Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
4 ต.ค. 2018 เวลา 13:21
เคยได้ยินคำว่า "เด็กยกเปียโน" ไหมครับ? ทำไมเด็กยกเปียโน ถึงถูกเอามาใช้ในบริบทของฟุตบอลได้ และ ความหมายของมัน คืออะไรกันแน่ วิเคราะห์บอลจริงจังจะมาเล่าให้ฟัง
ในทีมฟุตบอล ประกอบไปด้วย นักเตะ 11 คน แม้เราจะบอกกันอยู่เสมอว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ทุกคนมีความสำคัญเท่ากัน แต่ในความจริงแล้ว ทุกๆทีม ย่อมมีบางคนที่พิเศษยิ่งกว่าใคร
นักเตะที่เป็นทีเด็ด พวกอัจฉริยะ ที่คอยสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซ ทุกทีมที่อยากชนะคู่แข่ง มันต้องมี ผู้เล่นแบบนี้สัก 1 คนในทีมด้วย
เราจะเปรียบนักเตะเหล่านี้ว่า เป็น "นักเปียโน" เพราะผู้เล่นเหล่านี้ จะโชว์สิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงาม ลงบนพื้นหญ้า ก็ไม่ต่างอะไรกับนักเปียโนที่บรรเลงเพลงเพราะๆ ด้วยลีลานิ้วที่พริ้วไหว
ผู้คนจะมองนักเปียโนด้วยความทึ่ง และล้วนปรบมือให้ หลังจบการแสดงแต่ละครั้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทุกคนอาจไม่ทันได้คิดถึงเลย คือ กว่าที่นักเปียโน จะขึ้นแสดงได้บนเวที มันต้องมีคนคอยยกเปียโน ขึ้นมาตั้งบนเวทีก่อนจริงไหม และนั่นคือหน้าที่ของ "เด็กยกเปียโน"
หน้าที่ของเขาเหล่านี้ ทั้งหนัก และเหนื่อย แถมไม่มีคนเห็นคุณค่าอีกต่างหาก เพราะมันเป็นคนทำงานเบื้องหลัง ยังไงคนดูก็ปรบมือให้แค่นักเปียโนเท่านั้น
งานของเด็กยกเปียโน จึงถูกเอาไปเปรียบเทียบกับกีฬาฟุตบอล โดยมันสื่อถึง ผู้เล่นที่ทำงานหนักเพื่อทีม ขยัน และคอยปัดกวาดแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ที่โชว์เทคนิคสวยงามให้แฟนบอลเห็น
ในขณะที่กองหน้า หรือเพลย์เมกเกอร์ คือนักเปียโน ที่เรียกเสียงฮือฮาจากคนดู แต่เด็กยกเปียโน จะไม่ได้รับการยกย่องแบบเดียวกัน ทั้งๆที่ ถ้าไม่มีเขา นักเปียโน ก็จะไม่มีเปียโน ให้เล่นด้วยซ้ำ
มีคนในวงการฟุตบอลหยิบ สำนวน "ยกเปียโน" มาใช้บ่อยครั้งอยู่ครับ
คนแรกคือบิลล์ แชงคลีย์ อดีตผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล ในปี 1959-1974 เคยกล่าวประโยคนี้ไว้ครับว่า
"ทีมฟุตบอลก็เหมือนเปียโนนั่นล่ะ คุณต้องการคน 8 คนช่วยกันยกมันขึ้นไปบนเวที เพื่อให้อีก 3 คน ช่วยกันเล่นไอ้เปียโนบ้านั่น"
หรืออย่างล่าสุดเมื่อสัก 2 ปีก่อน ตอนที่เนย์มาร์โดนวิจารณ์หนักๆ เรื่องฟอร์มการเล่น อดีตนายทวารทีมชาติ เจฟเฟอร์สัน ออกมาพูดประโยคนี้ครับว่า
"ในฟุตบอล มันจะมีนักเตะที่คอยยกเปียโน เพื่อให้นักเตะบางคนอย่างเนย์มาร์ ได้เล่นเปียโนบนเวที"
เจฟเฟอร์สันก็จะสื่อถึงว่า ถ้าคุณมีนักเปียโนชั้นยอดอย่างเนย์มาร์อยู่ในทีม นักเตะคนที่เหลือก็ต้องทำงานหนัก เพื่อแย่งบอลมา แล้วส่งไปให้เนย์มาร์วาดลวดลายให้ได้
แต่เคสที่คลาสสิคที่สุด ที่คนจะนึกถึงประเด็น เด็กยกเปียโนเสมอ นั่นคือเรอัล มาดริด ระหว่างปี 2003-2006 ช่วงเวลา 3 ซีซั่น
ในยุคนั้นเป็นยุครุ่งเรืองของ "กาลาคติกอส" หรือรวมดาราโลก
พวกเขามีนักเปียโนระดับโลกมากมายเต็มทีม ซีเนอดีน ซีดาน, หลุยส์ ฟิโก้ ,โรนัลโด้, เดวิด เบ็คแฮม, ราอูล กอนซาเลส และ ไมเคิล โอเว่น
รู้ไหมครับว่า จำนวนแชมป์ (ลาลีกา + โกปา เดลเรย์ + แชมเปี้ยนส์ลีก) ทั้งหมดที่เรอัล มาดริด ทำได้ ใน 3 ปีนั้น ได้กี่แชมป์?
คำตอบ = 0 แชมป์
แม้จะมีนักเตะระดับโลกมากขนาดนั้น แต่กลับไม่ได้แชมป์เลยแม้แต่รายการเดียว สาเหตุสำคัญ นักวิจารณ์หลายคนมองว่า เป็นเพราะปี 2003 พวกเขาเลือกจะปล่อย นักเตะที่ชื่อ โคล้ด มาเกเลเล่ออกจากทีม
มาเกเลเล่ เป็นกองกลางชาวฝรั่งเศส ที่ไม่มีบุคลิกของสตาร์เลย เขาเงียบๆนิ่งๆ หน้าตาไม่หล่อเหลา ไม่มีจุดขาย
แต่หน้าที่ที่เขาทำ ถือว่ามีความสำคัญมาก นั่นคือการเป็นกองกลางตัวรับ คอยทำหน้าที่วิ่งไล่บดไล่บี้คู่แข่ง เพื่อแย่งบอลเอามาให้ได้ แล้วจ่ายบอลต่อไปให้ซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายเข้าไปยิงประตู
เขาคือนักเตะที่ทำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งของทีม แต่เพราะมันเป็นงานเบื้องหลัง เขาจึงถูกมองข้ามความสำคัญไปทุกที
ในช่วงปลายฤดูกาล 2002-03 มาเกเลเล่ ขอรับค่าเหนื่อยในสัดส่วนที่ทัดเทียมกับสตาร์คนอื่นๆของทีม เพราะเขาคิดว่าตัวเองมีความสำคัญไม่แพ้ใคร แต่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ปฏิเสธ และขายมาเกเลเล่ทิ้งให้กับเชลซี
เปเรซวิจารณ์มาเกเลเล่อย่างหนักหน่วงว่า "เราจะไม่คิดถึงมาเกเลเล่ เทคนิคของเขาก็อยู่ในระดับปานกลาง เขาไม่มีความเร็ว และทักษะในการกระชากบอลผ่านคู่แข่ง ลูกส่งของเขา 90% ไม่จ่ายออกข้าง ก็จ่ายคืนหลัง เขาโหม่งบอลไม่ค่อยได้ และแทบไม่เคยจ่ายบอลไกลเกินกว่า 3 เมตร"
จากนั้นก็ไปซื้อเดวิด เบ็คแฮม เข้ามาสู่ทีมแทน ขายมาเกเลเล่ แต่ซื้อเบ็คแฮม ในแง่การตลาด นี่มันยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก เบ็คแฮมย้ายมา มาดริด ก็ยิ่งกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
ในเรื่องการตลาดอาจจะใช่ แต่เรื่องในสนามมันไม่ใช่แบบนั้น
ปัญหาคือเรอัล มาดริด เมื่อขายมาเกเลเล่ไปแล้ว คราวนี้ก็มีแต่สตาร์สายเกมรุกเต็มไปหมด แต่ไม่มีใครที่คอยทำหน้าที่ปัดกวาด ทำงานหนัก เหนื่อย และเล่นเกมรับให้กับทีม
เหมือนคุณมีนักเปียโน 6 คน ยืนบนเวทีพร้อมกัน แต่ดันไม่มีเปียโนให้เล่น เพราะไม่มีเด็กยกเปียโนคอยยกมันขึ้นมาบนเวที
นั่นทำให้ กลายเป็นจุดจบของกาลาคติกอสอย่างเป็นทางการ เรอัล มาดริด วืดแชมป์ทุกรายการ 3 ปีซ้อน และหลังสิ้นสุดซีซั่น 2005-2006 ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ถึงกับต้องประกาศลาออกเพื่อขอรับผิดชอบกับความล้มเหลวขนาดนี้
ซีเนอดีน ซีดาน กล่าวสรุปถึงความล้มเหลวในการขายโคล้ด มาเกเลเล่ ได้อย่างเรียบง่ายและชัดเจนที่สุด โดยเขาบอกว่า
"ถ้าคุณมีรถเบนท์ลีย์ราคาแพงอยู่แล้ว คุณจะไปซื้อทองคำมาตกแต่งเพิ่ม ให้มันดูแพงขึ้นอีกทำไม คือหรูหรามากแค่ไหนจะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากคุณเสียเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไปทั้งเครื่อง"
ในโลกนี้ใครๆก็อยากอยู่กลางแสงไฟ ใครๆก็อยากเด่นดัง ได้รับความสำคัญ เป็นนักเปียโน
แต่ในความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกทีม หรือทุกองค์กร จะสามารถขับเคลื่อนไปได้ ด้วยการมีนักเปียโนอย่างเดียว
งานทุกอย่าง ต้องมีคนที่พร้อมอยู่เบื้องหลัง พร้อมทำงานหนักเพื่อทีม เป็นมดงานที่สู้สุดใจ เป็นสายซัพพอร์ท เพื่อให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
ดังนั้นการรักษาบาลานซ์ ให้สมดุลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ขณะที่ยกย่อง เชิดชู คนที่โดดเด่น คนที่มีความสามารถ ก็อย่าลืมทิ้งคนที่ทำงานหนัก แต่ไม่เด่นดังไว้เบื้องหลัง
แน่นอน ในวงดนตรี จะไม่มีนักเปียโน ก็ไม่ได้ เพราะนี่คือจุดขายของวง ถ้านักเปียโนไม่เล่น แล้วคนดูจะซื้อตั๋วเข้ามาดูอะไร
แต่จะไม่มีเด็กยกเปียโน ก็ไม่ได้เช่นกัน
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น แม้แต่เปียโนก็จะไม่มีให้เล่นแต่แรกแล้ว
#PIANO #Makelele
8 บันทึก
180
9
1
8
180
9
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย