5 ม.ค. 2019 เวลา 03:38 • ปรัชญา
7 วิธีที่จะทำให้คนอื่นรับฟังคุณ
เราได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ชื่อว่า “จุดอ่อนของมนุษย์ จากเดล คาร์เนกี” เป็นหนังสือที่อยู่ในหมวดจิตวิทยา เพื่อการพัฒนาตนเอง เป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดและคำแนะนำมากมายเพื่อให้เรากลับมาตระหนักถึงความคิดและการกระทำของตนเอง ส่วนใหญ่หนังสือเล่มนี้จะแนะนำเรื่องการสื่อสาร การพูดโน้มน้าวผู้คน หรือจะเรียกว่า soft skills ก็ได้ค่ะ หากเราอยากให้ใครปฏิบัติต่อเราอย่างไร เราก็ควรปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น เราเชื่อว่าทักษะเหล่านี้นั้นฝึกได้และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ฝึกเป็นประจำแน่นอน
เคยไหมที่คุณพยายามแสดงความคิดเห็นหรือพูดมุมมองของคุณต่อเรื่องๆหนึ่ง แต่ไม่มีใครสนใจ
เคยไหมที่คุณแนะนำในสิ่งที่คุณมองว่าสมควร แต่ก็ไม่มีใครรับฟัง
เคยไหมที่คุณต้องขอร้องให้ใครบางคนทำในสิ่งๆหนึ่งให้ แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะทำ
ถ้าคุณเคยพบเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณมีวิธีการสื่อสารที่ยังไม่โน้มน้าวมากพอให้คนอื่นๆรับฟังหรือทำตามคุณ คุณเดล ได้แนะนำวิธีที่จะทำให้คนอื่นรับฟังคุณไว้ 7 วิธีด้วยกัน
.
วิธีที่ 1 ชื่นชมพวกเขาก่อนอย่างจริงใจ
หากเราจำเป็นที่จะต้องวิพากษ์วิจารณ์ใครซักคน เราควรชื่นชมเขาก่อนอย่างจริงใจ และหลังจากนั้นค่อยวิจารณ์ถึงสิ่งที่เขาทำและจบท้ายด้วยคำแนะนำของคุณเช่น
หากคุณเป็นหัวหน้างาน และมีเลขาเป็นสาวสวยแต่ดันทำสรุปงานออกมาแย่มาก คุณอาจจะชมเธอก่อนว่า
“วันนี้เธอแต่งตัวได้สวยมาก ทำให้เธอดูเด็กลงไปเยอะเลย”
แน่นอนว่าเลขาของคุณต้องชอบคำชมนี้แน่ หลังจากนั้นคุณค่อยบอกเธอว่า
“สรุปงานก่อนหน้านี้ที่เธอทำมา มันออกมาไม่ดี คุณช่วยปรับปรุงมันใหม่ด้วยนะ”
เชื่อได้เลยว่าวันนั้นงานจะต้องออกมาดีแน่ๆเพราะเธอจะแก้ไขมันด้วยอารมณ์ที่ดีจากการได้รับคำชมจากคุณ
.
วิธีที่ 2 อย่าชี้ข้อผิดพลาดของคนอื่นตรงๆ
ถ้าเราอยากให้ใครก็ตามหยุดการกระทำของเขา เราควรหลีกเลี่ยงที่จะต่อว่าเขา เราสามารถใช้วิธีบอกเขาทางอ้อมเพื่อใบ้ให้เขารู้ก็ได้ เพราะการบอกเขาตรงๆบางครั้งจะกลายเป็นว่าเราไปออกคำสั่งให้เขาหยุดทำสิ่งนั้นซะ ซึ่งมันอาจใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนที่ไม่ชอบให้ใครมาสั่งหรือบังคับ วิธีที่คุณควรทำคือการประนีประนอม เข้าหาเขาอย่างอ่อนโยน
.
วิธีที่ 3 เวลาที่คุณจะวิจารณ์ใครคุณควรพูดถึงข้อผิดพลาดของตัวเองก่อน
คุณควรยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนรวมถึงตัวคุณเองนั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบในทุกๆเรื่อง ทุกคนย่อมมีข้อเสียของตนเอง หากจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงหรือต้องวิจารณ์ในข้อเสียนั้น คุณควรจะพูดถึงตัวเองคุณเองก่อนว่าคุณก็มีข้อเสียเช่นเดียวกันและคุณเข้าใจความรู้สึกเขาเป็นอย่างดีในเรื่องนั้น ฉะนั้นการแก้ไขปรับปรุงข้อเสียหรือข้อผิดพลาดนั้นให้มันดีขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยดีอยู่แล้ว
.
วิธีที่ 4 หากคุณต้องการให้ใครทำอะไรให้คุณ คุณควรขอเขาก่อน อย่าออกคำสั่ง
วิธีนี้เป็นวิธีปกติสำหรับบุคคลทั่วไป เราอาจจะเคยเห็นคู่รักบางคู่หากฝ่ายหญิง ต้องการให้ฝ่ายชายทำอะไรให้ก็ตาม พวกเธอจะมีเสียงพิเศษเป็นเสียงที่สองที่สามารถทำให้ฝ่ายชายนั้นยินยอมทำให้พวกเธอแต่โดยดี การร้องขอได้ผลดีกว่าการออกคำสั่งเสมอ
.
วิธีที่ 5 รู้จักรักษาหน้าคนอื่น
รักษาหน้าคนอื่นในที่นี้คือการถนอมน้ำใจกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา สิ่งที่เราควรทำในการพูดคุยกันหรือทักทายกันคือการพูดในสิ่งดีๆของเขา เข้าอกเข้าใจเขา เช่นหากคุณเจอเพื่อนเก่าของคุณที่ไม่ได้เจอมานานมาก ปรากฏว่าเพื่อนของคุณนั้นมีน้ำหนักมากขึ้นจนคุณตกใจ การพูดทักทายเธอว่า “ไม่ได้เจอกันนาน ไปทำอะไรมาเนี่ย อ้วนขึ้นจัง” ดูจะเป็นความคิดที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ จากที่ไม่ค่อยได้เจอกัน คราวนี้อาจจะทำให้เลิกเป็นเพื่อนกันเลยก็ได้ คุณควรเลิกพูดแบบนี้ไปได้เลย เปลี่ยนเป็นทักทายว่า “ไม่ได้เจอกันนาน หน้าตาดูสดใส ผิวพรรณดูผ่องใสดีจังเลย” แบบนี้คนที่ได้ฟังก็คงเป็นปลื้มอยู่ไม่น้อย
.
วิธีที่ 6 เวลาที่คุณอยากให้คนอื่นแก้ไขข้อผิดพลาดของเขาหรือทำอะไรให้กับคุณ อย่าลืมที่จะให้กำลังใจเขาและทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก
หากคุณได้พบเจอคนที่ล้มเหลวในการทำอะไรบางอย่างมาปรึกษาหรือระบายให้คุณฟัง สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือตั้งใจรับฟังเรื่องราวของเขา ลองสวมลองเท้าของเขาเสมือนว่าคุณเป็นเขาดู อย่าไปวิจารณ์ถึงข้อผิดพลาดที่เขาได้ทำลงไปแบบตรงๆ หากคุณรับฟังเสร็จแล้ว การให้กำลังใจเขาจากใจจริงจะช่วยปลอบเขาได้ ชื่นชมเขาในความกล้าที่เขาลงมือทำ จงบอกเขาว่าเขาไม่ได้ล้มเหลวหรือทำอะไรผิดพลาด เขาแค่ได้เรียนรู้ถึงวิธีการที่จะทำไม่สำเร็จเพิ่มขึ้นมาอีก 1 วิธีเท่านั้นและมีแต่คนที่พิเศษแบบคุณเท่านั้นที่จะเข้าใจวิธีการแบบนี้
.
วิธีที่ 7 ทำให้เขายินดีทำตามคำแนะนำของคุณ
นี่คือกฎที่สำคัญมากๆในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าคำแนะนำของคุณคืออะไร คุณควรทำให้เขารู้สึกอยากที่จะทำตาม หากคุณสามารถปฏิบัติตาม 6 วิธีข้างบนได้ คุณก็สามารถทำข้อ 7 ได้สำเร็จเช่นกัน
วิธีทั้ง 7 นี้ จะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่หากนำไปใช้อย่างถูกเวลาและสถานการณ์ ก็สามารถทำให้คนอื่นรับฟังคุณได้
วิธีการทุกวิธีการที่คุณเดล ได้นำมาเขียนบอกเล่าให้เราอ่าน เขาย้ำเสมอว่า
“กฎทุกข้อในหนังสือเล่มนี้ คุณจะต้องใช้มันด้วยความจริงใจ ผมไม่ต้องการให้คุณจำทักษะแล้วเอาไปใช้โดยไม่ได้ใช้หัวใจของคุณทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้”
โฆษณา