บทที่ 14 Loyalty (ซื่อสัตย์ภักดี)
โจโฉไม่เพียงไม่หลงกลเล่าปี่ยังฉวยโอกาสยกทัพไปจัดการกับเล่าปี่ที่ยังไม่พร้อมรับศึก การศึกครั้งนี้เล่าปี่เสียเปรียบในทุกๆด้านจึงส่งหนังสือไปขอให้พันธมิตรอย่างอ้วนเสี้ยวช่วยเหลือซึ่งอ้วนเสี้ยวก็ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าลูกชายป่วยและบอกอีกว่าถ้าสู้ไม่ไหวให้ยกทัพหนีมาอยู่กับอ้วนเสี้ยวทางเหนือ
ซึ่งการรบระหว่างเล่าปี่กับโจโฉคราวนี้เล่าปี่สู้ไม่ได้เลย โจโฉยึดได้ทั้งซีจิ๋ว เสี่ยวพ่ายและแห้ฝือ เล่าปี่จึงต้องหนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว เตียวหุยเองก็หนีขึ้นเขาบองเอี๋ยงไป
ส่วนกวนอูถูกจับกุมพร้อมกับภรรยาของเล่าปี่ โจโฉเองชื่นชอบกวนอูมากอยากได้กวนอูเป็นพวกจึงสั่งทหารไม่ให้ทำอันตรายแก่กวนอู และให้เตียวเลี้ยวกล่อมให้กวนอูยอมจำนน
ซึ่งกวนอูเองก็ยอมจำนนไปอยู่กับโจโฉโดยให้ข้อแม้ว่า 1.การยอมสวามิภักดิ์คราวนี้เป็นการสวามิภักดิ์แก่องค์ฮ่องเต้ ไม่ได้สวามิภักดิ์แก่โจโฉ
2.ภรรยาทั้ง 2 ของเล่าปี่ต้องได้รับการเคารพให้เกียรติดุแลอย่างดี
3.ถ้ารู้ว่าเล่าปี่ปลอดภัยอยู่ที่ใดไม่ว่าใกล้หรือไกลจะไปหาเล่าปี่ทันที
ในตอนแรกนั้นโจโฉยอมรับไม่ได้แต่เตียวเลี้ยวก็แจ้งว่าขนาดเล่าปี่เลี้ยงดูกวนอูไม่ดีกวนอูยังซื่อสัตย์ขนาดนี้ถ้าโจโฉเลี้ยงดูกวนอูอย่างดีกวนอูต้องซื่อสัตย์แก่โจโฉแน่นอน
โจโฉจึงยินดียอมรับกวนอูด้วยเงื่อนไข 3 ข้อ หลังจากกวนอูไปอยู่ฮูโต๋กับโจโฉ โจโฉก็ดูแลกวนอูอย่างดี จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กวนอูใหญ่โต จัดสาวงามไปให้กวนอู กวนอูก็ไม่ได้ใยดีซ้ำยังส่งไปเป็นสาวใช้ให้แก่ภรรยาเล่าปี่
โจโฉเห็นม้ากวนอูตัวเล็กผอมโซก็เลยยกม้าเซ็กเทาที่ได้จากลิโป้แก่กวนอูกวนอูยินดีคุกเข่าคำนับโจโฉ โจโฉก็แปลกใจว่าโจโฉให้ข้าวของเงินทองแก่กวนอูเป็นอันมากกวนอูไม่ยินดี เพราะอะไรถึงดีใจที่ได้ม้า
กวนอูจึงบอกแก่โจโฉว่าม้าเซ็กเทาเป็นม้าวิเศษวิ่งได้ไกลและเร็วมาก ดังนั้นถ้าตนทราบว่าเล่าปี่อยู่ที่ใดก็จะได้สามารถไปหาได้อย่างรวดเร็ว คำตอบนี้ถึงกับทำให้โจโฉน้อยใจว่าโจโฉทำดีกับกวนอูอย่างไรกวนอูก็ยังจงรักภักดีคิดถึงแต่เล่าปี่อยู่เสมอ
จากนั้นทางอ้วนเสี้ยวได้ปรึกษากับเล่าปี่เรื่องการรบกับโจโฉอีกครั้ง แต่เตียนห้องที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวคัดค้านว่าเวลานี้โจโฉหลังจากชนะได้พื้นที่ของเล่าปี่ไปโจโฉก็เข้มแข็งขึ้นมาก รบกับโจโฉตอนนี้ยังไม่เหมาะ
แต่เล่าปี่ที่แอบคิดถึงน้องชายก็ให้คำยุยงกับอ้วนเสี้ยวว่า โจโฉเป็นขบถต่อองค์ฮ่องเต้พวกเราไม่ควรนิ่งเฉย เตียนห้องก็ยังคงคัดค้านจนอ้วนเสี้ยวชักดาบจะฟันเตียนห้อง เล่าปี่เข้าไปห้ามไว้เตียนห้องจึงโดนส่งไปจำคุกแทน
เมื่ออ้วนเสี้ยวเคลื่อนทัพไปปะทะกับทัพหน้าของโจโฉ งันเหลียงขุนศึกของอ้วนเสี้ยวก็รบชนะทหารเอกทัพหน้าของโจโฉหลายคน ไม่มีขุนศึกคนไหนของโจโฉหยุดงันเหลียงได้
เทียนหยกที่ปรึกษาของโจโฉบอกแก่โจโฉว่ามีแต่กวนอูเท่านั้นที่สู้กับงันเหลียงได้ แต่โจโฉไม่ยอมเนื่องจากกวนอูเคยกล่าวไว้ว่าถ้ายังไม่ทำคุณแก่โจโฉจะไม่จากไป ถ้ากวนอูทำคุณโดยการจัดการงันเหลียงแล้วโจโฉจะไม่สามารถรั้งกวนอูไว้ได้
เทียนหยกจึงว่า ตอนนี้เล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยวซึ่งกวนอูไม่รู้ การส่งกวนอูไปรบกับงันเหลียง ถ้ากวนอูแพ้ก็เป็นการตัดกำลังคนสำคัญต่อเล่าปี่ แต่ถ้ากวนอูชนะเล่าปี่ที่อยู่กับอ้วนเสี้ยวก็จะมีภัยถ้าเล่าปี่ตายกวนอูจะยังไปไหนได้
โจโฉคิดได้ดังนั้นจึงส่งกวนอูไปรบกับงันเหลียง เมื่อกวนอูได้รับคำสั่งและพบกับงันเหลียงแล้วกวนอูก็ควบม้าเข้าไปจัดการงันเหลียงในทีเดียว จากนั้นจึงตัดศีรษะงันเหลียงกับมามอบให้โจโฉ
โจโฉก็ชื่นชมกวนอูว่ามีฝีมือดุจเทพยดา รบชนะได้อย่างรวดเร็ว กวนอูกระหยิ่มใจแต่ก็ถ่อมตนว่าฝีมือตนแค่พอประมาณ น้องชายของตนที่ชื่อเตียวหุยนั้นเก่งกว่าตนเองมากสามารถฝ่าแนวต้านทหารซักร้อยหมื่นเข้าไปตัดศีรษะนายทัพออกมาได้อย่างกับเดินเข้าไปหยิบผลส้มในลัง โจโฉได้ยินดังนั้นก็แอบหวั่นและจดจำไว้ว่าถ้าเจอเตียวหุยให้กระทำการโดยระวัง
ฝ่ายอ้วนเสี้ยวเมื่อทราบว่างันเหลียงโดนจัดการโดยกวนอูก็โกรธว่าเป็นแผนของเล่าปี่ทำให้ยอดขุนศึกของตนตายให้คนเอาเล่าปี่ไปประหาร
เล่าปี่ก็ชี้แจงว่าตนไม่รู้เรื่องเพราะตนก็รบแพ้แตกทัพมาจนอ้วนเสี้ยวเชื่อ จึงส่งบุนทิวกับเล่าปี่ไปรบกับกวนอู ให้บุนทิวเป็นทัพหน้าเล่าปี่เป็นทัพหลัง ระหว่างไปรบต้องข้ามแม่น้ำ เมื่อทัพหน้าปะทะกับกวนอู เล่าปี่ยังไม่ทันข้ามแม่น้ำ กวนอูก็ฟันบุนทิวตกม้าตายไปเรียบร้อยแล้ว แม่จะยังไม่เจอแต่เล่าปี่ก็เห็นธงกวนอูจึงร้องตะโกนเรียก แต่ระหว่างนั้นทหารโจโฉก็ลงน้ำมาเล่าปี่จึงต้องถอยทัพกลับ
อ้วนเสี้ยวเสียยอดขุนพลไปติดๆกัน 2 คน อย่างง่ายดายทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพอ้วนเสี้ยวตกต่ำ อ้วนเสี้ยวเองก็อยู่ในสถานการณ์เสียขวัญอย่างรุนแรงเนื่องจากกองทัพของอ้วนเสี้ยวนั้นมีแต่ปริมาณแต่ไม่มีคุณภาพ มีขุนพลเอกเพียงสองคนซึ่งก็ถูกกวนอูจัดการไปแล้วจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ก็มาระบายแค้นที่เล่าปี่สั่งเล่าปี่ไปประหารเป็นรอบที่ 2 ใน 2 วัน เล่าปี่จึงชี้แจงว่าเป็นเพราะโจโฉเกลียดชังตน จึงให้กวนอูมารบกับทหารเอกของท่านเพื่อจะยืมมือท่านสั่งหารเรา ถ้าอ้วนเสี้ยวประหารเล่าปี่โจโฉก็จะมีความสุขมาก
เมื่ออ้วนเสี้ยวเห็นตามนั้นก็เลยยกเลิกคำสั่งประหารเล่าปี่ ซึ่งก็ถือว่าความฉลาดในการเจรจาของเล่าปี่ช่วยชีวิตของเล่าปี่เอาไว้ได้อีกครั้ง จากนั้นเล่าปี่จึงบอกกับอ้วนเสี้ยวว่าให้คนถือหนังสือไปแจ้งกวนอูว่าเล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยว กวนอูก็จะทิ้งโจโฉมาเป็นกำลังให้อ้วนเสี้ยวอย่างแน่นอน อ้วนเสี้ยวก็ดีใจว่าถ้าได้กวนอูมาย่อมดีกว่าทหารเอก2คนที่เสียไปอย่างแน่นอน
เมื่อกวนอูทราบว่าเล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยว ก็ไปขอลาโจโฉที่จวนซึ่งโจโฉก็รู้ดีว่ากวนอูมาลาจึงแกล้งป่วยการเมืองไม่ยอมให้เข้าพบ
กวนอูรู้ถึงสาเหตุจึงเขียนจดหมายลาและจากไปพร้อมกับภรรยาเล่าปี่และม้าเซ็กเทาเท่านั้น นอกนั้นทรัพย์สินมีค่าทุกอย่างกวนอูทำบัญชีแจงไว้กับเสมียนทุกอย่างให้คืนแก่โจโฉ
เทียนหยกที่ปรึกษาบอกโจโฉว่าถ้ากวนอูไปอยู่กับอ้วนเสี้ยวเราจะต้องลำบากแน่ ให้ส่งคนไปจับตัวกวนอูกลับมา แต่โจโฉก็ห้ามไว้ให้ปล่อยกวนอูไป โจโฉกล่าวว่าคนซื่อสัตย์อย่างกวนอูไม่เห็นแก่ลาภยศควรค่าแก่การยกย่องนับถือ จึงควรตามไปส่งเค้าผูกใจเขาไว้จะดีกว่า
โจโฉจึงตามไปส่งกวนอู ตอนจากลาโจโฉมอบของขวัญให้กวนอูหลายอย่างกวนอูก็ไม่รับ รับแต่เพียงเสื้อนอกมาสวมแล้วคำนับโจโฉ กล่าวว่า ข้าพเจ้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่าน ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้าจะต้องแทนคุณท่านต่อไป ว่าแล้วกวนอูก็คำนับแล้วลาจากโจโฉไป
แต่เนื่องจากจากโจโฉยอมให้กวนอูจากไปแต่ไม่ได้มอบหนังสือผ่านทางมาด้วย ทำให้กวนอูต้องฉายเดี่ยวพาพี่สะใภ้หักด่านตรวจคนผ่านเมืองถึง10ด่าน ขุนพลผู้เฝ้าด่านต่างก็รู้ว่าโจโฉยอมให้กวนอูผ่านแต่เมื่อไม่มีเอกสารก็ต้องทำตามหน้าที่ซึ่งก็ไม่มีทหารเอกของโจโฉด่านไหนจะหยุดกวนอูได้ กว่าเอกสารผ่านเมืองจากโจโฉจะส่งตามมาถึงกวนอูก็หักด่านไปหาเล่าปี่ได้แล้ว
สรุป บทที่ 14
ถ้าสงครามคือการตลาด การรบคือการขาย ขุนพลคือหัวหน้าฝ่ายขาย ในหมู่นักขายด้วยกันกวนอูเก่งที่สุด(ไม่นับเตียวหุยจากคำบอกเล่าของกวนอู)
เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความสามารถทั้งยังมีความซื่อสัตย์ เป็นคนดีที่ทุกองค์กรต้องการ โจโฉเองต้องการมากเพียงได้มาอยู่ด้วยชั่วคราวก็ทำประโยชน์ในสิ่งที่ไม่มีใครทำให้โจโฉได้ สามารถปิดการขายได้เฉียบขาดรวดเร็ว ในขณะที่ทีมขายของโจโฉไม่มีใครสามารถปิดได้ แต่เพราะความซื่อสัตย์นี่เองทำให้โจโฉไม่สามารถรั้งกวนอูไว้ได้แม้จะเลี้ยงดูอย่างดีกว่าอยู่กับเล่าปี่มากมายกวนอูก็ไม่สนใจเพราะเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์และคุณธรรม
คนที่มีความแน่วแน่ซื่อตรงทำสิงใดยึดถือความถูกต้องอยู่เสมอแม้จะต้องลำบากแต่เมื่อผ่านไปได้ย่อมมีคุณค่ามากมาย จากบทนี้เกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกพนักงานขายขององค์กร ทุกองค์กรนั้นจำเป็นต้องค้นหาพนักงานขายที่มีคุณสมบัติสองประการ 1 คือขายเก่งสามารถปิดการขายได้ และ 2 มีความซื่อสัตย์สุจริต ถ้าองค์กรใดมีฝ่ายขายที่มีคุณสมบัติดังนี้แล้วก็ต้องรักษาทรัพยากรบุคคลแบบนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด
ขอขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup
สนใจบูชาปี่เซียะด้วยเคล็ดลับบูชาปี่เซียะตามแบบเศรษฐีฮ่องกง
inbox สอบถามได้ครับ
รับปรึกษาธุรกิจ
รับปรึกษาธุรกิจและการตลาด (Business Consult & 1 by 1 Coaching)
รับเป็นวิทยากร บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ สามก๊ก เชิงธุรกิจ และการตลาด กับ กลยุทธ์ซุนจื่อเพื่อผู้ประกอบการและธุรกิจสมัยใหม่
ติดต่องาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาเบื้องต้นได้ทาง inbox หรือผ่านระบบ Fast Work ก็ได้ตามลิ้งค์ครับ
Credit :
เรื่อง : รังสรรค์ ใจอารีย์ (สามก๊กฉบับ Start Up)
ภาพ :
สามก๊กฉบับตีความใหม่ ฉบับที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
ถ้าคุณมีความฝัน มีการใหญ่อยู่ในหัวใจ แต่ยังไม่พบหนทาง ห้ามพลาดกับ สามก๊กฉบับ Start Up
สามก๊กเล่มแรกเล่มเดียวที่เขียนโดยนักกลยุทธ์การตลาด
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในเพจ
และอ่านแบบเต็มๆได้ที่
#naiinpan
#ookbee
ผู้เขียนขอขอบพระคุณสำหรับทุกการสนับสนุน ที่ได้มอบโอกาสให้ผู้เขียนได้ส่งต่อเรื่องราวที่ผู้เขียนคิดว่าดีและมีประโยชน์
และขออภัย สำหรับทุกบทความใดหากมีความผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ผู้เขียนกราบขออภัยไว้ที่นี้ด้วยครับ
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
