24 พ.ย. 2018 เวลา 11:51
วัฏจักรแห่ง "ความยากจน"
" ความยากจนจะสามารถถีบตัวเองให้พ้นจากวัฏจักรแห่งความยากจนนี้ไปได้นั้น จะต้องมีความได้เปรียบบางอย่างที่มีมากกว่าหรือเหนือกว่าคนจนคนอื่นๆ ซึ่งจะกล่าวไปแล้วก็มีอยู่หลายข้อด้วยกัน แต่ผมเองให้ความสำคัญกับความได้เปรียบที่ว่านั้นเพียง 4 ข้อเท่านั้น"
"อยากรวย" อยากหลุดพ้นจากความยากจนอยากหลุดพ้นจากสภาพชีวิตที่จำเจอยากหนีให้พ้นจากงานประจำที่น่าเบื่อหน่ายแต่ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม "ความรวย" ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นยาวิเศษที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้เกือบจะทุกเรื่องแต่ในขณะที่ "ความยากจน" ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาออกมาอย่างมากมาย
ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากจะพาคุณผู้อ่านมารู้จักกับคำว่า "วัฏจักรแห่งความยากจน" มุมมองของผมในที่นี้หมายถึง ปัจจัยหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ครอบครัวที่ยากจนต้องประสบกับความยากจนครั้งแล้วครั้งเล่าจนกลายเป็นความเคยชิน การยอมรับสภาพและต่อเนื่องจนกลายเป็นวัฏจักรหากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเกิดขึ้น "วัฏจักรแห่งความยากจน" ของครอบครัวใดหรือบุคคลใดที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นจากความเคยชิน เช่น ในครอบครัวของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ยากจนหลายครอบครัว มักจะชอบใช้จ่ายเงินที่ได้มาเกือบจะทั้งหมดออกไปทันทีที่เงินเดือนออกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นก็จะมีเงินออมเหลือไว้ให้ใช้จ่ายในช่วงที่เหลือของเดือนอย่างอัตคัดขัดสน พฤติกรรมดังกล่าวอาจกลายไปเป็นความเคยชินจะทำให้ครอบครัวหรือบุคคลนั้นๆ อาจจะต้องติดหล่มอยู่ในวัฏจักรแห่งความยากจนไปตลอดชีวิต ดังนั้น จึงมักจะมีคำถามที่ถามกันอยู่ทุกยุคทุกสมัยว่า...
"แล้วคนเราจะหลุดพ้นจากวัฏจักรแห่งความยากจนนี้ไปได้อย่างไร?"..
หลังจากที่ผมได้พยายามศึกษางานวิจัยและหนังสือหลายเล่ม ก็พอจะสรุปให้เห็นภาพได้ว่า คนยากจนจะสามารถถีบตัวเองให้พ้นจากวัฏจักรแห่งความยากจนนี้ไปได้นั้น จะต้องมีความได้เปรียบบางอย่างที่มีมากกว่าหรือเหนือกว่าคนจนอื่นๆ ซึ่งจะกล่าวไปแล้วก็มีอยู่ด้วยกันหลายข้อด้วยกันแต่ผมเองให้ความสำคัญกับความได้เปรียบที่ว่านั้นเพียง 4 ข้อเท่านั้น มีดังนี้ครับ..
1 การศึกษา (Indication)
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระบบเช่น คนจนบางคนอาจจะจบเป็นหมอ หมอฟันหรือวิศวกรก็จะมีแนวโน้มที่จะรับรายได้ที่สูงขึ้นหรือจะเป็นการศึกษานอกระบบเช่นบางคนได้มีโอกาสทำงานกับชาวต่างชาติก็มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ภาษานิสัยใจคอหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวต่างชาติ ซึ่งอาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างรายได้จำนวนมากหากสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้
2 ความสัมพันธ์ (Connection)
ในปัจจุบันดูเหมือนว่าความสำคัญของความได้เปรียบในข้อนี้จะอยู่ในระดับที่สูงมาก เนื่องจากคนเอเชียส่วนใหญ่รวมทั้งคนไทยด้วยมักจะชอบทำกิจกรรมต่างๆกับคนที่คุ้นเคยกัน ดังนั้นการที่เรามีโอกาสได้รู้จักผู้คนเป็นจำนวนมากๆ ก็จะยิ่งเพิ่มพูนโอกาสให้เราได้ทำงานหรือทำธุรกิจกับคนอื่นได้มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณก็จะมีโอกาสได้ทำเงินมากขึ้นและโอกาสในการถีบตัวเองให้พ้นจากวัฏจักรแห่งความยากจนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
3 มีความสามารถในการหาแหล่งเงินทุน (Source of Fund)
ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากคนอื่นมา การให้คนอื่นมาร่วมทุนด้วย หรือวิธีอื่นใดก็ตามข้อนี้อาจกล่าวได้ว่าก็คือหลักการนำเงินของผู้อื่นมาใช้เพื่อแสวงหารายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อไปซึ่งเป็นหลักการที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนของโลกก็ใช้หลักการในข้อนี้ด้วยเช่นกัน
4 การวางแผนการเงิน (Financial Planning)
ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีการศึกษาดีขนาดไหน มีสายสัมพันธ์กับผู้คนที่เก่งกาจหรือร่ำรวยขนาดไหน หรือมีความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม แต่ถ้าหากเขาวางแผนการเงินได้ไม่ดีแล้วสิ่งที่ดีๆ เหล่านั้น ก็อาจไม่ช่วยให้คนเหล่านี้หนีรอดพ้นจากความยากจนไปได้ในที่สุด
อ่านจนถึงบรรทัดนี้แล้ว คุณผู้อ่านหลายคน อาจคิดอยู่ในใจว่า ในชีวิตจริง คนยากจนหรือลูกของคนยากจนจะมีโอกาสถีบตัวเองให้พ้นจากความยากจนได้จริงหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ..
โฆษณา