20 พ.ย. 2018 เวลา 16:23 • ธุรกิจ
‘คิคุโอะ อิเบะ’ ผู้สร้างตำนาน G-SHOCK
กับเรื่องราวตลอด 35 ปี ที่คุณรู้แล้วจะต้องช็อค
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ล้วนเกิดจากความผิดพลาดและล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องใช้ทั้งความทุ่มเท ความพยายาม และความอดทนมากมาย เพื่อไม่ให้ถอดใจล้มเลิกกลางคัน เพราะคิดว่าเป้าหมายเหล่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรียกว่าต้องเค้นทั้งกำลังกายกำลังใจกันสุดขั้ว กว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
สุดท้ายแม้จะประสบความสำเร็จ ก็ใช่ว่าเรื่องราวจะแฮปปี้เอนดิ้ง เพราะนั่นอาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่ความท้าทายอื่นๆ ที่จะตามมาหลังความสำเร็จนั้น เพื่อเป็นบทพิสูจน์ใหม่ว่า
คุณสตรองมากพอที่จะรักษาความสำเร็จที่สร้างขึ้นมาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนได้ตลอดไปหรือไม่
หนึ่งแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์เด่นชัดในเรื่องของความทนทาน และไม่ผิดหากจะกล่าวว่าเป็นผู้เข้ามาฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ กลายเป็นคนบัญญัติ
New Normal ให้วงการนาฬิกาในยุคที่ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้ว อย่าง G–SHOCK 
ที่ไม่เพียงเป็นผลงานระดับ Master Piece  ของค่ายคาสิโอเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมชิ้นเอกของแวดวงนาฬิกาโลกอีกด้วย
G–SHOCK เกิดขึ้นจากความทุ่มเทของผู้คิดค้นอย่าง คุณคิคุโอะ อิเบะ นักวิศวกรกลไกชื่อดัง
ชาวญี่ปุ่น ที่เริ่มงานกับคาสิโอตั้งแต่เรียนจบใน
ปี 1978  ซึ่งขณะนั้นยังเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ผลิตนาฬิกาดิจิตอล ด้วยมุมมองว่า การทำงานในบริษัทขนาดเล็กจะทำให้มีโอกาสได้ปล่อยของ
นำเสนอไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ ได้มากกว่า
1
จะกล่าวว่าจุดเริ่มต้นของ G-SHOCK เกิดขึ้นจากความเจ็บปวดหรือจะเรียกว่าแผลในใจของผู้ให้กำเนิดแบรนด์ก็ไม่ผิดนัก เมื่อวันหนึ่งคุณอิเบะทำนาฬิกาที่ใช้มานานและเป็นของขวัญที่ได้มาจากคุณพ่อหล่นพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ด้วยความตกใจและเสียดายสุดชีวิต จึงตั้งเป้าหมายกับตัวเองตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาว่า จะต้องผลิตนาฬิกาที่มีความแข็งแรงทนทาน ชนิดที่ตกแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะแตกหักหรือเสียหายให้จงได้
1
คุณอิเบะใช้เวลาในการคิดค้นและพัฒนาให้ได้นาฬิกาที่แข็งแรงทนทานแบบที่ต้องการอยู่หลายปี พยายามหาวัสดุต่างๆ มาใส่เพื่อป้องกันนาฬิกา ก่อนจะทดลองโยนลงมาจากหน้าต่างชั้น 3 ของตึกที่ทำการวิจัย ทดลองแล้วทดลองอีก แต่ผลก็ยังไม่ได้ตามที่ตั้งใจ คุณอิเบะจึงเริ่มคิดค้นสิ่งใหม่ โดยพัฒนาโครงสร้างเพื่อป้องกันกลไกลนาฬิกาที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ถึง 5 ชั้น แต่ก็ยังคงมีชิ้นส่วนบางอย่างที่เสียหาย ทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่วาดฝันไว้ไม่น่าจะมีโอกาสจะเป็นจริงได้แล้ว
แต่คุณอิเบะก็ไม่เคยยอมแพ้ และไม่หยุดที่จะค้นหาวิธีเพื่อทำให้สิ่งที่ตั้งใจไว้นั้นเกิดขึ้นได้จริง
วันหนึ่งด้วยความบังเอิญจากการสังเกตลูกบอลที่กระเด้งจากพื้นและลอยอยู่ในอากาศ นำมาซึ่ง
ไอเดียในการนำยางคุณภาพสูงและทนแรงกระแทกได้ดีอย่างยูรีเทนมาเป็นเครื่องป้องภายนอก โดยให้ตัวกลไกนาฬิกาลอยอยู่แล้วมี
จุดยึดเชื่อมไว้ เพื่อให้ตัวกลไกไม่ถูกยึดติดกับ
ตัวเรือนจึงกระจายแรงกระแทกได้ดี และเป็นต้นกำเนิดของโมเดล G-SHOCK มาจนถึงปัจจุบัน
G-SHOCK เริ่มได้รับความนิยมในวงกว้างมากยิ่งขึ้น  จนกระทั่งได้รับการยอมรับในตลาดอเมริกา เมื่อทอล์กโชว์รายการดังนำนาฬิกา G-SHOCK ไปทดสอบความทนทานด้วยการใช้ไม้ฮอกกี้น้ำแข็งฟาดมาที่นาฬิกาแทนลูกฮอกกี้ในการแข่งขัน รวมทั้งใช้รถบรรทุกทับมาที่ตัวเครื่อง ปรากฎว่านาฬิกายังคงทำงานได้ตามปกติ เป็นการพิสูจน์ว่า G-SHOCK ไม่ได้โฆษณาเกินจริง จนได้รับการอุดหนุนอย่างมหาศาลจากคนอเมริกัน รวมทั้งปลุกกระแสความนิยมให้ขยายกลับไปยังตลาดญี่ปุ่น รวมทั้งในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก
ล่วงเลยมากว่า 3 ทศวรรษ G-SHOCK ยังคงรักษาความนิยมและมีฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังคงยึดสปิริตของแบรนด์ที่ว่า Never Gave Up ทำให้ยังคงสตรองมาได้มากกว่า 3 ทศวรรษ  รู้แบบนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่า
ทำไม G- SHOCK ถึงทนและแกร่งได้ถึงเพียงนี้
เพราะได้รับ DNA พันธุ์แกร่งมาจากเจ้าพ่อ
G-SHOCK อย่างคุณอิเบะนี่เอง
ขอบคุณบทความดีๆจาก www.brandbuffet.in.th/2017/04/g-shock-brand-history-kikuo-ibe/
โฆษณา