Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
•
ติดตาม
18 ม.ค. 2019 เวลา 04:55 • บันเทิง
Glass มาโนชเอาอะไรมาให้กูปวดกบาลอีกแล้ว โอ้ยยยยยยย 4.5/10 (แนะนำให้อ่านช่วงบนๆก่อนไปดูหนัง เพราะถ้าไม่เคยดู Unbreakable มาก่อนจะดูไม่รู้เรื่องแน่นอน)
.
ก็จะขอเล่าความเป็นมาเป็นไปของ Unbreakable ก่อนละกันนะครับ ขอดักเนิ่นๆเลยว่าใครจะไปดู Glass แนะนำให้ เลวร้ายที่สุดก็คือไปดู Unbreakable มาก่อนนะ คือ Unbreakable เป็นหนังที่ไปๆมาๆ น่าจะดีที่สุดในจักรวาลนี้แล้วมั้ง มันคือจุดเริ่มต้นคอนเซปต์ของซุปเปอร์ฮีโร่แบบทุนน้อยของลุงมาโนชเลย Unbreakable มันเป็นเรื่องราวของ Mister Glass (ลุงแซมมวล ในเรื่องจริงๆแกชื่อเอไลจา แต่นึกหน้าเป็นเอไลจา วู้ดแล้วเจอหน้าลุงนี่จินตนาการต่อไม่ไหวเลย) ที่เป็นคนฉลาดผิดมนุษย์ แต่มีร่างกายเปราะบางมากเหมือนแก้ว แกคิดว่าร่างกายของแกที่บอบบางแบบนี้ มันต้องมีคนที่ร่างกายแข็งแกร่งเหนือมนุษย์เกิดมาคู่กันสิวะ และในเวลาเดียวกับที่มีเหตุการณ์รถไฟตกรางครั้งใหญ่ เดวิดเป็นผู้รอดตายเพียงคอนเดียวโดยไม่มีแผลฟกช้ำใดๆ จนเดวิดได้มีโอกาสมาเจอกับเอไลจาหรือมิสเตอร์กลาสนี่แหละที่เป็นเจ้าของแกลเลอรี่ที่สะสมภาพจากคอมมิค เดวิดก็เลยรู้ความลับเรื่องราวของตัวเอง นั่นคือจุดกำเนิดของซุปเปอร์ฮีโร่แบบมาโนชๆขึ้นเป็นตอนแรกก็ปี 2000 เข้าไปแล้ว ส่วน Split นี่คือเรื่องราวของ เควิน เด็กชายที่ถูกแม่ทารุณและมีปมมากมายมาตั้งแต่เด็ก เค้าเลยมีบุคลิกมากมายถึง 23 บุคลิก โดยจะมีอสูรกายหรือ BEAST ที่ถูกกดเอาไว้ให้ออกมาเป็นตัวสุดท้ายพละกำลังแข็งแกร่ง และถ้าใครไปดูหนังเรื่องนี้อาจจะงงๆกับคำสองสามคำคือคำว่า คนป่า เผ่าคนป่า นั่นก็หมายถึงบุคลิกต่างๆในตัวเควินที่ซ่อนอยู่ และคำว่า แสงผ่านหรือแสงส่องก็คือ แต่ละบุคลิกจะแสดงออกมาเมื่อโดนแสงส่อง เอากะอีลุงมาโนชสิ อีดอก คือถ้าไม่รู้อะไรมาก่อนคือจะมีงงนะครับ
.
กลับมา Glass นี่เลยละกัน เรื่องดำเนินต่อจากเหตุการณ์ตอนรถไฟตกรางขึ้นไปอีกก็ 18 ปี มาเป็นปัจจุบัน เดวิดก็มีลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้ว (ใช้เด็กคนเดิมมาแสดง และโตเป็นหนุ่มด้วย) เดวิดไปตามจับ เควิน ที่เอาเด็กผู้หญิงสี่คนมาขังไว้เพื่อสังเวยอสูรกาย แต่สุดท้ายทั้งเดวิด และเควินกลับโดน ดร แอลลี่ จับไปอยู่โรงพยาบาลบ้า เพื่อไปพบกับ เอไลจา หรือ Mister Glass ที่อยู่ในนั้นอยู่แล้ว ดร แอลลี่ ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกล่อมให้ทั้งสามคนคือ มิสเตอร์กลาส เดวิด และ เควิน เชื่อว่า ความคิดที่พวกเค้าคิดว่าพวกเค้าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ มีพลังเหนือมนุษย์นั้นเกิดจากภาวะผิดปกติทางจิต เกิดจากภาวะการเจ็บป่วย ต่างๆนาๆ ไม่เกี่ยวกับพลังเหนือมนุษย์แต่ประการใด แต่สุดท้ายจะทำสำเร็จไหมล่ะไปดูเอง
.
คืองี้ อีตาลุงมาโนชเนี่ย แกสร้าง Unbreakable เอาไว้ตั้งแต่ปี 2000 ตอนนั้นมันก็ล้ำมากนะสำหรับหนังซุปเปอร์ฮีโร่อะไรแบบนั้นคือดูเรียลมาก ดูซีเรียส แต่คนดูเนี่ยก็ยังเกาหัวเลยตอนออกมา และรายได้ก็ไม่ดีเลย ช่วงนั้นมาโนชเพิ่งขึ้นหม้อ เลยได้ทุนมาทำเยอะเกือบร้อยล้าน พอหนังรายได้ไม่สวย ความหวังที่จะทำภาคต่อเป็นจักรวาลหนังฮีโร่ของลุงมาโนชก็พังทลายไป แต่ Unbreakable นี่ถ้าเอามาฉายตอนนี้พวกเนิร์ดซุปเปอร์ฮีโร่อาจจะชอบก็ได้ จนมาเรื่อง Split นี่คือปี 2016 ห่างจาก Unbreakable 16 ปี ก็มีการปะติดปะต่อเชื่อมจักรวาลจนมาเป็น Glass ซึ่งมีคนบอกว่ามันจะจบแล้วล่ะ จะมีต่อไหมต้องไปดูเอาเองละกัน
.
คือสำหรับ Glass เนี่ย การเล่าเรื่องมันไม่สงสารคนดูเลย มันลุยแบบประหนึ่งว่าคนดูต้องรู้จักเดวิด รู้จักเควินมาหมดแล้ว หลายคนอาจจะเคยดู Unbreakable มาแล้ว แต่ปัญหาคือมัน 19 ปีมาแล้ว แทบลืมไปหมดแล้วว่าใครเป็นใคร และตัวละครหลักตั้งสามตัวมาจาก Unbreakable หมดเลย ก็งงสิ รวมถึงศัพย์แสงเฉพาะในหนังอย่าง คนป่าเผ่าคนป่า แสงผ่านอะไรพวกนี้ สารภาพว่าดูรอบแรกงงฉิบหาย (ทุ่มเทขนาดไหนที่ไปดูสองรอบ) และด้วยความที่ว่าหน้าหนังโปรโมทว่าเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ 80% ของหนังคือหนังพูดคุยสนทนาทางจิตวิทยา โดยเฉพาะการพยายามให้ ดร แอลลี่เค้นให้สามซุปเปอร์ฮีโร่เชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่นี่แหละ ฉากพูดคุยฉากเดียว 20 นาทีได้มั้ง และเป็นการคุยถึงเรื่องราวที่คนดูต้องรู้มาก่อนดูหนังนี่มันไม่สนุกเอาเสียเลย (อันนี้สารภาพเลยว่าช่วงนี้นั่งหาวแล้วหาวอีก) คืออยากจะขอบ่นเลยว่า ลุงมาโนชทำหนังมาเป็น20ปีแล้ว เทคนิคในการเล่าเรื่องแบบ 5 นาทีเข้าใจผ่าน CG ผ่านชั้นเชิงในการเล่าเรื่องนี่เฮียน่าจะทำสักหน่อยนะ สงสารคนไม่เคยดูหรือคนจำภาคแรกๆหน่อยเถอะนะ คือตลอดเวลานี่บอกเลยสภาพของคนที่ไม่เคยดู Unbreakable นี่คงไม่ต่างอะไรกับเด็กสายศิลป์ภาษาเข้าไปนั่งฟังเลคเชอร์ฟิสิกส์แหละ คือมึงพูดอะไรของมึง เอาจริงๆ ต้องกลับมาดู Unbreakable อีกรอบนะถึงไม่งงอ่ะ
.
ฉากแอ๊คชั่นมีตอนท้ายประมาณ 10 นาที ดูดิบดูเรียลดีครับ สนุกระดับนึงไม่สนุกมาก แต่ก็ถือว่าน่าจดจำไม่น้อยนะ
.
แต่ยังไงก็ตาม ข้อดีของหนังมันก็มีไม่ใช่ไม่มี ข้อดีคือหนังมันทะเยอทะยานมาก แบบเป็นหนังไฮคอนเซป แต่การเล่าเรื่องมันไม่สามารถทำให้คนดูเชื่อได้เลย ดังนั้นไม่ต้องไปพูดถึงปมหักมุมอะไร มันไม่อินแล้ว เพราะเราพะวงว่าเราจะตามทันไหมจนแทบหมดสนุกไปแล้ว แต่การแสดงของ เจมส์ แม็คอะวอย กับบทบาทต่างๆ 23 บทนี่สิชวนตื่นตาตื่นใจจริงๆ แต่นั่นแหละ Glass มันไม่ใช่หนังเดี่ยวของเค้ามันเลยดร็อปไปนิดนึง
.
ลุงมาโนชนี่หลังๆแกคุ้มดีคุ้มร้าย แต่คุ้มร้ายมากกว่าคุ้มดีนะ ส่วนตัวมองว่า Glass นี่ก็ยังสู้ Unbreakable ไม่ได้นะ แต่เอาสนุกต้อง Split ส่วน Glass นี่ดูยากด้วยแหละ แต่ลุงมาโนชแกเก่งตรงที่คุมงบในการทำหนังเก่งมาก อย่าง Glass นี่งบ 20 ล้านเอง ทาง Boxoffice เองก็ forecast รายได้เปิดตัวเอาไว้ที่ 50 ล้าน ด้วยหน้าหนังที่แม่งโคตรตีกะบาลเข้าบ้านแบบนี้แหละ ดีไม่ดีแกน่าจะได้ไปต่อนะ
.
สุดท้ายก็แล้วแต่เลยนะ ถ้าใครคิดว่านี่จะเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่เหาะเหินเดินอากาศ สู้กันล้งเล้งนี่คิดผิด เพราะ 80% เป็นหนังพูดและมันจะสนุกถ้าดู Unbreakable มาก่อน และต้องดูแล้วเข้าใจด้วยนะ ดูแล้วงงก็อาจจะกลับมางงต่ออีกอยู่ดี ส่วนตัวผมให้ 4.5/10 นะครับ คะแนนคือภาพรวมนะครับ อย่าไปให้ความสำคัญมาก อากดูก็ไปดูเลยครับ
1 บันทึก
14
1
2
1
14
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย