22 ม.ค. 2019 เวลา 05:27
สูงที่สุดคือ หลังแปป่าสน
ทนที่สุดคือ คนผู้บากบั่น
ไกลที่สุดคือ หล่มสักผาสูงชัน
มหัศจรรย์สามสิ่งอยู่ คู่ภูกระดึง...
หนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก -เล่าจื้อกล่าวไว้...
แรกที่พวกเราก้าว..เริ่มต้นหลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อจองพื้นที่และเต๊นนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้หมายเลขเต๊น 224 เหมือนหมายเลขห้องพักในโรงแรม
เวลาประมาณ 11.00 น. ที่ป้ายประตูทางเข้ามีข้อความ “ขอต้อนรับมวลมิตร สู่เส้นทางพิชิตภูกระดึง”
ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,288 เมตร ระยะทาง 5,500 เมตร !!
เมื่อ 300 ล้านปีมาแล้ว พื้นที่ราบสูงภาคอีสานเคยเป็นทะเลมาก่อนและมีการตกตะกอนทับถมของดินทราย กลายเป็นชั้นหินชุดต่าง ๆ แต่เมื่อประมาณ 250 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยุคที่เปลือกโลกกำลังเปลี่ยนแปลง เกิดการโก่งตัวและโค้งตัว ทำให้พื้นที่แห่งนี้ยกตัวสูงขึ้น เป็นเทือกเขาหินทรายอันยิ่งใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติได้ใช้เวลานับล้านปีกัดเซาะส่วนที่อ่อน คงเหลือเฉพาะชั้นหินที่แข็งแกร่ง ตั้งตระหง่านเย้ยฟ้าท้าดิน ตามสภาพความทนทานจนบัดนี้..
ความสูงชันของเชิงเขาทำให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนต้องทำตัวให้มีสัมภาระติดตัวไปให้น้อยที่สุด เพื่อให้มีความคล่องตัวในการไต่ และลดความเหนื่อยหนัก โดยการฝากสัมภาระไปกับลูกหาบในราคากิโลกรัมละ 30 บาท
ลูกหาบ หมายถึงคนที่รับจ้างหาบสัมภาระของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่อยู่บริเวณเชิงเขาคือ บ้านศรีฐาน
นานมาแล้ว..ชาวบ้านมีน้ำใจหาบของให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นภูกระดึงเป็นเบื้องต้น แต่เมื่อบ่อยครั้งเข้า นักท่องเที่ยวก็เกิดความเห็นใจให้เงินเป็นรางวัลตอบแทนน้ำใจ ในที่สุดการหาบสัมภาระก็กลายมาเป็นรายได้เสริมของคนในชุมชน
“เริ่มจากราคากิโลกรัมละ 3 บาท 5 บาท เป็น 10 - 15 บาทและ 30 บาทในทุกวันนี้” ลูกหายคนหนึ่งเล่า
ถึงกระนั้น แม้ในตัวเราจะปลอดจากสิ่งถ่วงรั้ง แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรจะต้องปฎิบัติด้วยคือ การใช้ผู้ช่วย ช่วยในการไต่ขึ้นสู่ที่สูง..สิ่งนั้นคือ ไม้เท้า
พวกเราหยิบฉวยไม้เท้าที่เหมาะมือไปคนละอัน ใช้มันคำ้ยัน ทรงตัวและพยุงกายขึ้นที่สูง ซึ่งระยะทางช่วงแรกนี้ มันจะสูงชัน ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ
เส้นทางเดินขึ้นภูกระดึง มีลักษณะเป็นทางลาดชัน สลับกับที่ราบเป็นช่วง ๆ โดยจะลาดชันมากที่ซำแฮก (จุดพักระหว่างทาง) ซำบอน ซำกกกอก พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน และซำแคร่
ระยะทางจากก้าวแรกถึงซำแฮก ยาว 1,000 เมตร เป็นระยะทางที่ทุกคนมีความเห็นตรงกันคือ โหดจริง ๆ !!
”มีคำเตือนก่อนออกเดินทางคือ ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ”
สองเท้าและไม้ค้ำยัน เตาะแตะไปตามไหล่เขาที่มีแง่งหินโผล่ขึ้นมา เรียงซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ไล่ไปตามความสูงของภูเขา รอยเท้าของนักท่องเที่ยวนับหมื่นนับแสนก้าว ที่เหยียบย่ำไปบนทางลาดชันเหล่านี้ ทำให้มองเห็นเป็นทางเดินซอกซอนและเคี้ยวคด ผ่านโขดหินและสุมทุมพุ่มไม้ไปตลอดเส้นทาง
สิ่งที่น่าสนใจระหว่างทางเป็นสภาพธรณีวิทยาและสภาพป่าที่มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ จากป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ ไปจนถึงป่าดงดิบเขา
กว่าจะถึงซำแฮก เล่นเอาทุกคนหมดแรงไปตาม ๆ กัน
“อะไรที่หนักให้ปล่อยวาง”
หนุ่มนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง พร้อมเป้บนหลังและเหงื่อชุ่มกาย ทรุดตัวลงนั่งบนก้อนหิน กล่าวอย่างผู้มองเห็นสัจจธรรม
12.00 น. พวกเราเดินทางถึงซำแฮกเป็นที่แรก..ที่นี่จึงเป็นที่พักรับประทานอาหารเที่ยง ซึ่งมีร้านค้าจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงนัก
หนึ่งชั่วโมงกับการพิสูจน์น้ำอดน้ำทนของใครต่อใคร ในระยะทางเพียงหนึ่งพันเมตร ดูไม่ถึงเศษเสี่ยวของกาลเวลาที่โลกของเราได้เปลี่ยนแปลงมา
ก้อนหินที่มีรอยชั้นขวางขนาดเล็ก ๆ ซ้อนกันถี่ยิบ ซึ่งเป็นลักษณะของขั้นหินที่เรียกว่า “หมวดหินภูกระดึง” เป็นหินทรายกับหินดินดาน ที่เกิดจากการทับถมของตะกอนในอดีตมีอายุถึง 109 ล้านปี
รอยคลื่นจำนวนมากที่เกิดขึ้น คล้ายกับที่เราพบเห็นตามพื้นทรายใต้น้ำ แสดงให้เห็นว่า หินเหล่านี้ เกิดจากการทับถมของทรายใต้พื้นน้ำในอดีตนั่นเอง
หลังท้องอิ่ม เหงื่อยุบ มีพลัง ไม้เท้าก็เร่ิมทำงานต่อ สภาพเชิงเขายังสูงชันสลับกับพื้นราบ สองเท้านำพวกเราไต่ชั้นหิน สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ รอบ ๆ ทางเดินมีป่าใผ่ขึ้นแจมไปตลอดเส้นทาง
สูงขึ้นไปถึงซำกกโดน ซำแคร่ ที่มีระยะทางห่างจากจุดเริ่มต้น ประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ ก็เห็นความแตกต่างจากระยะทางที่ผ่านมา เพราะเห็นมีไม้ใหญ่เขียวขจี ขึ้นปกคลุมหนาทึบ จนบังแสงแดดไปจนหมด ทำให้อากาศเย็นมาสัมผัสผิวกายจนรู้สึกได้
และระยะทางจากนี้ไปจะเป็นอีกบททดสอบหนึ่งของนักเดินทาง
ที่หลายคนบอกว่า หินยิ่งกว่า ซำแฮก !!!
เพราะมันคือหน้าผาที่บางช่วงต้องมีบันไดสูงชันทอดผ่าน เมื่อผ่านไปได้แต่ละเชิงชั้น มีน้อยคนนักที่ไม่ขอเวลาหยุดพักเอาแรงก่อน
พวกเราผ่านเฮือกสุดท้ายอันโหดหินจากซำแคร่ไปถึงหลังแป ที่มีระยะทางห่างกัน 1,300 เมตร ได้สำเร็จ ในเวลา 15.41 น. !!!
ไม่ว่าใครที่ก้าวเท้าข้ามขอบผาชันมาถึงหลังแปได้ ก็ต้องตื่นเต้นและภาคภูมิใจเป็นที่สุด จนลืมความลำบากตรากตรำที่ผ่านมาหมาด ๆ ไปอย่างฉับพลัน
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้นเริ่มต้นจากเรื่องราวเล็ก ๆ ที่อาจต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นถึงจะสำเร็จได้
ที่นี่เป็นจุดที่สูงที่สุดและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทุกคนที่ต้องการมาวัดใจตนเอง !!
ในฐานะผู้พิชิต “หนทางหมื่นลี้ จึงต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก” ...
โฆษณา