7 ต.ค. 2018 เวลา 02:21
1 DAY - A GOAL #15⚽️ : ซีเนดีน ซีดาน - ชายที่เป็นที่ต้องการของเหล่าปีศาจ
 
Zinedine Zidane หรือ Zizou ชื่อนี้กำลังเป็นกระแสร้อนในตอนนี้ และเป็นกุนซือที่เหล่าสาวกปีศาจแดง แมนฯยูฯ อยากได้ตัวมาคุมทีมมากที่สุด...
สถิติของ ซีเนดีน ซีดาน
 
เล่นให้ทีม (ฐานะนักเตะ) :
🇫🇷 Cannes (1989 - 1992)
🇫🇷 Bordeaux (1992 - 1996)
🇮🇹 Juventus (1996 - 2001)
🇪🇸 Real Madrid (2001 - 2006)
รวมเล่นทุกรายการทั้งหมด 684 นัด ยิง 125 ประตู
และเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ (1994 - 2006) 108 นัด ทำได้ 31 ประตู
 
คุมทีม (ฐานะผู้จัดการทีม) :
🇪🇸 Real Madrid Castilla (2014 - 2016)
🇪🇸 Real Madrid (2016 - 2018)
 
รางวัล & เกียรติประวัติ (ฐานะนักเตะ) :
🏆 คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (เรอัล มาดริด : 2001/2002)
🏆 คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา (ยูเวนตุส : 1996/1997, 1997/1998)
🏆 คว้าแชมป์ลาลีก้า (เรอัล มาดริด : 2002/2003)
และคว้าแชมป์อื่นๆ อีกมากมาย
 
นอกจากนั้นยังมีรางวัลเกียรติยศส่วนตัวยาวเกือบหน้ากระดาษ A4 แต่ที่สำคัญ คือ
🎖Ballon d’Or (1998)
🎖FiFA World Player of the Year (1998, 2000, 2003)
🎖FIFA World Cup Final Man of the Match 1998
 
รางวัล & เกียรติประวัติ (ฐานะผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด) :
🏆 คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 3 ครั้งติดต่อกัน (2015/2016, 2016/2017, 2017/2018)
* ซึ่งมีอีก 2 คนที่ทำได้ 3 ครั้ง แต่ไม่ติดกัน คือ บ็อบ เพลสลี่ย์ และ คาร์โล อันเชล็อตติ
🏆 คว้าแชมป์ UEFA Club World Cup (2016, 2017)
🏆 คว้าแชมป์ UEFA Super Cup (2016, 2017)
🏆 คว้าแชมป์ลาลีก้า (2016/2017)
🏆 คว้าแชมป์ Supercopa de España (2017)
 
รางวัล & เกียรติประวัติ (ฐานะนักเตะทีมชาติ) :
🏆 คว้าแชมป์ FIFA World Cup (1998)
🏆 คว้าแชมป์ UEFA European Championship (2000)
ด้วยเกียรติประวัติที่มากมายทั้งในฐานะนักเตะ ที่เรียกว่าติด Top 5 ของโลก และในฐานะผู้จัดการทีม ที่แม้ว่าประสบการณ์จะไม่มาก (คุมทีมชุดใหญ่แค่ 2 ปีครึ่ง คว้าแชมป์ไป 9 รายการ) แต่ด้วยบารมีตอนเป็นนักเตะ และวาสนา ที่ไม่ว่าจะเข้าชิงถ้วยอะไร เป็นต้องได้แชมป์ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเล่นดีหรือไม่ก็ตาม
แต่จริงๆ แล้ว ความสำเร็จที่ซีดานได้มาในช่วงที่เป็นผู้จัดการทีม คงไม่ใช่เรื่องของ “โชค” เพียงอย่างเดียว แต่จากการที่เขาได้เล่นภายใต้การคุมทีมของกุนซือ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ รวมถึงได้ศึกษางานจาก มูรินโญ่ (น้ามู คนที่เขาอาจจะต้องมาเสียบแทน นี่แหละ) และ คาร์โล อันเชล็อตติ ในช่วงที่ทั้ง 2 คน เป็นผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริด ทำให้เขาได้อะไรไปเยอะเหมือนกัน
และด้วยสไตล์การทำทีมที่เป็นฟุตบอลเกมบุก และชอบปั้นนักเตะเยาวชน… ดูเหมือนทุกอย่างที่กล่าวมา มันตรงใจเหล่าแฟนผียิ่งนัก ในยามนี้ที่ทีมประสบปัญหาอย่างหนัก
จนเกิดกระแส #MourinhoOut ที่อยากจะเฉดหัว “น้ามู” ไปให้พ้นทีม
 
*จากสถานการณ์ตอนนี้ น้ามู ไม่น่ารอด... ถึงแม้จะรอดตายกลับมาเอาชนะนิวคาสเซิล 3 : 2 ก็แค่ยืดเวลาออกไป และรอเวลาให้บอร์ดบริหารเจรจากับคนที่จะมาเสียบแทนเท่านั้น
จุดด่างพร้อยของซีดาน มีเพียงครั้งเดียวคือการใช้หัวโขกหน้าอก มาร์โก้ มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2006 จนโดนใบแดงไล่ออก และทำให้ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลไปในที่สุด
ถ้ามองกันด้วยเหตุและผล ก็มีความเสี่ยงในการเอา ซีดาน มาทำทีมเหมือนกัน เนื่องมาจากประสบการณ์ที่ต้องเรียกว่า น้อยมาก แค่ 2 ปีครึ่ง รวมถึงผลงานในลีก ก็ไม่ค่อยจะดีนัก
 
จะว่าไปแล้ว ถ้าฤดูกาลที่ผ่านมาไม่ได้แชมป์ UCL ซีดานอาจจะถูกปลดก็เป็นได้ (จากผลงานในลีก ที่ดูไม่ดีและจบเพียงที่ 3)
เพราะประธานสโมสรเรอัล มาดริด ฟลอเรนติโน เปเรซ ก็ไม่ได้มั่นใจในตัว ซีดาน มากนัก ด้วยผลงานการคุมทีมชุด B ของมาดริด (Real Madrid Castilla) เกือบ 2 ปี เล่น 57 นัด ชนะแค่ 26 นัด และแพ้ถึง 14 นัด แต่เพราะความจำเป็นที่ต้องมาทำหน้าที่แทน ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ถูกปลดกลางฤดูกาล ในเดือนมกราคม 2016 และถ้าในนัดชิง UCL 2015/16 ไม่ชนะแอตเลติโก้ มาดริด (ชนะจุดโทษ 5 : 3) เปเรซ ก็คงหากุนซือที่มีชื่อเสียง และมากประสบการณ์ มาแทนเขาแน่นอน
บวกกับอารมณ์ศิลปินของซีดาน บทที่จะลาออก ก็ออกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทั้งๆ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จ ซึ่งดูแล้วซีดาน คงไม่อยู่กับทีมไหนนาน
และถ้าแมนฯยูฯ ได้ซีดาน ไปจริงๆ ก็ไม่รู้ว่า จะเป็น “คนที่ใช่” ของเหล่าสาวกปีศาจแดงหรือไม่?
 
เพราะขนาด “The Special One” ที่มีประสบการณ์ และความสำเร็จมากมาย ยังเอาชีวิตแทบไม่รอด…
ขอปิดท้ายด้วยประตูที่ 15 ที่ 1 Day - A Goal เลือกมา เป็นของ ซีเนดีน ซีดาน ของทีมเรอัล มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศส
ประตูนี้เกิดขึ้นในฤดูกาล 2001/2002 ในศึก Uefa Champions League รอบชิงชนะเลิศ โดยคู่ชิง คือ ทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จากบุนเดสลีกา ประเทศเยอรมนี
หลังจากที่ทั้ง 2 ทีมเสมอกันอยู่ 1 : 1 โดย ราอูล ยิงประตูให้เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อน ตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่เลเวอร์คูเซ่น มาตามตีเสมอในอีก 5 นาทีต่อมา จากลูซิโอ กองหลังชาวบราซิล และในนาทีที่ 45 ก่อนจะหมดเวลาในครึ่งแรก ซีดานวอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายแบบไม่จับ ตรงมุมกรอบเขตโทษ จากลูกโยนเข้ามาของโรเบอร์โต้ คาร์ลอส เข้าไปอย่างสวยงาม ถือเป็นลูกสุดคลาสสิกลูกหนึ่งของศึก Uefa Champions League นัดชิงชนะเลิศ
จากประตูชัยของซีดานในนัดนี้ พาเรอัล มาดริดเป็นแชมป์ และทำให้ซีดาน ได้แชมป์ Uefa Champions League เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ในฐานะนักเตะ ⚽️⚽️⚽️
คลิป 👉🏻 https://youtu.be/CtKHcHnvSyE
สนาม : Hampden Park, Glasgow, Scotland
วันที่ : 15 พ.ค. 2002
ผู้ชม : 50,499
ผู้ตัดสิน : Urs Meier (Switzerland)
ระดับความสำคัญ : 🏆🏆🏆🏆🏆
ระดับความสวยงาม : 🏅🏅🏅🏅🏅
โฆษณา