รองเท้า CONVERSE เกี่ยวอะไรกับ NIKE?
Converse เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการร่วมมือระหว่างคุณ Marquis Mills ผู้ก่อตั้ง และ Charles Hollis “Chuck” Taylor นักบาสเกตบอล ทีม Akron Firestone ได้เข้ามาร่วมงานกับคุณ Converse และกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรองเท้าผ้าใบพื้นยางในเวลาต่อมา
เขาไม่เพียงแต่นำเสนอไอเดียการเพิ่มประสิทธิภาพให้รองเท้าบาส แต่เปลี่ยนแปลงโลโก้ ALL-STAR ที่กลายมาเป็นภาพลักษณ์ของ Converse รุ่น Chuck Taylor ALL STAR
ทำให้ Converse กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาและทหารฝึกหัดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
รวมไปถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักนักบาสเกตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกาใน Olympic Games ระหว่างปี 1936 ถึง 1968 ส่งผลให้แบรนด์ครองอุตสาหกรรมรองเท้าผ้าใบในสหรัฐฯกว่า 80% โดยนักบาสกว่า 90% เลือกรองเท้า Converse ALL-STAR สำหรับการแข่งขันอาชีพ
แต่ไม่กี่ปีต่อมา ผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีเทคโนโลยีครบมืออย่าง Nike และ Adidas สามารถเข้ามากินส่วนแบ่งการตลาดของ Converse ประกอบกับการบริหารจัดการที่ผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งภายในบริษัท Converse Rubber Shoe ส่งผลให้ Converse เกือบจะล้มละลาย
สายการผลิตในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดถูกยกเลิก และโยกย้ายฐานการผลิตหลักไปสู่ประเทศในเอเชียแทน
ทำให้รองเท้า Converse made in USA มีราคาพุ่งสูงมากในตลาดของสะสมยุคปัจจุบัน
ต่อมา ในปี 2003 Nike ประกาศเข้าซื้อกิจการ Converse Rubber Shoe ด้วยมูลค่า 9,675 ล้านบาท และปรับราคา Converse ให้ต่ำลงมา เพื่อจับตลาดใหม่ๆ รวมถึงยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสมผสาน เพื่อความสะดวกสบายของผู้สวมใส่ แต่ยังคงรูปทรง และดีไซน์ของ Converse เดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้กิจการ Converse เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ปี 2003 Converse รายได้ 6,450 ล้านบาท
ปี 2010 Converse รายได้ 31,702 ล้านบาท
ปี 2017 Converse รายได้ 65,855 ล้านบาท
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
