5 ม.ค. 2019 เวลา 05:30 • บันเทิง
ตอนสุดท้ายของรามเกียรติ์แล้วครับ...ตอนนี้ยาวหน่อย เพราะผมยกกลอนมาให้อ่านยาวๆ...อยากให้ได้ละเลียด และสัมผัสได้ถึงพลังของกวีนิพนธ์กันครับ...
เล่าความรามเกียรติ์ 37...
ทัพทศกัณฐ์ได้น้ำวิเศษมา คราวนี้พอออกรบ...ยักษ์ตายปุ๊บก็พรมน้ำทิพย์...ก็ฟื้น...ไม่ฟื้นเปล่า...ลุกมาแบบ walking dead ...น่ากลัวกว่าเดิมเข้าไปอีก...
ฝ่ายยักษ์...พอตายก็พรม...ตายก็พรม...ฟื้นกันไม่จบไม่สิ้นยังงี้...ฝ่ายลิงชักไม่ไหว...
พระรามต้องแผลงศรเป็นตายข่ายไปกักยักษ์ผีดิบทั้งหลายเอาไว้...ถึงฆ่าไม่ตายกูก็ขังมึงไว้ก่อนแล้วกัน...แล้วก็ให้หนุมานไปดำเนินการซ้อนแผนทันที...
แน่นอน...ทั้งหมดที่ทำนี่...พิเภกบอก
หนุมานก็พาพรรคพวก...ปลอมตัวเป็นกองทัพของลงกา...คืนเข้าเมือง...ตัวหนุมานเองปลอมเป็นทศกัณฐ์...
เจอหน้านางมณโฑ...ก็ทำเป็นดีใจ...สั่งเปิดไวน์  ตั้งโต๊ะจีนฉลอง...พี่ปราบพระรามพระลักษมณ์เรียบร้อยแล้วน้องจ๋า...
เรามาบึ๊ดจ้ำบึ๊ดฉลองชัยกันเถอะ...
นางมณโฑหลงเชื่อ...ก็เลยตกเป็นเมียลิงอีกรอบ...พิธีแตก...
ทศกัณฐ์อยู่ในสนามรบก็งง...อ้าว  ทำไมหมู่นี้พรมแล้วไม่ฟื้นวะ...ขอเบรกเกมก่อน...
กลับไปลงกา...เฮ้ย...โรงพิทงพิธี...แม่งเลิกหมดแล้วทำไมวะ...ไปคุยกับนางมณโฑ...ถึงได้รู้ว่าเสร็จหนุมานซะแล้ว
มีเรื่องหนึ่ง...ว่าจะเขียนถึงตั้งนานแล้ว...ลืม...ขอแทรกไว้ตรงนี้แล้วกัน...
1
ซิกเนเจอร์อันนึงของรามเกียรติ์คือ...บทชมรถ...ซึ่งออกรถทีก็ชมกันที...ชมแต่ละครั้งก็หมดไปเกือบหน้ากระดาษ...
บทที่อยากจะยกตัวอย่างมาให้อ่านกัน...เป็นบทชมรถทศกัณฐ์ในศึกสิบขุนสิบรถ...ที่ถือว่าเป็นบทชมรถที่เว่อร์วังขนาดหนัก...
แต่ในอีกมุมหนึ่ง...ก็เป็นบทกลอนที่เพราะ  และทรงพลังน่าประทับใจอย่างยิ่ง...ลองละเลียดดูครับ...
รถที่นั่ง                                                             
บุษบกบัลลังก์ตั้งตระหง่าน 
กว้างยาวใหญ่เท่าเขาจักรวาล                                      ยอดเยี่ยมเทียมวิมานเมืองแมน
ดุมวงกงหันเป็นควันคว้าง                                          เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน 
สารถีขี่ขับเข้าดงแดน                                              
พื้นแผ่นดินกระเด็นไปเป็นจุณ
นทีตีฟองนองระลอก                                               คลื่นกระฉอกกระฉ่อนชลข้นขุ่น 
เขาพระเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน                                    อนนต์หนุนดินดานสะท้านสะเทือน
ทวยหาญโห่ร้องก้องกัมปนาท                                      สุธาวาสไหวหวั่นลั่นเลื่อน 
บดบังสุริยันตะวันเดือน                                            คลาดเคลื่อนจัตุรงค์ตรงมา
...ได้รสชาติเอร็ดอร่อยดีไหมฮะ...หูย “เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน”...เรียกว่าสิงห์ตัวแรกถึงนครสวรรค์แล้ว  สิงห์ตัวสุดท้ายยังอยู่หน้าหมอชิตอยู่เลย
...นัยว่าสองบทล่างนี่เป็นฝีมือของท่านสุนทรภู่  นั่นเอง...
ศึกครั้งสุดท้ายของทศกัณฐ์...เริ่มตรงที่...ทศกัณฐ์ออกรบกับพระราม
โดนศรพระรามเข้าให้...มือด้วนหมดยี่สิบมือ...
เฮ้ย...กลับมาต่อกันได้อีก...
หัวขาดสิบหัว...ก็กลับมาต่อกันได้...
ยังกะหนัง Terminator สมัยก่อนเลยง่ะ...
พระรามบอก...กูงงกับมึงแระขอเบรกก่อน...พี่ทศก็ยอมให้เบรก
เจ้าเก่าก็ช่วยเฉลย...อ๋อ...พี่ทศฯแกไม่ตายง่ายๆ  เพราะถอดดวงใจ...ฝากไว้ที่พระโคบุตร...
อ้าวงั้นก็ง่ายเลย...หนุมาน  องคต...พวกมึงตอแหลเก่ง...ไปหลอกเอาดวงใจมาจากพระโคบุตรที
สองลิงก็ไปหลอกล่อพระโคบุตรอยู่ไม่กี่น้ำ...ก็ได้กล่องดวงใจมา...
ทศกัณฐ์ก็เสร็จสิครับ...
พอเจอหน้ารบกัน...พระรามก็ต้องทำงานประสานกับหนุมาน...พระรามยิงศรเสียบอกปั๊บ...
บัดนั้น                     
คำแหงหนุมานทหารใหญ่
ครั้นทศกัณฐ์ต้องศรชัย   
ล้มในพ่างพื้นพสุธา
จึงขยี้ดวงจิตขุนมาร      
แหลกลาญละเอียดด้วยหัตถา
ดับสูญสุดสิ้นวิญญาณ์  
ยักษาก็ม้วยชีวี...
ทศกัณฐ์ตายแล้ว...เรื่องต่อจากนั้นก็มี  พ่อแง่แม่งอน  ระหว่างพระรามกับนางสีดาบ้าง...ก็ไม่ค่อยมีน้ำหนักน่าสนใจสักเท่าไหร่...
ก็ขอจบ “เล่าความรามเกียรติ์” ไว้เท่านี้ครับ...
1
โฆษณา