 2015
 
เหตุเกิดในเกมนัดเปิดสนามฤดูกาล 2015/16 ในเกมที่เชลซี เปิดบ้านต้อนรับทีมสวอนซี แล้วเกิดเหตุการณ์ที่ เอแด็ง อาซาร์ บาดเจ็บช่วงท้ายเกม แล้ว “หมอเอวา” เอวา คาร์เนโร่ รีบวิ่งลงไปในสนามเพื่อปฐมพยาบาลทันที ซึ่งมูรินโญ่ ต่อว่า ว่าไม่เข้าใจเกมฟุตบอล และสั่งห้ามหมอเอวา เข้ามาเป็นแพทย์ข้างสนาม จนเป็นเหตุให้หมอเอวา ลาออก และฟ้องสโมสรเชลซี และมูรินโญ่ ใน “คดีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม” ซึ่งสุดท้ายมีการยอมความ โดยไม่ระบุรายละเอียด
และในเหตุการณ์เล็กๆ ครั้งนั้น ทำให้นักเตะในทีมไม่มีใจที่จะเล่นให้กับมูรินโญ่ จนเป็นที่มาของ “การเล่นไล่โค้ช” จนเชลซีหล่นไปอยู่โซนตกชั้น ทั้งๆ ที่ฤดูกาลก่อนหน้าเป็นแชมป์เก่า และมูรินโญ่ ก็ถูกไล่ออกในปีที่ 3 อีกครั้ง
 
สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะ หมอเอวา เป็นที่รักของนักเตะในทีม และการที่ มูรินโญ่ เลือกให้ความสำคัญกับผลการแข่งขัน มากกว่าสวัสดิภาพของนักเตะ ทำให้เขา “ซื้อใจ” นักเตะไม่ได้
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับนักข่าว
สำหรับนักข่าว ที่ต้องมีการให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันมีหลายครั้งที่แกไม่สบอารมณ์ แกก็ส่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมไปแทน… ส่วนคำสัมภาษณ์ถ้าทีมแพ้ เฮียแก มักจะไม่โทษตัวเอง แกจะแขวะคู่แข่ง (เช่น Parking Bus ที่แกว่าทีมอื่นไปทั่ว… จนตอนนี้ทุกคนจำว่าแกเป็นต้นตำรับไปแล้ว), ต่อว่าผู้ตัดสิน, โทษสภาพสนาม และสุดท้าย ด่าลูกทีมออกสื่อ!!!
ล่าสุดในนัดที่พ่ายทีมไก่เดือยทอง ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไป 3 : 0 แล้วตอนให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขัน นักข่าวก็ถามย้ำถึงผลการแข่งขัน เฮียแกถึงกับฉุนนักข่าว และเกิดวลีเด็ด ที่บอกว่า ... เลข 3 นอกจากจะหมายถึง ผลการแข่งขันแล้ว ยังหมายถึง จำนวนแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่แกได้ ซึ่งมากกว่าผู้จัดการทั้ง 19 คนทำได้ (ซึ่งพาลไปแขวะผู้จัดการทีมคนอื่นๆ อีก… ซึ่งมีแค่ 2 คนที่เคยได้แชมป์ คือ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กับ มานูเอล เปรเยกรีนี่ ของเวสต์แฮม ที่ทำได้ตอนอยู่กับแมนฯซิตี้) และบอกนักข่าวช่วยให้เกียรติแกด้วย (ก่อนจะสะบัดก้นไม่ให้สัมภาษณ์ต่อ)
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่นักข่าวจะชอบ บุคลิกของผู้จัดการทีมแบบมูรินโญ่ ที่ยียวน แถมยโสโอหัง เพราะสามารถเขียนข่าวแล้วจะมีคนติดตามอย่างมาก เรียกว่า ขายได้
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับบอร์ดบริหาร
มีปัญหากับบอร์ดบริหาร ไม่ว่าจะเป็นสมัยเชลซี, เรอัล มาดริด และล่าสุดกับแมนฯยูฯ...
ตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาล 2018/19 ก็มีอัตราต่อรองให้มูรินโญ่เป็นเต็งหนึ่ง ที่จะถูกปลด เพราะเกิดอาการงอนบอร์ดบริหารของแมนฯยูฯ ที่ไม่อนุมัติซื้อนักเตะให้ (เพราะเฮียแกใช้เงินไปมากมาย แต่กลับได้นักเตะที่ใช้งานให้เกิดประโยชน์ไม่ได้) และมีการแหน็บแนมบอร์ดบริหารออกสื่ออยู่หลายวัน ซึ่งดูเหมือนว่าบอร์ดบริหารก็เริ่มไม่พอใจ และเริ่มจะมองหาคนมาแทนเหมือนกัน
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
ความสัมพันธ์กับแฟนคลับ
ด้วยพฤติกรรมที่มีแต่คนหมั่นไส้ แต่มูรินโญ่ จะไม่มีปัญหากับแฟนบอลของตัวเอง และมีมุมน่ารักๆ… คือถ้าใครเคยเล่นเกมฟุตบอล Top 11 ซึ่งมีมูรินโญ่ เป็นพรีเซ็นเตอร์ แล้วมีการเซอร์ไพรส์แฟนๆ ดูแล้วก็น่าจะเป็นตัวตนที่แท้จริง ที่ไม่ต้องสวมหัวโขนเหมือนในฐานะผู้จัดการทีม ที่มีแต่ความเครียด
⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️
แต่จากผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่หัวค่ำเมื่อคืนวันเสาร์ ที่ผลออกมา แมนฯยูฯบุกไปพ่ายทีมขุนค้อน เวสต์แฮมไป 1 : 3 ทำให้เปิดฤดูกาลมาแค่ 7 นัด แพ้ไปแล้วถึง 3 นัด และกระแส #MourinhoOut ก็กลับมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคงต้องสู้กับ #SaveMou ที่กองเชียร์ทีมอื่นๆ เอาใจช่วยให้เขาอยู่กับแมนฯยูฯ ไปนานๆ
ตอนนี้ที่บอกว่า ใครๆ ก็ไม่รัก มู… “ใครๆ” ที่ว่าก็อาจจะรวมแฟนๆ และ นักเตะแมนฯยูฯ อยู่ด้วยแล้ว ก็เป็นได้ ⚽️⚽️⚽️
โฆษณา