5.นโยบายฐานเศรษฐกิจเขตเศรษฐกิจใหม่
ฐานเศรษฐกิจและรายได้คนภาคใต้มาจากการท่องเที่ยว การค้า ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ กิจการประมงและการแปรรูปเกษตรอุตสาหกรรมน่าจะทำให้คนใต้มีกินมีใช้และร่ำรวย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนี้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและนักท่องเที่ยวลดลงชาวประมงก็ย่ำแย่มาหลายปีแถมยังมีผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ผมจึงเสนอนโยบายใหม่6นโยบายเพื่อสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ฐานรายได้ฐานอาชีพใหม่ๆให้ภาคใต้และประเทศของเรา เราจะกินบุญเก่าอีกต่อไปไม่ได้ ต้องสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่เพราะหลายอาชีพเดิมไม่มีอนาคตเหมือนในอดีต
ตัวอย่างเช่นยางพารา เราส่งออกมากที่สุดในโลกเป็นแชมป์โลกแต่ชีวิตชาวสวนยางอยู่แบบลุ่มๆดอนๆเดี๋ยวราคายาง๓โล1002โล100บางทีราคาตกยิ่งกว่านี้บางทีขึ้นไปโลละเกิน100ก็มีมาแล้ว
ถามว่าเราทำไมไม่แปรรูปสร้างมูลค่าก็ต้องบอกว่าทำเหมือนกันแปรรูปจนเป็นประเทศที่ส่งออกยางรถยนต์สูงเป็นอันดับ5ของโลก แต่ยางธรรมชาติต้องแข่งกับยางสังเคราะห์ที่ได้จากน้ำมันดิบ เวลาราคาน้ำมันดิบแพง อุตสาหกรรมหันมาซื้อยางธรรมชาติ เวลาราคาน้ำมันดิบถูกเขาไม่ซื้อยางธรรมชาติหันไปซื้อยางสังเคราะห์ ราคายางเราก็ร่วง วนไปเวียนมาแบบนี้และอนาคตของโลกข้างหน้าจะมีรถไฟฟ้ามาแทนรถใช้น้ำมัน ราคาน้ำมันจะลดลงเรื่อยๆจึงต้องมีนโยบายใหม่ที่ผมเสนอพร้อมกับลดพื้นที่ยางพาราตามเป้าหมายอย่างจริงจังเพื่อลดปริมาณการผลิตให้เท่ากับความต้องการจะทำให้เกิดราคาที่ดีมีเสถียรภาพ
เรียกว่าทำน้อยได้มาก ไม่ใช่ทำมากได้น้อย
เรื่องปาล์มน้ำมันก็เช่นกันเราส่งออกเป็นอันดับ3ของโลกแต่ชะตากรรมเหมือนยางพาราต้องทำแบบเดียวกันโดยเพิ่มการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นและสร้างอุตสาหกรรมโอริโออินดัสตรีที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในแหล่งผลิตใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน
ผมเป็นมิสเตอร์เอทานอลผลักดันการผลิตเอทานอลตั้งแต่ปี2543จนรัฐบาลฯพณฯชวน หลีกภัยเห็นชอบทำให้เกิดการใช้แก๊สโซฮอลล์ทั่วประเทศในทุกวันนี้ ผมเริ่มส่งเสริมไบโอดีเซลในปี2544 และถ้าสร้างเขตเศรษฐกิจโอริโออินดัสตรีในภาคใต้จะแก้ปัญหาเชิงรุกแทนตั้งรับได้ดีกว่ายั่งยืนกว่าด้วยการบริหารเขตเศรษฐกิจแนวใหม่และมีองค์กรบริหารรูปแบบใหม่ทันสมัยโปร่งใสศักยภาพสูงจะทำได้สำเร็จเร็วขึ้น
แนวทางแบบนี้ใช้ได้กับการพัฒนาผลไม้ การประมงและการท่องเที่ยวครับ