29 ธ.ค. 2018 เวลา 15:16 • ปรัชญา
วิธีที่ 9 ที่จะทำให้คนอื่นเห็นด้วยกับคุณ
ทุกคนก็รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่คนส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะหลงอยู่ในจินตนาการที่สวยงามของตัวเอง พวกเขาจะเลือกฟังสิ่งที่พวกเขาอยากรับฟัง ถ้าคุณรู้อย่างนี้แล้ว เวลาที่คุณจะต้องไปโน้มน้าวใครสักคนคุณจะต้องรู้ว่าพวกเขามีความชอบในเรื่องอะไร
นายธนาคารมอร์แกนเขียนในบทความของเขาว่า
"เวลาคนเราทำอะไรบางอย่าง มันมีด้วยกันอยู่ 2 เหตุผล เหตุผลที่หนึ่งทำเพื่อตัวเอง เหตุผลที่สองทำเพื่อให้ตัวเองดูดี"
ทุกคนก็รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่คนส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะหลงอยู่ในจินตนาการที่สวยงามของตัวเอง พวกเขาจะเลือกฟังสิ่งที่พวกเขาอยากรับฟัง ถ้าคุณรู้อย่างนี้แล้ว เวลาที่คุณจะต้องไปโน้มน้าวใครสักคนคุณจะต้องรู้ว่าพวกเขามีความชอบในเรื่องอะไร
.
แล้ววิธีนี้ใช้ได้ผลกับการทำธุรกิจไหม? ยกตัวอย่าง
คุณไฟล์เออร์ทำงานที่บริษัทตัวแทนบ้านเช่า เขาเจอกับลูกค้าที่ไม่พอใจและอยากจะย้ายออก แต่ว่าสัญญายังคงเหลืออีก 4 เดือน และค่าเช่าต่อเดือนมีมูลค่า 55 ดอลลาร์ แต่ลูกค้าอยากจะย้ายออกให้ได้ คุณไฟล์เออร์แบ่งปันเรื่องราวนี้ให้ฟังว่า
.
ตอนที่ลูกค้าอยากจะย้ายออกเป็นช่วงหน้าหนาว ถ้าเกิดว่าย้ายออกก่อนฤดูใบไม้ร่วง มันจะทำให้หาลูกค้ามาเช่าต่อได้ยาก และดูเหมือนว่าผมจะค้องสูญเสียเงิน 220 ดอลลาร์ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผมคงจะเอาสัญญาไปให้ลูกค้าดูและบอกกับเขาว่าต้องจ่ายค่าเช่าที่เหลือให้กับผม
.
แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ทำแบบนั้น ผมบอกกับลูกค้าว่า
"คุณลูกค้า ผมได้ยินมาว่าคุณอยากจะย้ายออก ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมทำธุรกิจนี้มาเป็นเวลานาน ผมรู้จักคนมากมาย ตอนที่คุณย้ายเข้ามา ผมรู้เลยว่าคุณเป็นคนที่ซื่อสัตย์แล้วตอนนี้ผมก็ยังคงเชื่ออย่างนั้น"
ลูกค้าฟังผมอย่างตั้งใจและผมก็พูดต่อ
"ผมอยากจะแนะนำให้คุณช่วยพิจารณาอีกหน่อย ถ้าเกิดว่าคุณยังอยากจะย้ายออกเดือนหน้า ผมก็จะยอมรับคำขอของคุณ และผมก็ยังคงต้องยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาดของผมเอง แต่ว่าผมมีความมั่นใจในตัวคุณว่าคุณจะรักษาสัญญาและอยู่จนครบกำหนดของสัญญา"
.
และเป็นไปอย่างที่ผมคาด ลูกค้ามาจ่ายค่าเช่าตรงเวลาและบอกว่าครอบครัวของเขาตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ พวกเขาคิดว่าควรจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผม
.
ดังนั้นถ้าคุณอยากให้คนอื่นเห็นด้วยกับคุณและทำตามที่คุณต้องการ กฎข้อที่ 9 คือ "ทำให้พวกเขารู้สึกดีกับคุณและอยากที่จะทำสิ่งต่างๆให้คุณ"
- จากส่วนหนึ่งของหนังสือจุดอ่อนของมนุษย์จากเดล คาร์เนกี -
จินขอแบ่งเขียนเป็นข้อๆนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^
โฆษณา