4 พ.ย. 2018 เวลา 12:00
Freitag จากผ้าคลุมรถบรรทุกเก่าสู่กระเป๋ารักษ์โลกอันดับ 1 ของโลกที่มียอดขาย 4 ล้านใบ และเท่มาตลอด 25 ปี
หากให้นึกถึงแบรนด์กระเป๋าที่มีดีไซน์สวยงาม คุณอาจคิดได้หลายแบรนด์ แต่ถ้าให้นึกถึงแบรนด์กระเป๋าทีมีดีไซน์เท่ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย Freitag น่าจะเป็นแบรนด์ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก
สำหรับผม Freitag คือแบรนด์กระเป๋ารักษ์โลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับ 1 ของโลก
จุดเริ่มต้นของ Freitag เกิดขึ้นในปี 1993 เมื่อสองพี่น้องชาวสวิสเซอร์แลนด์ Markus และ Daniel Freitag นั่งเหม่อๆ ที่แฟลตกลางสี่แยกในเมืองซูริค มองออกไปที่ท้องถนน พวกเขามองเห็นผ้าคลุมรถบรรทุกเก่าที่น่าจะนำมาดัดแปลงเป็นกระเป๋าเมสเซนเจอร์สุดเท่ได้
ผ่านมา 25 ปี Freitag ขายกระเป๋าที่มีลายเฉพาะใบเดียวในโลกไปแล้ว 4 ล้านใบ จากรถบรรทุก 80,000 คัน ดีไซน์เท่ทรงอิทธิพลจนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ได้รับการบรรจุอยู่ในพิพิธภัณฑ์ MoMA มีสินค้าวางขายมากมาย เปิดสาขาหลายประเทศ อยู่เหนือทุกกระแสแฟชั่นที่ผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
Freitag ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก (มี 2 สาขา กรุงเทพฯและเชียงใหม่) จนหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Markus Freitag ต้องเดินทางมาทำกิจกรรมกับคนไทย และนั่นทำให้ผม-สื่อตัวเล็กๆอย่าง THE STANDARD ได้รับเกียรติสัมภาษณ์สดๆ อย่างใกล้ชิด โดยเขาเดินทางมาถึงที่ออฟฟิศเลย ทำเอาน้องๆ ที่เป็นแฟนคลับอดตื่นเต้นไม่ได้ หลายคนเตรียมกระเป๋าให้เขาเซ็น
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของ Freitag ที่ทำให้พวกเขายืนระยะ ยอดขายเติบโตมาตลอด 25 ปี ในขณะที่แบรนด์แฟชันอื่นๆ นั้นมักจะขึ้นๆ ลงๆ
1. เรื่องเล่าอันทรงพลัง
เรื่องเล่าที่มาของ Freitag เป็นสิ่งแรกๆ ที่ทำให้แฟนคลับจดจำแบรนด์นี้ จากผ้าคลุมรถบรรทุกเก่าๆ สู่กระเป๋าเมสเซนเจอร์สุดเท่ คุณมาร์คัสเรียกสิ่งนี้ว่า ‘Narrative Oriented Philosophy’ หรือปรัชญาที่อ้างอิงจากเรื่องเล่าเป็นหลัก
จุดนี้คือเบื้องหลังสำคัญที่ทำให้คนรัก Freitag มากกว่าแค่กระเป๋า และจะรักต่อไปอย่างไม่มีวันหมดอายุ เพราะแรงบันดาลใจที่ส่งต่อไปถึงผู้คน เริ่มต้นจากเรื่องเล่าของคนธรรมดาที่สร้างของที่ดูไม่ค่อยมีคุณค่า ให้กลับมาเกิดประโยชน์สูงสุด แถมยังเป็นที่ยอมรับแบบถล่มทลายและกระจายออกไปทั่วโลก
คุณมาร์คัสกล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของเขาคือ การทำให้อุตสาหกรรมทุกรูปแบบหันกลับมาคิดใหม่อีกครั้งว่าสิ่งที่กำลังจะทำส่งผลกระทบอย่างไรกับสังคมทุกวันนี้ นี่คือผลกระทบที่สวยงามที่สุดที่ Freitag สร้างไว้ให้กับโลกของเรา
2. ขายวิธีคิดมากกว่าสินค้า และเป็นวิธีคิดที่โลกต้องการ
เหตุผลที่คนเลือกใช้กระเป๋า Freitag เพราะมันเป็นสินค้าที่ผ่านวิธีคิดเพื่อความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นแนวคิดสำคัญสำหรับทางออกของโลกในอนาคต
“มีนักข่าวบางคนเคยกล่าวว่า Freitag คงไปได้ไม่ไกลเท่าไร คงเป็นแค่กระเป๋าที่มีดีไซน์สวยๆ เท่ๆ เท่านั้น แต่กลับมีนักข่าวอีกคนแย้งขึ้นมาว่า นั่นไม่ใช่ความจริง เพราะแนวคิดเพื่อความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิ่งที่คนต้องการในทุกช่วงเวลา ต่างจากแบรนด์แฟชั่นที่มีโอกาสมาเร็วไปเร็ว”
จากคำพูดคล้ายสบประมาทในวันนั้น Freitag พิสูจน์ตัวเองมาตลอด 25 ปี คุณมาร์คัสยังคงภูมิใจเสมอที่กระเป๋าของเขามีคนถามถึงตลอด และอยู่ในจุดยืนที่ดี เขาปิดท้ายเรื่องนี้ไว้อย่างมั่นใจด้วยว่า “ในอีก 25 ปีข้างหน้า Freitag ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ จะไม่มีวันน่าเบื่อแน่นอน”
3. คิด Prototype ใหม่เสมอ
คุณมาร์คัสแนะนำให้คนที่อยากทำธุรกิจโดยเฉพาะคนไทยให้เริ่มต้นจากการลงมือทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปทีละสเตป เขาให้ความสำคัญกับการทำต้นแบบ (Prototype) ออกมาทดลองตลาด ลองขายสินค้ากับคนใกล้ตัว ก่อนใช้เงินไปกับการลงทุนมหาศาล
ขั้นต่อมา หากทำแล้วเวิร์ก รู้ว่ามีคนรอซื้อสินค้าหรือใช้บริการเราอยู่ ก็ยังไม่สายที่จะขยายธุรกิจ สำคัญที่สุด ขอแค่ต้องเริ่มทำ เพราะการคิดแล้วไม่ลงมือทำ มีค่าเท่ากับยังไม่ได้คิด อย่ากลัวที่จะโดนก๊อบปี้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะคู่แข่งเองก็ต้องเจอความยากลำบากเช่นกัน
ท้ายสุด เขาแนะนำว่าให้ลองมองหาไอเดียจากปัญหา ที่ใดมีปัญหาที่นั่นมีธุรกิจให้ทำ สวรรค์อาจเป็นที่น่าอยู่ แต่มันไม่มีอะไรให้ทำ เพราะที่นั่นไม่มีปัญหา ตรงกันข้าม หากยังมองไม่เห็นปัญหา นั่นอาจแปลว่ากำลังขาดแรงบันดาลใจ ฉะนั้นลองเริ่มจากปัญหาใกล้ตัวที่เจอกับตัวเอง เช่นเดียวกับคุณมาร์คัสที่ไม่มีกระเป๋าเหมาะสำหรับนักปั่นจักรยาน จึงคิด Freitag มาได้ในที่สุด
“แรงบันดาลใจของผมมาจากปัญหา ที่ใดมีปัญหา ที่นั่นมีธุรกิจให้ทำ สวรรค์อาจเป็นที่ที่น่าอยู่แต่มันไม่มีอะไรให้ทำ เพราะมันไม่มีปัญหา”
“ถ้าคุณมีความคิดที่จะแก้ไขปัญหา ศักยภาพและแรงจูงใจการหาวิธีการก็จะตามมา ตรงกันข้ามถ้าคุณไม่มีไอเดียในการแก้ไขปัญหา ก็ไม่มีแรงบันดาลใจ”
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Holacracy
Holacracy คือระบบที่อยู่ตรงข้ามกับการลำดับอำนาจในออฟฟิศแบบขั้นบันได แต่เปลี่ยนลำดับเป็นแบบวงกลมแทน การสั่งการในระบบนี้จะไม่ใช่การกระจายคำสั่งจากหัวหน้าลงมาสู่ลูกน้อง แต่ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน ไม่มีตำแหน่งไหนสูงเป็นพิเศษ ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ชื่อตำแหน่งของพนักงานใน Freitag จะเจาะจงในสิ่งที่คนคนนั้นต้องทำจริงๆ ไม่ใช่ชื่อตำแหน่งกว้างๆ เหมือนบริษัททั่วไป และเมื่อไรที่พวกเขารู้สึกไม่โอเคกับตำแหน่งที่ทำอยู่ ก็สามารถขอเปลี่ยนความรับผิดชอบไปทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าทำได้ดีกว่าทันที
สิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนให้องค์กร Freitag เติบโตต่อไปอย่างมีคุณภาพ และกระตุ้นให้พนักงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่มาตอบโจทย์ให้คนรักแบรนด์ต่อไปอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันหมดอายุอย่างแน่นอน
อย่าลืมนะครับ สวรรค์อาจเป็นที่น่าอยู่ แต่มันไม่มีอะไรให้ทำ
“ที่ใดมีปัญหาที่นั่นมีธุรกิจให้ทำ”
ขี้เกียจอ่านฟังที่นี่ครับ https://www.youtube.com/watch?v=3pTGTOB2QU0&t=99s
โฆษณา