Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Coming to A Pro
•
ติดตาม
22 ธ.ค. 2018 เวลา 07:36 • การศึกษา
ว่าด้วยบทนำของหนังสือชื่อ Peak เป็นหนังสือที่บอกเราว่า
“ทุกคนสามารถที่จะไปถึงเป้าหมายหรือข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้เสมอ! “
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนเรื่องเทคนิคกอล์ฟหรือเทคนิควงสวิงอะไรทั้งสิน
แต่ผมบังเอิญรู้จักหนังสือเล่มนี้จากครูสอนกอล์ฟชื่อดังที่ฟังมาจาก The golf science lab ซึ่งผู้จัดรายการคือ Cody walker
พวกเราเหล่านักกอล์ฟผู้แสวงหาเทคนิคการตีไกล เทคนิคที่จะพัฒนาให้วงสวิงของเราให้เหมือนโปร คงต้องรู้จัก...
ครูสอนกอล์ฟคนนั้นคือ Clay Ballad แห่ง Top speed golf ซึ่งClay Ballad บอกว่าเป็นหนังสือเล่มโปรดของเค้าเลย
ในที่สุดหนังสือเล่มโปรดของ Clay ก็มาอยู่ในมือผม และก็คงจะเป็นเล่มโปรดของผมเช่นกัน...
เข้าเรื่องหนังสือเลยแล้วกันครับ
ทำไมคนเราถึงเก่งแบบสุดๆ ไปจนถึงมือ1ของโลก หรือ สามารถทำอะไรที่สุดยอดๆได้ ยกตัวอย่างเช่น
ทำไม ไทเกอร์ วูดส์ ถึงได้ประสบความสำเร็จในกอล์ฟมากขนาดนี้ เป็นเพราะ ไทเกอร์ มีพรสรรค์? หรือ เก่งมาตั้งแต่เกิด?
บางคนอาจจะตอบว่าเพราะเค้ามีพรสรรค์
แต่คำตอบจากหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ
ผู้เขียน Anders Ericsson และ Robert Pool นั้นได้ทำการสำรวจวิจัยการเก็บข้อมูลว่าคนเก่งๆในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วิ่งมาราธอน วิ่ง100เมตร ตีกอล์ฟ แข่งรถ เล่นกีตาร์หรือไปจนถึงการทำขนมเค้ก นั้นไปถึงระดับTopของโลกได้ยังไง
คำตอบคือ
มันคือการฝึกฝนอย่างเข้มข้นเพื่อให้... สมอง! เกิดการเปลี่ยนแปลง
มันไม่ใช่แค่การซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อมแล้วเราจะเก่งขึ้น เหมือนอย่างที่เคยมีคนบอกไว้ว่า ถ้าอยากจะเก่งอะไรต้องฝึกให้ถึง 10,000 ชั่วโมง
ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะจริง แต่ในหนังสือแย้งและยกตัวอย่างเรื่องการฝึกตีเทนนิสของคนทั่วไปว่าอย่างงี้ครับ
สมมุติว่าเราไม่เคยเล่นเทนนิสเลย เราจึงเริ่มต้นด้วยการไปเรียนกับครูสอนเทนนิส
เริ่มด้วยการจับracket ให้เป็น ฝึกตีโฟรแฮน แบคแฮน ฝึกนอคลูกกับผนัง จนเริ่มสามารถตีลูกได้แม่นยำขึ้น
จากที่แรกๆตีไม่โดนลูก จนเริ่มไปเล่นกับเพื่อนๆในcourtได้
ไปแรกๆก็แพ้เพื่อนตลอด หลังจากแพ้ก็เริ่มฝึกฝนมากขึ้น เริ่มไปเล่นกับคนแปลกหน้าที่เก่งกว่าเรา จนฝีมือพัฒนาและเริ่มชนะเพื่อนได้ตลอด
จากที่ตีลูกไม่โดนเลยในช่วงแรก จนชนะเพื่อนที่เล่นมาก่อนเราได้ตลอด
พูดง่ายๆคือฝึกจนสามารถเป็นระบบอัตโนมัติได้
เหมือนกับเราขับรถ แรกๆ ทุกอย่างดูยากไปหมด พอขับได้แล้วแทบไม่ต้องคิดถึงเรื่องการเข้าเกียร์เหยียบเบรกเลย ซึ่งกระบวนการฝึกแบบนี้ก็ไช่เรื่องผิดอะไร เราทุกคนก็ผ่านกระบวนการฝึกพัฒนามาแบบนี้ทั้งนั้น
แต่คำถามคือ ถ้าเราเล่นเทนนิสชนะเพื่อนคนเดิมตลอด แล้วเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆอีก10ปีหรือเล่นเกิน10,000ชั่วโมง หรือขับรถไปเรื่อยอีก10,000ชั่วโมง ต่อจากนี้ไป
เราจะเป็นนักเทนนิสที่เก่งขึ้นกว่าเดิมไหม??
คำตอบคือ อาจจะเล่นได้แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
แล้วเราจะขับรถได้เก่งขึ้นไหม???
คำตอบคือ อาจจะขับได้แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะว่าทุกอย่างกลายเป็นระบบอัตโนมัติไปหมดแล้ว สมองและร่างกายของเราแทบไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย
จึงทำให้ไม่เกินการพัฒนา เพราะสาเหตุนี้จึงทำให้คนบางคนดูเหมือนจะฝึกหนักแต่ผลงานนั้นไม่ไปไหน
แต่กับอีกคนฝึกน้อยกว่าหรือฝึกเท่ากันแต่ดันมีพัฒนาการที่มากกว่า
ซึ่งวิธีเดียวที่จะพาเราก้าวข้ามขีดความสามารถไปถึงระดับที่เราฝันเอาไว้
วิธีนั้นคือ Deliberate Practice หรือ Intense Practice
ในหนังสือเล่มนี้มีตัวอย่างงานวิจัยมากมายที่พูดถึงการฝึกอย่างเข้มข้น(Deliberate Practice)
การฝึกแบบนี้ วิธีการนั้นสำคัญมาก หนังสือเล่มนี้จะพูดถึง
การฝึกสมอง! ให้ออกจากComfort Zone การฝึกแบบมีเป้าหมาย (purposeful practice) และการมีเป้าหมายที่ชัดเจน(Cleared goals) การtrack progress และอีกส่วนสำคัญคือทำยังไงให้รักษากำลังใจในฝึกฝนไม่ให้ตก หรือยอมแพ้ไปง่ายๆเสียก่อน(Maintaining Motivation)
และนี้คือจุดเริ่มต้นสำหรับใครที่ยังต้องการข้ามขีดจำกัดของตัวเอง...
To be continued....
ฝากชอบฝากแชร์จะช่วยให้มีบทความแนวใหม่ๆออกมาเร็วขึ้นครับ 💯🏌🏻♂️
#C2P_Golf#Peak#DeliberatePractice
1 บันทึก
5
2
3
1
5
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย