1 ม.ค. 2019 เวลา 05:41 • ธุรกิจ
ออกจากงานประจำมาทำเอง : ฉบับไม่โลกสวย
แม้จะมีคนเขียนบทความแนวนี้กันมากมาย เพราะมีคนฝันที่จะเป็นนายตัวเองมากมาย...แต่ก็อยากแชร์ประสบการณ์จริงเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ผมเอง ในวัย 42 (ตอนออกจากงานประจำ) ขอสรุปสั้นๆว่าภารกิจนี้ คุณต้องเตรียมตัว..และเตรียมใจ
ย้ำอีกครั้ง ... เตรียมตัว และ เตรียมใจ
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมขอแชร์ประสบการณ์ ความคิด และสิ่งที่ประสบพบมากับตัวเองเป็นข้อๆดังนี้
1. ก่อนจะออกจากงานประจำ คุณต้องวางแผนล่วงหน้า ... ต้องเคลียร์หนี้สินให้หมด (หรือเหลือน้อยจนไม่เป็นปัญหา)...
2. ก่อนลาออก ต้องรู้ก่อนว่าจะออกมาทำอะไรกิน ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนว่าสิ่งที่จะออกมาทำ มีแง่มุมอะไรทั้งด้านดีและร้าย คู่แข่งเยอะไหม ฯลฯ (ก่อนออกต้องคิดเยอะๆ)
3. ก่อนลาออก ต้องมีเงินเก็บเพียงพอที่เราและคนที่พึ่งพาเราจะสามารถอยู่ได้โดยไม่มีรายได้ประมาณ 6 เดือน (ผมเก็บเผื่อ 1 ปี) หากเงินใกล้หมดแต่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็จงกลับไปทำงานประจำอีกครั้งเพื่อตั้งหลักใหม่
4. งานที่คิดว่าจะออกมาทำเอง ถ้าเป็นงานที่คุณคนเดียวสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือหุ้นกับใคร นั่นคือช้อยส์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าทำไม่ได้ก็หา Partner ที่ดีที่สุด
5. ลงทุนในธุรกิจด้านบริการ ใช้ทุนน้อย ดีกว่าธุรกิจที่ลงทุนสูงมากหรือเสียค่าใช้จ่ายมาก เว้นเเต่คุณจะมีทุนมากพอหรือมีสปอนเซอร์หนุนหลัง
6. ถ้าคุณไม่มีวิชาชีพ ไม่มีทุน มีหนี้เยอะ มีภาระเยอะ ครอบครัวหรือคนรอบตัวไม่สนับสนุน ... อย่าออกมาทำงานอิสระ เพราะโอกาสรอดจะน้อยมากมาก
7. โปรดรู้ไว้ว่าคนที่ออกมาทำอิสระ จะอยู่รอดเพียงไม่เกิน 20% ... ส่วนที่ออกมาแล้วสำเร็จหรือดีกว่าตอนอยู่ประจำ มีไม่เกิน 5% (อัตราส่วนนี้ ใกล้เคียงกับกลุ่ม Startup และ SME)
8. ถ้าออกมาแล้วไปไม่รอด ก็จงกลับเข้าไปทำงานประจำ แล้วคิดทบทวนว่าควรจะออกมาลุยต่ออีกครั้งไหม ... จงคิดว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติและเป็นบทเรียน จงรับความจริงและรับสภาพ... อย่าดันทุรังจนติดลบ
9. งานประจำที่ดีๆ ย่อมดีกว่าทำงานอิสระมากมาย ต้องยอมรับจุดนี้
10. (โดยส่วนตัว) สิ่งที่มีค่าที่สุดคืออิสระในการใช้ชีวิต รองลงมาคือเวลาที่ได้กลับคืนมา และท้ายที่สุดคือ เงิน ... เหตุผลคือ เมื่อออกมาทำเอง สิ่งที่คุณจะสูญเสียไปคือเงิน(รายได้) ที่ลดลง ดังนั้น ในอีกแง่หนึ่ง จงใช้เวลาและอิสระที่ได้มาให้มีประโยชน์มากที่สุด
11. อย่าไปเชื่อหนังสือ How to ต่างๆที่ขายกันเกร่อให้มากนัก .... โดยเฉพาะหนังสือที่ชักชวนให้คุณออกจากงานประจำมาทำงานอิสระ ... คนที่เขียนหนังสือเหล่านี้ ถ้าดูดีๆส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนที่ออกมาทำงานอิสระแล้วประสบความสำเร็จ เเต่เขาเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการเขียนหนังสือและจัดคอร์สเทรนนิ่งสัมมนาเพื่อให้ได้เงินจากคุณ
12. (สืบเนื่องจากข้อ 11.) คนเราแต่ละคนมีความรู้ ความคิด ทักษะ ประสบการณ์ในชีวิตที่สั่งสมมาแตกต่างกัน (ผมเรียกว่า DNA ต่างกัน) ตัวคุณเองไม่ใช่คนเขียนหนังสือเหล่านี้และยิ่งแตกต่างไปจากคนที่ประสบความสำเร็จดังๆที่หนังสือเหล่านี้ชอบหยิบยกมากล่าวอ้างเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ... เพราะฉะนั้น อ่านหนังสือเหล่านี้ได้แต่ต้องถามตัวเองและดูตัวเองด้วยว่าเราทำหรือเป็นแบบเขาได้ไหม
13. ทำแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ใจเย็นๆ ทำตามฐานะ ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆ อย่าทุ่มหมดตัว
14. พูดคุยกับคนที่ออกมาทำในงานแบบที่เราคิดจะทำ นั่นละเคสตัวอย่างที่ดีที่สุด (ดูข้อเสียหรือจุดอ่อนที่เค้าพลาด ดูปัจจัยที่ทำให้เค้าสำเร็จ)
15. ทำสิ่งที่เราชอบ แต่งานนั้นต้องทำเงินด้วย (รักอย่างเดียว ไปไม่รอด)
16. อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น เค้าอาจมีปัจจัยต่างจากเรา แต่ควรเรียนรู้คนอื่นเพื่อเป็นบทเรียนให้เรา
17. อย่าคาดหวังในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่งั้นจะกดดันแล้วท้อถอยง่าย (ถ้าจะบนบานศาลกล่าวเพื่อกำลังใจได้ ก็ทำไป แต่อย่าถึงขั้นงมงาย)
18. ออกมาแล้ว ตัดสินใจดีแล้ว เดินหน้าไปเลย อย่ามองไปข้างหลัง อย่าเปรียบเทียบกับอดีต เพราะการทำเอง ทุกอย่างจะขาดแคลนและลำบากกว่างานประจำ
1
19. ในภาพรวมของงาน พยายามคิดบวก แต่ในเนื้องาน ต้องละเอียด
20. บางเวลาจะจิตตกและฟุ้งซ่านสับสน นั่นคืออาการปกติที่อาจเกิดขึ้น แม้คุณจะเตรียมตัวดีแค่ไหนก็ตาม (ผมแก้ปัญหานี้ด้วยการสวดมนต์และทำสมาธิเพื่อเรียกสติกลับคืนมาครับ)
ปล. ผมออกจากงานมาเเล้วสามปี ทำงานวิชาชีพเฉพาะทาง คิดอยู่ 5 ปีก่อนลาออกฯ ใช้เวลาเตรียมตัว 3 ปี เพื่อปลดหนี้และเก็บออมเงิน อ่านหนังสือมากมายเพื่อสั่งสมความคิดและเตรียมใจ ถึงวันนี้มีความสุขและรายได้เพียงพอที่จะอยู่รอดได้ แต่ยังไม่ถึงกับสำเร็จ (ถ้าไปไม่ไหววันไหนจะมาบอกเล่าบทเรียนให้ฟังนะครับ)
โฆษณา