บางครั้ง การล้มเลิกกลางคันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบผลสำเร็จได้......
“ไม่มาอีกแล้วภูกระดึง” หนุ่มคนหนึ่งบอกเล่าถึง ครั้งหนึ่งเขาเคยเข็ดหลาบกับการไต่ภูอันสูงชันนี้มาแล้วในฐานะนักท่องเที่ยว
แต่ในวันนี้ เขายังต้องขึ้น ๆ ลง ๆ ยอดภู-ตีนภู มากว่าสามปีแล้ว !!!
ในกาลก่อน มีคำพูดหนึ่งพูดว่า
“Quitters never win and winners never quit” ผู้ล้มเลิกกลางคัน ไม่เคยประสบผลสำเร็จและผู้ประสบผลสำเร็จก็ไม่เคยล้มเลิกกลางคัน
มันเป็นคำพูดที่ย้ำเตือนให้เราอย่าล้มเลิก ขณะที่เรากำลังเดินไปหาเป้าหมาย
แต่มันเป็นความจริงเช่นนั้นเสมอไปหรือ ??
มีงานวิจัยใหม่ๆ เสนอให้เห็นว่า การล้มเลิกกลางคัน มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในตอนท้าย !!
บิล เกตส์ (Bill Gates)เคยได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดถึง 16 ครั้ง ระหว่างที่เขาเป็นหนี้จำนวนมาก นั้น หนี้มันทำให้เขาเป็นคนที่ขยันหมั่นเพียร การเป็นหนี้ของเขา มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เขาคิดล้มเลิกกลางคันด้วยความเต็มใจ
โดยสรุปก็คือ คำพูดเก่า ๆ ที่ว่า “คนที่ล้มเลิกกลางคัน ไม่เคยประสบผลสำเร็จ และคนที่ประสบผลสำเร็จ ไม่เคยล้มเลิกกลางคัน”
ชักจะไม่จริงซะแล้ว !!
คนที่ประสบผลสำเร็จของโลกหลายคน ส่วนใหญ่เคยล้มเลิกกลางคันมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น
เกตส์ จะไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในวันนี้ ถ้าเขาไม่ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในขณะเรียนอยู่ปีที่ 2 เขาตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ค (Facebook ) ก็เข่นกัน เขาลาออกจากฮาร์วาร์ด เพื่อตามหาความฝันของเขา
มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) เลิกล้มอาชีพทนายความที่กำลังรุ่งโรจน์ กลายมาเป็นนักปฏิวัติที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ในเวลาต่อมา
กรีกอรี มิลเลอร์และคาร์สเตน วรอสช์ (Gregory Miller and Carsten wrosch) นักจิตวิทยาพบว่า คนที่มีความเต็มใจที่จะล้มเลิก จะเป็นผู้มีสุขภาพดีกว่าคนที่ฝืนใจ
จากการศึกษาของนักจิตวิทยา ที่ได้ศึกษาคน 2 กลุ่มที่มีความแตกต่างกัน เขาเรียกกลุ่มคนที่เต็มใจล้มเลิกว่า คนขี้แพ้ (Quitters) เรียกกลุ่มที่ปฏิเสธว่า กลุ่มหัวดื้อ (Bulldogs)
เกือบทุกครั้งที่เขาตรวจสุขภาพของพวกขี้แพ้ พวกเขาจะมีสุขภาพดีกว่า พวกเขาปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนัง (Skin disorders) นอนไม่หลับ (Poor sleep) อาหารไม่ย่อย (Indigestion) และปวดศีรษะ (Headaches) เป็นต้น
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า พวกหัวดื้อ มีความเครียดเรื้อรังอีกด้วย !!
การล้มเลิก ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องสุขภาพ อิสระภาพจากการล้มเลิก ยังมีสถิติที่บอกให้รู้ถึงการเชื่อมโยงไปถึงคนที่หย่าร้างก็มีสุขภาพดีขึ้นด้วย
ในสหรัฐอเมริกาก่อนปี 1960 การหย่าร้างจะเกิดขึ้นได้ ถ้าทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจ แต่ปลายปี 60-70 มีกฎหมาย กำหนดให้การหย่าร้าง ทำได้แม้อีกฝ่ายจะไม่พร้อม
นักวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) พบว่า การหนีไปจากสภาวการณ์อย่างนี้ นำไปสู่ การฆ่าตัวตายของฝ่ายหญิง ที่มีอัตราสูงถึงร้อยละ 20 และยังทำให้อัตราการใช้ความรุนแรงลดลงไปด้วย
ในบริษัทบางแห่งยอมรับว่า การลาออกของลูกจ้าง บริษัทจะได้ประโยชน์ เช่น บริษัทแซปโปส์ (Zappos) เคยจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างใหม่ที่ลาออกภายในเดือนแรก เป็นเงิน 1,000 เหรียญ เพราะเชื่อว่า การจ้างคนที่เหมาะสมจะได้ประโยชน์มากกว่าเรื่องเงินทอง
เพราะการให้บริการผู้บริโภค เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบผลสำเร็จ พวกเขาต้องการลูกจ้างที่เต็มใจที่จะใช้ความพยายามมากกว่าปกติ
หมายความว่า การจ้างคนที่กระตือรือร้นในการทำงาน ได้อะไรมากกว่าเงินทอง
มันดูเหมือนว่า การมีอิสรภาพในการล้มเลิก ไม่เพียงแต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ด้วย
จึงไม่จริงที่พูดว่า “คนล้มเลิกกลางคันไม่เคยประสบผลสำเร็จและคนที่ประสบผลสำเร็จไม่เคยล้มเลิกกลางคัน”
ลูกหาบ คนหนึ่งเคยคิดล้มเลิกและตัดสินใจไม่ขึ้นไปอีกแล้วภูกระดึงเพราะความยากลำบากในการป่ายปีน
แต่เพราะความเป็นคนขี้แพ้ในครั้งนั้นของเขา เขากลับได้รับความเห็นใจจากหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านตีนภู จนก่อให้เกิดเป็นความรักและได้แต่งงานกันในที่สุด
นับแต่นั้นมา...เขาก็กลับขึ้นภูอีกครั้งในตำแหน่งลูกหาบ จนบัดนี้เป็นเวลากว่าสามปีแล้ว !!!
บางครั้ง การล้มเลิกกลางคัน ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบผลสำเร็จได้ ......
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
