25 พ.ย. 2018 เวลา 13:58
เรื่องใหญ่ของชาติ คือการให้บำเหน็จและลงโทษทัณฑ์
เจินกวนศก 1 (ค.ศ.627) ถางไท่จงฮ่องเต้ทรงเลื่อนให้มหาเสนาบดี ฝางเสวียนหลิง เป็นเจ้าพระยาสิง เสนาบดีกลาโหมตู้หยูเป็นเจ้าพระยาไซ่ และเสนาบดีจ่างซุ่นอู๋จี้เป็นเจ้าพระยาฉี ซึ่งล้วนเป็นขุนนางอันดับหนึ่ง กินส่วยศักดินา 1,300 ครัวเรือน
เจ้าพระยาไฮว๋หนาน หลี่เสินทง พระปิตุลาของถางไท่จงฮ่องเต้ ทำฎีกากราบทูลว่า "แรกชูธงต่อต้านราชวงศ์สุย ข้านำทัพก่อการขานรับเป็นคนแรก ทุกวันนี้พวกฝานเสวียนหลิงซึ่งล้วนเป็นคนประเภท "ร่ายพู่กันสะบัดหมึก" กลับมีความดีความชอบอันดับหนึ่ง ข้าเห็นว่าไม่ยุติธรรม"
ถางไท่จงฮ่องเต้ทรงตรัสว่า "เรื่องใหญ่อันดับแรกของชาติ คือการให้รางวัลและการลงโทษทัณฑ์ ถ้าตกรางวัลพอเหมาะกับความชอบ คนไร้ความชอบก็จะถอยไปเอง ถ้าลงโทษพอควรแก่ความผิด คนทำผิดก็จะหวาดกลัวไม่กล้าทำผิดอีก จึงเห็นได้ว่า การให้รางวัลและการลงโทษทัณฑ์นั้น จะตัดสินใจส่งเดชไม่ได้ ตอนนี้ถ้าจะให้รางวัลตามความดีความชอบแล้ว พวกฝางเสวียนหลิงมีความชอบใหญ่หลวงในแง่ "วางแผนในกระโจม คว้าชัยไกลพันลี้" และช่วยปกครองบ้านเมืองให้สงบร่มเย็น เพราะฉะนั้น เซียวเหอ (มหาเสนาบดีสมัยจักรพรรดิฮั่นเกาจู) สมัยราชวงศ์ฮั่น แม้จะไร้ความชอบใหญ่หลวงในแง่ขี่ม้ารบพุ่งในสมรภูมิ แต่ก็มีความดีความชอบในแง่ช่วย "วางแผนในกระโจม คว้าชัยไกลพันลี้" จึงมีความชอบเป็นอันดับหนึ่ง เสด็จอาเป็นญาติสนิทที่สุดของข้าฯ จริงๆข้าฯน่าจะให้รางวัลเต็มที่ แต่ก็ไม่ควรตกรางวัลส่งเดช ให้เสพส่วยศักดินาเทียบเท่าขุนนางที่มีความดีความชอบใหญ่หลวง โดยเห็นแก่ที่เป็นพระบรมวงศานุวงศ์"
เพราะเหตุนี้เอง จึงมีเสียงเล่าลือในหมู่ขุนนางที่สร้างความดีความชอบใหญ่หลวงว่า "ฝ่าบาททรงปฏิบัติต่อข้าราชบริพารด้วยจิตใจเห็นแก่ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พระองค์ทรงตกรางวัลโดยไม่ลำเอียงเห็นแก่พระบรมวงศานุวงศ์ เรายังจะตำหนิพระองค์ได้อย่างไร"
จวนศกที่ 10 (ค.ศ.636) ถางไท่จงฮ่องเต้ทรงตรัสแก่เจ้าพระยาจิง หลี่หยวนจิ่ง เจ้าพระยาฮั่น หลี่หยวนชาง (ราชโอรสถางเกาจู่ฮ่องเต้) เจ้าพระยาอู๋ หลี่เค่อ เจ้าพระยาเว่ย หลี่ไท่ (โอรสองค์ที่ 3 และ 4 ของถางไท่จงฮ่องเต้)
"การก่อร่างสร้างตัวของคนเรานั้น สิ่งมีค่ามากที่สุดคือคุณธรรม มิใช่ความมั่งคั่งสูงศักดิ์ พวกเจ้าล้วนเป็นเจ้าพระยาปกครองแคว้นใต้อาณัติ มีศักดินาพระราชทาน ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องกินอยู่ หากพวกเจ้าหมั่นบำเพ็ญขัตติยธรรม มิใช่เรื่องดียิ่งดอกหรือ? อีกทั้งวิญญูชนและคนถ่อยมิได้เป็นกันมาโดยกำเนิด ทำดีมากก็กลายเป็นวิญญูชน ทำเลวมากก็กลายเป็นคนถ่อย พวกเจ้าต้องควบคุมตนเอง หมั่นบำเพ็ญขัตติยธรรม สร้างชื่อเสียงที่ดี อย่าได้หมกมุ่นกิเลสตัณหา ถลำตัวในหล่มโคลน หาความพินาศดับสูญใส่ตัว"
โฆษณา