15 ม.ค. 2019 เวลา 01:00 • การศึกษา
ทำอย่างไรถ้า Content ของเราให้ข้อเท็จจริงที่ผิดพลาด
เวลาเราทำ Content แต่ละอย่าง สิ่งที่ผู้อ่าน Content ของเราคาดหวังมากที่สุดคือข้อเท็จจริงที่มาจาก Content ที่เราได้สร้างสรรค์เอาไว้ แต่ถ้า Content ที่เราเขียนดันมีข้อผิดพลาดของข้อมูลในบางจุด เส้นจำนวนตัวเลขที่คาดเคลื่อน หรือข้อมูลบางข้อมูลมีการอัพเดทหลังจากวันที่ลง Content นั้น สิ่งที่เรามักจะเจอบ่อยๆคือคนที่เข้ามา comment เขาโต้แย้ง Content ของเราว่าให้ข้อมูลบางอย่างผิดพลาดในการคอมเม้นใต้โพสของเรา
ถ้า comment ที่โต้แย้งความถูกต้องของ Content ของเราเกิดขึ้นบ่อยๆในสื่อของเรา มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีใช่ไหมครับ แต่ไม่เป็นไรวันนี้มีวิธีแก้ถ้า Content ของเราให้ข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดครับ
ก่อนที่จะลง Content ต้องหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน
มันเป็นการแก้ปัญหาด้วยต้นเหตุอย่างแท้จริงครับ สาเหตุที่ Content ของเรามีความผิดพลาดทางด้านข้อมูลก็เพราะว่าเราหาข้อมูลไม่ละเอียดมากพอ สิ่งที่สำคัญในการสร้าง Content แต่ละ Content คือข้อมูลที่เราจะนำเสนอจำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ แล้ว Content ที่ถูกต้องจริงๆมักจะมีที่มาที่ไปซึ่งเราต้องทำการอ้างอิงที่มาของแหล่งข้อมูลนั้น ๆ ด้วย
ถ้าเราไม่รู้อะไร สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ หาข้อมูลจาก Google หรือไม่ก็ไปหาหนังสือเพื่ออ้างอิงสิ่งที่เราพูดว่ามันเป็นความจริง
อัพเดทข้อมูลนั้นถ้าข้อมูลของ Content นั้นล้าสมัยแล้ว
โชคดีที่ Content ในบทความเราสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องได้ทุกเมื่อ แต่ถ้า Content ไหนที่มีการอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา หรือมีการอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมโดยที่ไม่ได้คาดคิด เช่น คอนเทนท์แจ้งวันจัดงานเทศกาลกินอาหารแห่งหนึ่ง ในวันที่ 13-15 มิถุนายน แต่เวลาผ่านไปปรากฏว่างานเทศกาลนั้นเลื่อนไปจัดวันที่ 20 ถึง 25 มิถุนายน ข้อมูลนี่แหละคือสิ่งที่เราต้องแก้ทันที
แต่ถ้ามีคนเข้ามาคอมเม้นบอกว่าบางส่วน Content ของเรามีความผิดพลาด แล้ว comment นั้นให้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับมีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ให้ทำการแก้ข้อมูลที่ผิดพลาดใน Content ของเราแล้วให้เครดิตเจ้าของคอมเม้นนั้นด้วย แต่ถ้าคอมเม้นนั้นที่โต้แย้งไม่ได้ให้แหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ให้ลองตอบกลับคอมเม้นนั้นอยู่แล้วถ้าเจ้าของคอมเมนต์นั้นไม่มีการตอบกลับเราใด ๆ ก็ไม่ต้องไปแก้ หรือจะลบคอมเม้นนั้นก็ได้เลยถ้าว่า comment นั้นดิสเครดิต Content ของเรา
ถ้าเป็นคลิปวีดีโอที่ให้ข้อมูลที่ผิดพลาด (ใน YouTube)
ข้อเสียของ Content ด้านวีดีโอคือถ้าสมมุติ Content ของวีดีโอนั้นให้ความผิดพลาดของข้อมูล เราจำเป็นต้องลบคลิปวีดีโอนั้นแล้วอัพลงในพื้นที่สื่อของตัวเองใหม่ แต่ปัญหาคือ คลิปใหม่ที่ลงพร้อมแก้ข้อมูลเรียบร้อยแล้วคนเขาดูก่อนหน้านั้นและไม่ดูซ้ำอีก แม้ว่าข้อมูลนั้นมันจะผิดพลาดแค่นิดเดี๋ยวก็ตาม แต่มันก็นิดเดียวไง มันไม่ได้ผิดพลาดทั้ง Content คนก็ไม่อยู่ ผลเสียที่ตามมาคือ คลิปวีดีโอที่อัพใหม่พร้อมกับแกข้อมูลที่ผิดพลาดจำนวนยอดผู้ชมจะน้อยลงกว่าเดิม
วิธีแก้ที่ดีที่สุดสำหรับการทำคลิปแล้วให้ข้อมูลที่ผิดพลาด คือให้ Comment ข้อมูลที่ถูกต้องแล้วปักหมุดในส่วนของ comment นั้นทันที โดยปกติคนที่เข้ามาดูคลิปวีดีโอไม่ใช่แค่ดูเนื้อหาของวีดีโอเท่านั้นหากดูคลิปนั้นจบหรือกำลังดูคลิปนั้นอยู่ คนที่เข้ามาดูต้องดูคอมเม้นแน่นอน กรณีนี้จะใช้กับช่องยูทูปที่ยอดผู้ติดตามไม่ถึง 100,000
แต่ถ้าช่อง YouTube ของคุณมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1 แสนคนขึ้นไป YouTube จะมีฟังก์ชันเพิ่มเติมให้เราสามารถลงคลิปวีดีโอใหม่วิธีแก้ความผิดพลาดของข้อมูลเรียบร้อยแล้วแทนของเดิมได้โดยไม่เสียยอดจำนวนวิวและยอด Comment ครับ ถ้าช่อง YouTube มีผู้ติดตามเกิน 1 แสนให้ใช้วิธีนี้จะดีกว่า
ถ้ามีคนสร้าง Content ใหม่โดยที่ discredit Content ที่ผิดพลาดของเรา
กรณีนี้ถือเป็นกรณีที่ร้ายแรงพอสมควรครับ เพราะเดิมทีถ้า Content ของเรามีข้อผิดพลาดนิด ๆ หน่อย ๆ คนที่เข้ามา comment ในสิ่งที่เราผิดพลาดเพื่อแก้ให้ Content ของเราถูกต้องมันก็จบแล้ว แต่จะมีบางกลุ่มที่เป็น Hater สร้างสถานการณ์ดิสเครดิต Content ของเราในพื้นที่สื่อของตัวเอง โดยที่ไม่มีการ Comment สิ่งที่เราทำผิดไปให้มันถูกต้อง
ซึ่งวิธีของ Hater อย่างเช่น แคปหน้าจอโพสของเราที่เขียนคอนเทนต์แล้วเอาไปพูดในพื้นที่สื่อของตัวเองในทางนินทา แล้วให้ลูกเพจเข้ามาคอมเม้นแซะกันอย่างสนุกสนาน ต้องดูเป็น Case by Case ครับ
เคสที่ 1 ไม่รุนแรงมาก อย่างเช่นทำ meme ล้อเลียนพอหอมปากหอมคอ ไม่ถึงขนาดมีเรื่องเพศและความเสื่อมเสียชื่อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง ตรงนี้ก็ปล่อยๆไป
เคสที่ 2 คอมเมนต์ไม่เห็นด้วยกับ Content ของเราแต่บอกในสิ่งที่ถูกต้องให้คนอื่นทราบอย่างมีเหตุผล ตรงนี้ก็ปล่อย ๆ ไปเช่นเดียวกัน แต่ควรดูความคิดเห็นของคน ๆ นั้นด้วยเพราะ comment ในลักษณะนี้ถือเป็น comment แบบติเพื่อก่อ ถ้าเอาไปใช้ก็จะดีขึ้นกับตัวเรา
เคสที่ 3 คอมเม้นกล่าวหาด่าทอเราด้วยอารมณ์ อาจจะมีเรื่องทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อทำให้ตัวของคุณเสียชื่อเสียง ให้เงียบ ๆ แล้วแคปหน้าจอเรื่องราวที่เขาโพสต์ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าจะให้ดีหาที่อยู่และประวัติส่วนตัวของคนที่เข้ามาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในเคสนี้จะเริ่มรุนแรงมากขึ้นแล้ว ถ้าปล่อยไปอาจจะทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียงในอนาคต
เคสที่ 4 กล่าวหาแบบอาฆาต เคสนี้เกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ เว้นแต่ว่าคุณจะทำผิดอะไรสักอย่างแบบจริงจัง เช่น เผลอดูถูกเหยียดหยามเชื้อชาติหรือเพศทางเลือก ทำผิดกฎหมาย ทำผิดศีลธรรมอันดีต่อสังคม ฯลฯ ในกรณีนี้ถ้าคุณทำผิดอะไร ต่อให้คุณพูดอะไรก็ตาม คนเขาก็ไม่ฟังคุณ ก็จะพยายามยัดเยียดความผิดใส่คุณอยู่วันยังค่ำ เพราะหลักฐานมันชัดเจนขนาดนั้นแล้ว
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์มันจบเร็วขึ้นคือ “การกล่าวคำว่าขอโทษ”
ให้ขอโทษอย่างจริงใจแล้วจะไม่ทำผิดอย่างนั้นอีก แต่เตือนไว้ก่อนว่าการขอโทษมีโอกาสแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
ถ้าเกิดเราขอโทษครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 คำขอโทษมันจะกลายเป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนักมากพอแล้วคนหลาย ๆ คนที่รับรู้ความชั่วของคุณมาก่อนหน้านั้นแล้วเขาคิดเสมอว่าสักวันคุณก็ต้องทำผิดพลาดอีกเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนมักจะสอนให้คนที่อยากจะประสบความสำเร็จว่าคุณจะต้องทำผิดพลาดหลาย ๆ ครั้งเพื่อทำความสำเร็จในอนาคต แต่ความผิดพลาดของคนที่ประสบความสำเร็จกล่าวไว้ มันเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่ทำพลาดเพื่อพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ความผิดพลาดที่ทำให้คนอื่นเกิดความเดือดร้อน ตรงนี้ต้องเข้าใจอย่างมีวิจารณญาณด้วยครับ
สุดท้ายนี้ผมขอฝากว่า ความผิดพลาดของคนเรามันจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ AI ที่เกิดมาเพื่อทำงานผิดพลาดน้อยที่สุดมันก็ยังมีข้อผิดพลาดของตัวมันอยู่ แล้วความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันคือปัญหาที่เราจะต้องแก้ไขปัญหานั้นไม่ใช่หลีกหนีปัญหา เพราะถ้าเราหลีกหนีปัญหาเดี๋ยวปัญหาหน่อยมันก็เข้ามาอีกและปัญหาเก๋ามันก็ตามมาหลอกหลอนเราพร้อมกับปัญหาใหม่เพิ่มเติม ชีวิตที่หลีกหนีแต่ปัญหาอย่างเดียวมันไม่ได้สนุกอย่างที่คิดนะครับ
โฆษณา