Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Save Wildlife & Forest
•
ติดตาม
25 ม.ค. 2019 เวลา 23:06 • การศึกษา
ทำไมหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) จึงเป็นจุดพักของนักเดินเรือในสมัยก่อน รวมทั้งชาร์ล ดาร์วินด้วย!!!
หากเราบอกชื่อของหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos island) หลายคนคงนึกถึงบุคคลที่เปลี่ยนเเนวคิดการวิวัฒนาการไปตลอดกาล นั่นคือ ชาร์ล ดาร์วิน และนกฟินซ์ เรามาทำความรู้จักห้องทดลองทางธรรมชาติของเขากันครับ
หมู่เกาะกาลาปากอสตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิค ห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศเอกวาดอร์ประมาณ 900 กิโลเมตร เป็นเกาะกลางทะเลที่เกิดจากภูเขาไฟ ประกอบด้วยเกาะหลักๆจำนวน 9 เกาะ ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะแต่ละเกาะประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นชายหาดสีคล้ำจากเถ้าภูเขาไฟ พื้นที่มีสภาพเป็นทะเลทรายซึ่งมีพืชพวกกระบองเพชรขึ้นอยู่ทั่วไป มีบริเวณที่เป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ และมีป่าหมอกปกคลุมบริเวณที่สูงของเกาะ คำว่า “กาลาปากอส” (Galapagos) เป็นคำภาษาสเปนแปลว่า อานม้า (pony saddle) ที่มีรูปร่างและสีดำคล้ายกับกระดองหลังของเต่าบกยักษ์ (giant tortoise) ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ อันเป็นที่มาของชื่อหมู่เกาะนี้
หมู่เกาะต่างๆ ของกาลาปากอส มีทั้งสัตว์และพืชเฉพาะถิ่นที่พบได้ยากบนแผ่นดินใหญ่
หมู่เกาะกาลาปากอสเป็นที่รู้จักของนักเดินเรือ ชาวประมง และนักล่าวาฬ ตลอดจนเหล่าโจรสลัดมาเป็นเวลานานกว่า 200-300 ปีก่อนที่ ชาร์ลส์ ดาร์วินจะเดินทางไปถึงโดยเรือสำรวจหลวงบีเกิล (HMS Beagle) เมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1835 ในช่วงเวลานั้นทุกๆ ปีจะมีเรือล่าวาฬจำนวนมากถึง 60-70 ลำมาแวะพักที่เกาะต่างๆ เพื่อเติมน้ำจืดและหาเสบียงอาหารสำหรับการเดินทางต่อไป สัตว์ประเภทหนึ่งของหมู่เกาะกาลาปากอสที่ชาวเรือทั้งหลายตั้งใจมาล่าเป็นอาหารในขณะพักอยู่บนเกาะและจับลงเรือทั้งที่ยังมีชีวิตคราวละหลายๆ ตัวไปด้วย เพื่อนำไปบริโภคระหว่างเดินทาง ก็คือเต่าบกยักษ์นั่นเอง ในวันแรกที่ท่าเรือเซนสตีเฟน (St.Stephen) ดาร์วิน และลูกเรือบีเกิลซึ่งไม่ได้ประทับใจกับหาดทรายสีดำที่ร้อนระอุ และบรรดานักล่าวาฬจำนวนมากที่พบเห็นเท่านั้น เขาเหล่านั้นยังพบว่าบนหาดทรายกระจัดกระจายไปด้วยรถเข็นที่ใช้เข็นเต่าขึ้นเรือและกระดองเต่าขนาดใหญ่ทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากที่ถูกทิ้งอยู่บนหาด เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมการกินเต่าและจับเต่าลงเรือเพื่อไปเป็นอาหารนี้ได้ดำเนินการอย่างเป็นล่ำเป็นสันมานานแล้ว
เส้นทางเดินเรือของดาร์วิน จากท่าเรือพลีมัท (Plymouth) ประเทศอังกฤษ ไปยังเกาะต่างๆรอบโลก
การนำเต่าบกไปบริโภคระหว่างเดินทางอยู่กลางทะเล เนื่องจากเป็นอาหารโปรตีนชั้นเลิศ ขนาดที่ใหญ่ สามารถอดอาหารและน้ำได้นานหลายเดือน สามารถเก็บไว้ใต้ท้องเรืออยู่รอดได้โดยไม่ต้องมีภาระเรื่องดูแลใดๆ และเต่าบกยักษ์หนึ่งตัวมีน้ำหนักมากถึง 1,250 กิโลกรัม สามารถให้เนื้อมากกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับลูกเรือทุกคน ดาร์วินยังได้ทำการวัดและบันทึกขนาดกระดองเต่าตัวหนึ่งที่มีเส้นรอบวงกระดองถึง 96 นิ้ว และมีความยาวกระดองหลัง 53 นิ้ว นอกจากนี้ยังได้อธิบายถึงรสชาติอันโอชะของเนื้อเต่าย่าง และซุปเต่า ตลอดจนการปรุงอาหารอันโอชะในกระดองเต่าไว้ในบันทึกของเขาด้วย นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการลำเลียงเต่าบนเกาะต่างๆขึ้นเรือซึ่งต้องใช้กะลาสีอย่างน้อย 6-8 คน ในการขนย้ายเต่าแต่ละตัวด้วย กล่าวกันว่าในช่วงเวลานั้นมีการล่าและจับเต่าบกยักษ์จากเกาะต่างๆ ไปเป็นอาหารเป็นจำนวนนับแสนตัวเลยทีเดียว ดาร์วินเองก็ได้เก็บตัวอย่างเต่ามีชีวิตที่ยังโตไม่เต็มที่จำนวน 3 ตัว ลงเรือสำรวจบีเกิลและนำกลับไปประเทศอังกฤษด้วย
บรรดาเต่าบกยักษ์ที่พบในหมู่เกาะกาลาปากอส เป็นเต่าบกขนาดใหญ่และมีอายุยืนมากที่สุดในโลก
ปัจจุบันหมู่เกาะกาลาปากอสได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1978 ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งสัตว์ พืช และลักษณะทางภูมิศาสตร์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกสนใจไปเยือนที่หมู่เกาะเเห่งนี้จำนวนมาก จนก่อให้เกิดปัญหาการท่องเที่ยวเกินขนาด และมลพิษ จนเมื่อปี 2007 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นบัญชีหมู่เกาะกาลาปากอสให้เป็นมรดกโลกที่กำลังถูกรุกรานเนื่องจากการรุกรานของมนุษย์
เนื้อหาต่อไป ผมจะมาเล่าชีวิตที่น่าสงสารของปู่จอร์จ เต่าที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก เพราะเพื่อนๆแกตายหมดแล้ว และชะตากรรมเต่าอื่นๆที่เสี่ยงจะสูญพันธุ์ในอนาคตครับ
Cr. Siam exotic pets
MGR online
บันทึก
26
2
1
26
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย