Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Health Me Please
•
ติดตาม
1 ธ.ค. 2018 เวลา 06:43 • สุขภาพ
111วัน ที่พ่อต้องนอนโรงพยาบาล และไม่มีโอกาสกลับมาบ้านอีกเลย ทำให้ครอบครัวเรา อยู่กับเพียงสามคน(น้องสาวและน้องเขยไปอยู่ต่างประเทศ) แม่ผมเป็นอดีตพยาบาลที่เกษียณมาใกล้เคียงกับพ่อ หลังจากเกษียณ แม่ก็สุขภาพไม่ดีมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ซึ่งต่างจากพ่อที่แข็งแรงมาตลอด ทุกๆคืนที่มีการสวดอภิธรรมศพแม่ไม่สามารถนั่งฟังพระสวดได้เนื่องจากอาการหอบหืดกำเริบจากควัน
หลังจากพ่อเสีย แม่ก็สุขภาพไม่ดี ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยขึ้นแทบจะทุกเดือน ด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง เบาหวาน ความดัน หัวใจ หอบหืด ไขมัน หนักสุด ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเราสองคนแม่ลูก คือ อาการกรดไหลย้อนที่คุกคามแม่อีกหนึ่งโรค ตีสองในคืนนั้น แม่มีอาการปวดมาก อาเจียน ทรมานจะนอนไม่ไหว ผมต้องพาแม่ไปส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลด่วน เหตุการณ์ในห้องฉุกเฉินในค่ำคืนนั้น สับสนวุ่นวายมาก ทั้งตัวแม่เองและคนไข้อื่นๆ เสียงเอะอะโวยวายข้องคนไข้จากอุบัติเหตุ ดื่มเหล้าทำร้ายร่างกาย ใจผมกระวนกระวายเพราะเป็นห่วงอาการของแม่มาก ผ่านไปเกือบชั่วโมงแพทย์เวร เรียกผมเข้าไปพบ และอธิบายอาการของแม่ให้ผมฟังอย่างละเอียด ว่าอาการกรดไหลย้อนที่คุณแม่เป็น เป็นความผิดปรกติที่เกิดจากพฤติกรรม เช่น กินเยอะ กินอาหารรสชาติจัด กินแล้วนอนหรือนั่งไม่เดินให้อาหารย่อยก่อน กินอาหารที่ย่อยยาก ไม่ได้ออกกำลังกายหรืออาจจะมีความเครียด ไม่มียาที่จะรักษาได้หายขาด ถ้าจะให้หายขาดต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมทั้งโรคประจำตัวอย่างอื่นที่แม่เป็นด้วย ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่นกินอาหารที่มีประโยชน์ร่วมกับออกกำลังกายที่เหมาะสมก็จะทำให่ทุกอย่างดีขึ้น เรากลับมาบ้านเกือบจะตีสี่ พร้อมกับคำพูดของหมอก้องอยู่ในหูผม
ผมเป็นนักกายภาพบำบัด แม้จะมีความรู้เรื่องสุขภาพ หรือโรคภัยไข้เจ็บอยู่บ้าง ก็เป็นเพียงความรู้ในสายอาชีพที่ตัวเองทำอยู่เพียงเท่านั้น หลังจากกลับมาถึงบ้านในวันรุ่งขึ้น ผมได้พูดคุยกับแม่ถึงสิ่งที่หมออธิบายให้ฟังและสิ่งที่เราทั้งครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ การเปิดใจคุยกันครั้งนี้ ผมบอกความรู้สึกที่หมดให้แม่ฟังว่า หลังจากพ่อเสีย ผมต้องเป็นผู้นำครอบครัว ต้องดูแลทุกคน ผมจะไม่ยอมให้แม่ เจ็บไข้ได้ป่วยต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นแบบนี้อีกต่อไป การไปโรงพยาบาลกลางค่ำกลางคืนไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างอย่างแล้ว
การหาข้อมูลหรือความรู้เรื่องการออกกำลังกายเริ่มขึ้น ด้วยความโชคดีหรือความบังเอิญ มีข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนระยะสั้น เกี่ยวกับ ผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายส่วนตัวหรือ Personal Trainer หลักสูตร SMART Certified Personal Trainer 100 ชั่วโมงหรือหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายส่วนบุคคล100ชั่วโมง หลักสูตรนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง 1 .Smartgym Fitness Thailand Limited :หรือ
สถาบัน SMART และ
2 .คณะวิทยาศาสตร์-กีฬา ฯ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี หรือ BTU Sports Science และ BTU Sports Science Center หรือ ศูนย์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
เรียนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์เต็มวัน เรียนสัปดาห์ เว้น สัปดาห์ สอบย่อย 3 ครั้ง สอบFINALรวบยอด 1 ครั้ง สอบปฎิบัติ 4-5 ครั้ง ฝึกปฎิบัติการออกกำลังกายจริงมากกว่า ทั้ง Cardio ทุกรูปแบบและ HIIT, Circuit ,TABATA ,Bodyweight ฝึก Strength Training ทุกรูปแบบทุกมัดกล้ามเนื้อ อย่างถูกหลัก ฝึก Flexibility Training ทุกรูปแบบ ,ฝึกปฏิบัติการสอนนำคลาสออกกำลังกาย รวมทั้งการฝึกแบบอื่นๆ เช่น Power Training ,Basic Functional Training ,Agility ฯ และเทคนิคแอดวานซ์ต่างๆ
ผมตัดสินใจเรียนที่นี้ โดยบอกกับแม่ว่าจุดประสงค์หลักคือนำความรู้ที่ได้มาดูแลแม่ให้สุขภาพดี ระหว่างเรียนถือว่า เหนื่อยและหนักมาก ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ การเดินทางไปเรียน ในแต่ละครั้งระหว่างเรียนต้องอ่านหนังสือสอบ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ น้องๆที่เรียนด้วยกันส่วนใหญ่จะมีความรู้พื้นฐานกันมาบ้างแล้วเพราะเป็นนักกีฬา เป็นโค้ชหรือเป็นผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายกันมาก่อนแต่สำหรับผมไม่มีเลย การมาเรียนในครั้งนี้แม่ว่าจะเหนื่อยหนักและเครียดแต่ผมก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ได้เพื่อนใหม่ได้มีมุมมองในการออกกำลังกาย ในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องมากขึ้น
ในหลักสูตรนี้ก่อนจบจะต้องนำเสนอผลงานการฝึกสอนการออกกำลังกายกับผู้ออกกำลังกายจริง1คนพร้องทั้งรายงานผลเป็นรูปเล่มและนำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยนำความรู้ที่เรียน มาประยุกต์ใช้ นับว่ายากมากสำหรับผม เหตุผลคือ ด้วยเวลาในการทำงานประจำ คงจะมีคนมีใครเป็นลูกเทรนของผมได้นับเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากเวลาไม่ตรงกัน ผมจะมีเวลาสอนเพียงแค่ช่วงเช้าก่อนไปทำงานเท่านั้นและมีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่ช่วยผมได้ คือแม่ การตอบตกลงเป็นลูกเทรนของแม่ในครั้งนี้นับว่า ท้าทายสำหรับผมมาก เนื่องจากแม่อายุเยอะ มีโรคประจำตัวและที่สำคัญจะตัองปรับและประยุทธ์ความรู้มาใช้กับแม่มากที่สุด มากกว่าคนทั่วไป
การเรียนการสอนดำเนินไปด้วยความเข้มข้น ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมแทบไม่มีเวลาหายใจเลย การออกกำลังกายของแม่ดำเนินไปอย่างทุลักทุเลแต่ก็ไม่ยอมแพ้กันทั้งสองคน แม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ทำตามโปรแกรมที่ผมกำหนดมีวีนัย ไปตรวจสุขภาพก่อนและหลังจากออกกำลังกาย
วันสุดท้ายของการสอบมาถึง ผมแทบจะอ่านหนังสือและทำรายงานเสร็จเช้าวันนี้ ช่วงเช้าเป็นสอบทฤษฎี นำเสนอรายงาน ช่วงบ่ายสอบปฎิบัติ ผมการออกกำลังกายของแม่ ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ค่าเลือดกลับมาเป็นปรกติทุกตัว อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันรวมทั้งน้ำหนักแม่ลดลง 13กก. เสื้อผ้าแทบจะต้องเปลี่ยนใหม่ ยาที่แม่จะต้องกินครั้งละหลายเม็ดเหลือแค่1-2เม็ดเท่านั้น
ผลการสอบผ่านไปได้ด้วยดีครับ พร้อมกับมิตรภาพและประสบการณ์ใหม่ ที่สำคัญผมได้แม่คนใหม่ ทุกวันนี้การออกกำลังกายคือส่วนหนึ่งของครอบครัวเราไปแล้ว ที่สำคัญผมได้มีโอกาสดูแลคนอื่นๆที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพอีกมากมาย แม่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆคน
มาวันนี้ ความสุขได้กลับคืนสู่ครอบครัวเราอีกครั้ง ทุกๆคนสุขภาพดีขึ้นจากการออกกำลังกาย การเลือกอาหารที่กิน สร้างสมดุลย์ให้กับชีวิต
“ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ สุขภาพที่ดีจะนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”
กภ.เปรมนัช นิลน้อย
#โค้ชด้วง
#SmartTrainer7
#HealthMePlease
#PersonalTrainer
#PhysicalTherapy
#ออฟฟิศซินโดรมรักษาได้
#แรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย
#ออกกำลังกายเปลี่ยนชีวิต
#นักฟื้นฟูคุณภาพชีวิต
บันทึก
3
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย