25 ธ.ค. 2018 เวลา 11:46 • ธุรกิจ
ประวัติโดยละเอียด อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจไฮเทคฉายา Iron Man ในโลกจริง
อายุได้ 3 ขวบ มีอาการคล้ายคนหูหนวก(แม้ว่าจะไม่ได้เป็น) พ่อแม่ของอีลอนตัดสินใจให้หมอผ่าต่อม อดีนอยด์ (คล้ายต่อมทอนซิลอยู่ด้านหลังโพรงจมูก) ของเขาออก
2
อายุ 7 ขวบ ใช้เวลาอ่านหนังสือ วันละ 10 ชั่วโมง
1
อายุ 8 ขวบ อ่านหนังสือจนหมดทั้งห้องสมุด อ่านหมดแม้กระทั่งสารานุกรม Britannica ที่มีในห้องสมุดเช่นกัน
5
อายุ 9 ขวบ พ่อกับแม่หย่ากัน อีลอน กับน้องชาย คิมบาล เลือกที่จะอยู่กับพ่อ ส่วนน้องสาวทอสก้า อยู่กับแม่
2
อายุ 10 ขวบ เริ่มสนใจในคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มหัดใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรกกับเครื่อง Commodore VIC-20 (เป็นโฮมคอมพิวเตอร์ 8 bit รุ่นแรก ๆ)
1
อายุ 12 เรียนการเขียนโปรแกรม BASIC (Beginner’s All-purpose Symbolic Instruction Code)ด้วยตนเอง (เป็นภาษาที่ใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์) ซึ่งเป็นคอร์สที่คนปกติทั่วไปใช้เวลาเรียน 6 เดือนจบ แต่อีลอนเรียนจบใน 3 วัน
5
และหลังเรียนจบ ด้วยวัย 12 ปีนี้เอง อีลอนเขียนเกมออกขาย ชื่อ Blastar โดยขายทั้งซอร์ซโค๊ดให้กับนิตยสาร PC and Office Technology ในราคา 500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
ในวัยเด็ก อีลอน มัสก์ ถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียนเป็นประจำ เป็นเหมือนฝันร้ายในวัยเด็ก เลวร้ายที่สุดคือถูกกลุ่มเพื่อนโยนลงบันไดและตามทุบตีจนหมดสติ จนอีลอนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
1
ในช่วงที่ Elon Musk อายุได้ 14 ปี เขาได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการท่องไปในอวกาศ และจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ได้ตัดสินใจว่า ภาวรกิจในชีวิตของเขานับตั้งแต่นี้ไป คือการรักษาการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ
1
อายุ 15 พ่อของเขาให้ทดลองทำงานจริง ๆ แบบใช้แรงงาน ได้ลองทำงานทุกอย่าง งานแปลก ๆ และออกไปอาศัยอยู่กับญาติของเขา
อายุ 17 เรียนจบมัธยมปลาย ตัดสินใจย้ายไปอยู่แคนนาดากับแม่ และได้สัญชาติแคนนาดาตามแม่ อีลอน มีแผนจะย้ายไปอยู่อเมริกา
ที่แคนนาดา อีลอนทำงานหนักเคยทำงานตั้งแต่พนักงานทำความสะอาด ที่มีค่าตอบแทนเพียง 18 ดอลล่าร์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
5
อายุ 18 (ปี1989) เข้าเรียนที่มหาวิยาลัยควีน ในรัฐออนแทริโอที่แคนนาดา ขณะเป็นนักศึกษาได้โทรไปขอฝึกงานกับผู้บริหารธนาคาร และได้รับการตอบรับ หวังว่าจะได้โชว์ความอัจฉริยะ แต่ทำได้แค่ชงกาแฟ
1
อายุ 20 ขอโอนย้ายหน่วยกิต ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาย้ายมหา’ลัยได้ไม่นาน ก็ก่อวีรกรรมเอาไว้อย่างสุดแสบนั่นก็คือ เขาได้เช่าบ้านแห่งหนึ่งในเพนซิวาเนีย แล้วเปิดเป็นไนท์คลับขายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์แบบไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเปิดให้เหล่าบรรดานักศีกษาเข้ามาสังสรรค์ในราคาค่าเข้าคนละ 5 ดอลล่าร์ และสามารถดื่มอะไร เท่าไหร่ก็ได้ทั้งหมดที่มีอยู่ภายในงาน ซึ่งทำให้มีคนเข้ามาในงานปาร์ตี้ขี้เมาของเขากว่า 500 คน
6
อายุ 23 เรียนจบปริญญาด้านฟิสิก์และเศรษฐศาสตร์ หลังจากนั้นได้ฝึกงานในบริษัทอิเล็คทรอนิกส์และวิดีโอเกม
1
เริ่มระดมความคิดกับ คิมบาล น้องชาย อยากจะทำบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับยา
อายุ 24 (ปี 1995)เข้าเรียนต่อปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ แต่หลังจากเรียนได้ 2 วัน ก็ไม่กลับไปเรียนอีกเลย
พ่อของอีลอน ให้เงินกับอีลอน และคิมบาล รวม 28,000 ดอลล่าร์ (ราว ๆ 7 แสนบาท) เพื่อเปิดเว็บไซต์ที่ชื่อ Zip2 เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
อีลอนกับน้องชายทุ่มเทให้กับ Zip2 เต็มที่ กินนอนอยู่ในออฟฟิศถึง 3 เดือน โดยอีลอนเขียนโปรแกรมและเว็บไซต์ด้วยตนเอง
อายุ 25 (ปี1996) ได้รับเงินทุนเพิ่ม 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นไม่นาน ก็โดนปลดจากตำแหน่ง CEO โดยผู้ลงทุนนั้นเอง
1
หลังจากนั้นแม้ไม่ได้เป็น CEO แต่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อ Compaq เข้าซื้อ Zip2 ด้วยมูลค่า 341 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อีลอนจึงได้รับเงินส่วนแบ่งเป็นจำนวน 22 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
3
อายุ 28 (ปี1999) อีลอน ก่อตั้งบริษัท X.com เป็นธนาคารออนไลน์ โดยใช้เงินตัวเองลงทุนถึง 10 ล้านดอลล่าร์ และเอาเงินอีก 1 ล้านดอลล่าร์ไปซื้อรถ McLaren f1 (แล้วก็เอาไปชนจนพังยับไม่มีชิ้นดี)
2
อายุ 29 (ปี 2000) X.com ประกาศซื้อกิจการ บริษัทคอนฟินิตี้ (Confinity) สตาร์ทอัพฟินเทค เพื่อปูทางไปสู่การก่อตั้ง Paypal ระรบรับจ่ายเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
1
แต่งงานกับแฟนสาว Justine Wilson (ชาวแคนนาดา) (พบกันตอนเรียนที่มหาวิยาลัยควีน)
เริ่มมีปัญหากับ CTO ในเรื่องการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ อีลอนจึงหลบไปพักผ่อนที่ออสเตรเลียชั่วคราว ถือโอกาสไปฮันนีมูนด้วย
กรรมการบริหารจึงฉวยโอกาสนี้ลงมติปลดเขาออกจากตำแหน่ง CEO แล้วแต่งตั้ง Peter Thiel ขึ้นเป็น CEO แทน
หลังจากถูกปลดจาก CEO อีลอนยังคงลงทุนเพิ่มในบริษัท และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด
แต่เกือบตายด้วยไข้มาลาเรียขณะไปเที่ยวพักผ่อน
ในช่วงเวลานี้เอง อีลอนเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับโครงการอวกาศ และย้ายบ้านไปอยู่ใน ลอสแอนเจลิส เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมอวกาศ และศึกษาเกี่ยวกับการสร้างจรวดจากหนังสือ
2
อายุ 30 (ปี 2001) เดินทางไปรัสเซียเพื่อขอซื้อจรวดขีปนาวุธโซเวียตที่ปลดประจำการแล้ว เพื่อนำมาทำการทดลอง
1
อายุ 31 (ปี 2002) หลังจากการเจรจาอันยาวนาน ก็ต้องล้มเหลว พ่อค้ารัสเซียต้องการขายจรวดในราคาสูงถึง 8 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งอีลอนคิดว่ามันแพงเกินไป
ในปีนี้เอง เขาได้ลูกชาย ชื่อ Nevada Alexander ในเดือน พฤษภาคม 2002
ในเดือนมิถุนายน เขาเริ่มก่อตั้งโครงการ SpaceX ที่จะสร้างจรวดด้วยตัวเอง โดยลงทุนเองทั้งหมด
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ก็เกิดเรื่องน่าเศร้า เพราะลูกชายของเขา ได้เสียชีวิตลงด้วยโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือ โรคตายอย่างเฉียบพลัน ด้วยวัยเพียง 10 สัปดาห์เท่านั้น
2
ต่อมาในเดือน ตุลาคม 2002 ebay ได้ติดต่อเข้าซื้อกิจการ Paypal ด้วยราคาสูงถึง 1.5 พันล้านดอลล่าร์ และในฐานะที่อีลอนถือหุ้นใหญ่ที่สุด เขาจึงได้เงินส่วนแบ่งมากถึง 180 ล้านดอลล่าร์
2
ตอนนี้เขาคิดที่จะสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
1
อายุ 33 (ปี 2004) ร่วมกับ Martin Eberhard และ JB Straubel ก่อตั้ง Tesla Motors อีลอนลงทุนด้วยเงิน 70 ล้านดอลล่าร์
1
ในปีนี้เองเขาได้ลูกชายฝาแฝดจากการทำเด็กหลอดแก้ว
อายุ 35 (ปี 2006) ในเดือนมีนาคม การปล่อยจรวดครั้งแรก ล้มเหลว ต่อมาเดือนกรกฎาคมได้ร่วมลงนามกับ NASA เพื่อจะส่งสัมภาระไปยัง สถานีอวกาศ ISS
1
เดือนสิงหาคม ได้ลงทุนในบริษัทโซล่าร์ซิตี้ บริษัทผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์
1
และในช่วงปลายปีนี้เอง เขาก็ได้ลูกชายแฝด 3
อายุ 36 (ปี 2007) เดือนมีนาคม การทดลองจรวดครั้งที่ 2 ล้มเหลว
อายุ 37 (ปี 2008) รถเทสลาร์คันแรก ชื่อรุ่น Roadsters ที่อีลอนมีส่วนร่วมในการออกแบบทั้งหมด ได้ส่งมอบให้กับลูกค้าเรียบร้อย ในราคา 109,000 ดอลล่าร์
กรกฎาคม 2008 อีลอน หย่าร้างกับภรรยา Justine
1
สิงหาคม 2008 การทดลองจรวดครั้งที่ 3 ล้มเหลว และครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายให้นาซ่าด้วย
1
ในขณะเดียวกัน Tesla Motors ก็กำลังย่ำแย่ จากการสูญเงินสดมหาศาลในช่วงที่ Martin Eberhard เป็น CEO
อีลอน ใช้เงินตัวเอง 40 ล้าน และกู้เพิ่มอีก 40 ล้าน ลงทุนไปใน Tesla เพื่อพยุงไม่ให้ Tesla ล้มละลาย และขึ้นเป็น CEO ของ Tesla เอง
2
กันยายน 2008 การทดลองจรวดครั้งที่ 4 ประสบความสำเร็จ
1
อีลอนหลั่งน้ำตาเมื่อตระหนักว่า SpaceX กำลังจะล้มละลาย
1
ธันวาคม 2008 นาซ่าตกลงเซ็นสัญญากับ SpaceX ในการขนส่งทางอวกาศ 12 เที่ยว มูลค่า 1.6 พันล้านดอลล่าร์
อีลอนสามารถระดมทุนให้กับ SpaceX และ Tesla ได้ทันเวลา รอดพ้นจากการล้มละลายได้อย่างหวุดหวิด
2
ช่วงปี 2008 เป็นปีที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตของอีลอน
อายุ 38 (ปี 2009) เปิดตัว Tesla Model S
อายุ 39 (ปี 2010) เดือนมิถุนายน Tesla เข้าตลาดหุ้น เพิ่มทุนได้ 226 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
เดือนตุลาคม 2010 อีลอนเข้าซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ที่เป็นโรงงานเก่าของโตโยต้า
และในปีนี้เอง อีลอนได้แต่งงานใหม่กับ ดาราสาวชาวอังกฤษ Talulah Riley
อายุ 40 (ปี 2011) ประกาศจะนำคนไปเหยียบดาวอังคารภายในปี 2021-2031 “ผมต้องการตายบนดาวอังคาร แบบไม่ใช่เพราะแรงกระแทกนะ” (หมายถึงแก่ตาย)
กันยายน 2011 ประกาศจะทำจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (ซึ่งสามารถลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศได้เป็นร้อยเท่า)
1
อายุ 41 (ปี 2012) เดือนกุมภาพันธ์ เปิดตัว Tesla Model X เป็นรถ SUV
มีนาคม 2012 หย่าร้างกับ Talulah
พฤษภาคม 2012 ส่ง Dragon docks เชื่อมต่อกับสถานนีอวกาศ
มิถุนายน 2012 เริ่มส่งมอบรถ Tesla Model S ให้กับลูกค้า
กันยายน 2012 ทดสอบการลงจอดของจรวดในแนวดิ่ง ในเป้าหมายที่จำกัดพื้นที่
และเปิดตัวสถานีชาร์ตไฟ แบบ Supercharger สำหรับชาร์ตไฟให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Tesla
1
อายุ 42 (ปี 2013) เมษายน ทดสอบการลงจอดของจรวดในทะเล
กรกฎาคม กลับมาแต่งงานกับ Talulah Riley อีกครั้ง
2
สิงหาคม 2013 เปิดเผยต้นแบบของโครงการไฮเปอร์ลูป ที่จะมีความเร็วสูงสุด 1,200 กม./ชั่วโมง
1
อายุ 43 (ปี 2014) เมษายน ทดสอบการลงจอดของจรวดในทะเล โดยลงจอดบนเรือ
มิถุนายน เริ่มก่อสร้างโรงงานขนาดยักษ์เพื่อผลิตแบตเตอรี่
1
ธันวาคม 2014 ยื่นขอหย่าอีกครั้ง แต่ขอยกเลิกในอีก 7 เดือนต่อมา
อายุ 44 (ปี 2015) เมษายน เปิดตัว Powerwall แบตเตอรี่สำหรับใช้ร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าในบ้าน
มิถุนายน การทดลองจรวดล้มเหลว (ล้มเหลวเป็นครั้งแรกหลังจากทดลองสำเร็จมา 19 ครั้ง)
กันยายน ส่งมอบรถ Tesla Model X ให้ลูกค้าคนแรก
พฤศจิกายน ถูกท้าทายจาก Jeff Bezos Ceo Amazon ที่สามารถทำจรวดไปโคจรนอโลกรอบสั้น ๆ แล้วนำกลับมาจอดยังโลกอย่างปลอดภัย
ธันวาคม 2015 SpaceX Falcon 9 การทดลองนำจรวดกลับมาจอดยังฐานบนผืนน้ำเพื่อเติมพลังงานประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรก และสามารถทำให้จรวดนำกลับมาใช้ใหม่100%ได้ครั้งแรกในโลก
2
ได้รับสัญญาจากนาซ่าเพิ่มเติมอีก 24 ฉบับ
1
ในปีนี้ยังก่อตั้งบริษัท The Boring Company เพื่อทำอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินเพื่อใช้ในการเดินทางด้วยความเร็วสูง อีลอนเปิดเผยเพียงว่า หากขุดอุโมงค์นี้เชื่อมนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. ก็จะสามารถพัฒนาไฮเปอร์ลูปมาเชื่อมในเส้นทางนี้ได้
3
อีลอนก่อตั้งกลุ่ม OpenAi เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะไม่ทำลายมนุษยชาติ
Tesla เข้าซื้อบริษัท SolarCity ด้วยเงิน 2,600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
1
โปรโมทระบบขับเคลื่อนด้วยตนเองของ Tesla
อายุ 45 (ปี 2016) มีนาคม Riley เป็นฝ่ายยื่นขอหย่าเอง และทั้งสองหย่าขาดจากกันในเดือนตุลาคม 2016
1
อายุ 46 (ปี 2017) กรกฎาคม ไฮเปอร์ลูปทดลองเฟสที่ 2 ทำความเร็วได้ 310 กม./ชั่วโมง ตั้งเป้าเปิดให้ใช้งานในปี 2021
และล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอ โปรโมทโครงการ SpaceX ที่จะนำมาใช้เดินทางบนโลกแทนเครื่องบิน
1
เรียนรู้ชีวิตของ Elon Musk บุรุษผู้ที่จะถูกจารึกชื่อในประวัติศาสตร์
ในยุคสมัยก่อนหน้าที่จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม โลกของเรามีบุคคลสำคัญมากมายที่ฝากผลงานระดับพลิกโลกไว้ เช่น เซอร์ไอแซคนิวตัน ที่ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วง ไมเคิล ฟาราเดย์ ผู้ให้กำเนิดไฟฟ้า หรือสองพี่น้องตระกูลไร้ท์ ผู้ให้กำเนิดเครื่องบิน แต่ Elon Musk ชายผู้นี้ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมายนับไม่ถ้วน ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในชั่วชีวิตของคนเพียงคนเดียว จากเส้นทางชีวิตข้างต้น เราคงได้เห็นแล้วว่า แม้จะเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อมไปเสียหมด
6
Elon Musk คือ Introvert ตัวพ่อ
3
Elon Musk เป็นคนที่ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยชอบสังคม ไม่สุงสิงกับใคร ครั้งหนึ่ง Errol Musk พ่อของเขา เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ (ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์น้อยครั้งมาก ๆ) ว่า “Elon น่ะเหรอ เขาชอบเก็บตัว ถ้าไปงานปาร์ตี้วันเกิดใครซักคนนึง จะไม่มีทางเห็นเขาไปเต้นหรือไปยืนคุยกับใคร เราจะหาเขาได้ที่ห้องสมุดของเจ้าของบ้าน เขาจะนั่งหลบมุมอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่ในนั้นแหละ” แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อของเขาเองไม่เคยรู้ก็คือ สาเหตุของการเก็บตัวนั้น นอกจากที่ Elon จะชอบอ่านหนังสือแล้ว การที่เขาไม่ชอบคบหรือพูดคุยกับคนอื่น มาจากการโดนแกล้งที่โรงเรียน
5
กว่าพ่อจะรู้ว่าลูกตัวเองโดนแกล้ง Elon Musk ก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้ว
2
เขาถูกเพื่อนกลุ่มใหญ่รุมทำร้าย และจับโยนลงมาจากบันได และยังตามมากระหน่ำทุบตีจน Elon สลบไป ดังนั้นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขาจึงไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหนังสือ Elon ใช้เวลาอ่านหนังสือถึงวันละ 10 ชั่วโมง แทนที่จะไปวิ่งเล่นกับเพื่อน และเป็นนักอ่านตัวยง อ่านจนหนังสือหมดห้องสมุด
2
เข้าใจชีวิตเพราะการอ่าน
ด้วยการอ่านนี้เอง เขาอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งวิทยาศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา สุดท้ายทำให้เขาเข้าใจชีวิต และห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ ในวัย 14 ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังวิ่งเล่นและเริ่มมีความรักหนุ่มสาว และเอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง แต่ Elon Musk กลับตั้งเป้าหมายใช้ชีวิตเพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ
1
โลกพังทลาย หลังการหย่าร้างของพ่อแม่
ในวัยเพียง 9 ขวบเขาต้องเลือกระหว่างพ่อกับแม่ และเขาเลือกอยู่กับพ่อ และนั่นทำให้เขายิ่งเจ็บปวด เพราะหลังจากการหย่าร้าง บ้านก็ไม่เป็นเหมือนบ้านอีกต่อไป ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเริ่มแย่ลง เขาไม่ได้เป็นคุณหนูของบ้านอีกแล้ว พ่อเริ่มให้เขาหัดทำงานทุกอย่างในบ้าน และทำงานนอกบ้านอย่างจริงจังในตอนอายุ 15 ทุกสิ่งที่เขาเจอในแอฟริกาใต้ เป็นเรื่องที่เขาไม่อยากพูดถึง Elon อดทนจนเรียนจบม.ปลาย และขอย้ายไปอยู่แคนนาดา
11
โดยพ่อ ก็พูดไล่หลังไปว่า ถ้าอยู่ที่แอฟริกา ก็จะส่งเรียนจนจบมหาวิยาลัย แต่ถ้าไปแคนาดาก็ไปหาเงินเรียนต่อเอาเอง แม้พ่อเขาจะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม แต่ Elon ก็ไม่ขอกลับไปอยู่กับพ่อ ยอมทำงานส่งตัวเองเรียนในแคนาดา และสอบชิงทุนต่อไปเรียนที่อเมริกา
วางแผนไปซิลิคอนวัลเลย์
4
Elon Musk เปิดโลกกว้างด้วยการอ่าน เขารู้ว่าที่อเมริกา มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง เป็นเมืองเทคโนโลยีที่มีแต่คนเก่ง ๆ และมีโอกาสมากมายเต็มไปหมด เหมือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักคิดนักวิทยาศาสตร์ และเขาตั้งใจว่าจะต้องไปอเมริกา ไปซิลิคอนวัลเลย์ให้ได้ แม้จะต้องไปอยู่แคนาดาก่อน และไปทำงานล้างหม้อต้มน้ำร้อนที่สกปรกสุด ๆ แลกกับเงินเพียงเล็กน้อยก็ยอม
1
ฝึกนิสัยพึ่งพาตนเองตั้งแต่เด็ก
เนื่องจากเป็นเด็กเก็บตัว จึงไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร อะไรที่ทำเองไม่ได้ จะหาข้อมูลด้วยการอ่าน และฝึกทดลองทำเองจนสำเร็จ ตั้งแต่เรียนเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง จนทำเกมออกขายได้ตั้งแต่อายุได้เพียง 12 ขวบ ไปจนถึงการสร้างยานจรวดด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือ
1
เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ
Elon Musk ชอบพึ่งพาตนเองก่อนเสมอ และหยิบจากสิ่งรอบตัวที่พอจะมี สร้างสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วค่อย ๆ ต่อยอดไปทีละนิด จากการหาเงินส่งตัวเองเรียน จนถึงวันที่จะต้องเริ่มธุรกิจจริงจัง เขาเคยขอเงินพ่อแค่ครั้งเดียว และพ่อก็ให้เงินเขาเพียง 28,000 ดอลล่าร์เท่านั้น แต่เขากลับสร้างกำไรได้มหาศาลถึง 22 ล้านดอลล่าร์
2
มุ่งมั่นที่เป้าหมาย แม้จะต้องเดินอ้อมไกลแค่ไหนก็ตาม
1
Elon Musk มีเป้าหมายจะปกป้องมนุษยชาติ จากวิกฤติของภัยธรรมชาติ โดยต้องการหาทางสำรองไว้เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์หากเกิดอะไรขึ้นกับโลก ซึ่งเป้าหมายนี้ มั่นคงและแน่วแน่มาตั้งแต่ Elon อายุ 14 ปี แม้ว่าก่อนจะมีโครงการ SpaceX จะทำให้ Elon ต้องเดินอ้อมไปไกล ๆ อย่างทำ Zip2 เพื่อหาเงินก้อนแรก แล้วไปทำ Paypal จึงจะเริ่มทำ SpaceX ได้และระหว่างนั้นก็ทำ Tesla ไปด้วย เพื่อหาทุนมาอุดหนุนโครงการ SpaceX ต่อ เป้าหมาย Multi-Planet ที่จะสร้างอานานิคมบนดาวดวงอื่น เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังคงชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง
3
แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น Elon ต้องยอมเดินอ้อมไปไกลมาก ๆ เช่นต้องหาเงินทุน และทำให้นักลงทุนมั่นใจก่อน โดยติดต่อกับนาซ่า ขอส่งจรวดขนสัมภาระขึ้นไปแทน โดยนาซ่าจะลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสร้างจรวดเอง และนาซ่าตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้างระยะยาวในที่สุด ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่น ยอมจ่ายเงินลงทุนให้ Elon ทำให้โครงการของเขาเดินหน้าต่อไปได้ และล่าสุดกับการวาดฝันโดยใช้จรวดบินแทนเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อเดินทางไปที่ไหนก็ได้ในโลก ก็เพื่อที่จะระดมทุนครั้งใหญ่ เพื่อผลักดันให้มีจำนวนจรวดมากขึ้น เพื่อเตรียมการสู่การเดินทางไปดาวอังคารในอีก 7 ปีข้างหน้า ที่กำลังจะมาถึงนี้
ล้มแล้วลุกใหม่ทุกครั้ง
1
Elon Musk แม้จะถูกหักหลังบ่อยครั้ง ตั้งแต่ Zip2 ที่ถูกปลดกลางอากาศ จากตำแหน่ง CEO ในบริษัทของตัวเอง และพอมาทำ Paypal ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยเดิมอีก โดนปลดกลางอากาศเหมือนเดิม แล้วลูกที่เพิ่งคลอดก็ยังมาจากไปอีก ทดลองจรวดที่สร้างด้วยตัวเอง ก็ล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน เงินก็ไหลออกเป็นน้ำจนแทบล้มละลาย ให้เพื่อนนั่งบริหาร Tesla ก็จะพา Tesla ล้มละลาย แถมเมียยังมาขอหย่าอีก เรียกว่าถ้าเป็นคนปกติ อาจจะเสียสติไปแล้วก็เป็นได้
1
แต่ทุก ๆ ช่วงชีวิตมักมีเวลาของมัน ความทุกข์ที่ถาโถมเข้ามา โชคร้ายที่รุมกระหน่ำซ้ำเติมเข้ามา มันจะผ่านไป ถ้ารีบลุกขึ้นมาให้เร็วเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งผ่านไปเร็วเท่านั้น
2
ไม่กลัวขาดทุน คิดถึงแต่ประโยชน์ของผู้ใช้
ทั้ง SpaceX และ Tesla รวมถึง Hyperloop Elon Musk คิดถึงแต่ประโยชน์ของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะเน้นว่าทำออกมาแล้ว ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง
SpaceX ต้องเดินทางได้ในราคา Economy Class
Tesla ประหยัดพลังงาน ชิ้นส่วนน้อยอะไหล่น้อยซ่อมบำรุงน้อย
Hyperloop ขนคนได้ในจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว เก็บค่าโดยสารได้ถูก
แต่ด้วยความคิดนี้เอง ทำให้ เกือบล้มละลายมาแล้วทั้ง SpaceX และ Tesla เพราะทุนวิจัยและพัฒนามันแพงเหลือเกิน
1
อัจฉริยะที่เกิดจากความพยายาม
ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ Elon Musk จึงมีความพยายามที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และไม่เคยย่อท้อ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคอะไร การทดลองจรวด แม้จะโดนดูถูก เยาะเย้ยถากถาง เขาไม่เคยใส่ใจ และยังคงมุ่งมั่นทำงานของตัวเองต่อไป แม้การทดลองจะล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุก ๆ ครั้งเขาจะกลับมาและทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิม เราได้เห็นทั้ง เซอร์ไอแซคนิวตัน, ไมเคิล ฟาราเดย์, ทอมัส อัลวา เอดิสัน และ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในตัวของ Elon Musk จากความที่เป็นนักอ่านและนักลงมือทำ จึงทำให้ในวันนี้ Elon Musk ทำสิ่งที่คนทั่วโลกคิดมาตลอดหลายร้อยปีว่า เป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นจริงได้แล้ว และยังมีอีกหลายสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ กำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้ชื่อของเขาคนนี้ Elon Musk
3
ผมไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด
จนกว่าผมจะพิกลพิการไม่ก็ตายกันไปข้างนึง
– ELON MUSK –
2
Image credit: abcnews
(ข้อมูลจาก Elon Musk Infographic)
By CEOblog .co
โฆษณา