28 ม.ค. 2019 เวลา 19:09 • ประวัติศาสตร์
+ โหราจารย์ทั้งสามอาจไม่ได้พบพระกุมารในวันประสูติ +
ในภาพฉากประสูติวันคริสต์มาส เรามักพบการวาดหรือการจัดเรียงที่มี พระมารดามารีย์ นักบุญยอแซฟ พระกุมารเยซู มีโหราจารย์จากตะวันออก3ท่าน และคนเลี้ยงแกะกับเหล่าสัตว์ อยู่พร้อมกันในฉากเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ และแม้แต่ในพระคัมภีร์เอง บ่งบอกว่าโหราจารย์ทั้งสามอาจไม่ได้พบพระกุมารในวันประสูติ
ตรงกันข้ามพระคัมภีร์ระบุชัดว่าคนกลุ่มแรกที่ถูกเชื้อเชิญโดยตรงจากทูตสวรรค์ ให้มานมัสการพระกุมารแบบตรงวันในคืนนั้นเลยที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ คือบรรดาคนเลี้ยงแกะที่ได้ชมมโหรสพสุดอัศจรรย์จากทูตสวรรค์ และพบพระองค์ในรางหญ้า ซึ่งเราคงไม่แปลกใจถ้าเราพบถ้อยคำทำนองนี้ตลอดพระคัมภีร์คือ เมื่อพระเยซูเสด็จมาคนต่ำต้อย คนชายขอบ คนจน คนที่ถูกจัดว่าชั้นต่ำในสังคมจะได้รับการยกขึ้น และได้รับเกียรติ ก่อนคนรวย คนเก่ง คนมีฐานะ
กลับมาที่ประเด็นของเหล่าปราชญ์ทั้งสาม ที่ต้องขวนขวายตามหาพระกุมารด้วยความรู้ที่ตนมี เลยลำบากกว่าเหล่าคนเลี้ยงแกะไร้การศึกษาหลายเท่า
จุดที่น่าสนใจอันแรกมาจากการคำณวนทางดาราศาสตร์ที่คาดคะเนว่า ดาวประจำพระองค์ในโหราศาสตร์โบราณอาจเป็นดาวพฤหัส เพราะเป็นดาวที่หมายถึงกษัตริย์ จากการคำนวนเทียบช่วงปีที่กษัตริย์เฮโรดครองราชย์ ปรากฎว่ามีช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสสุกใสเป็นอันมากปรากฎช่วงหลังจากเดือนธันวาคมที่คาดว่าเป็นเดือนประสูติราว5-6เดือน คืออยู่ช่วงพฤษภาและมิถุนา
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการเดินทางที่อาศัยการดูดาวไปด้วย ในพระคัมภีร์บันทึกว่าเมื่อพวกเขาเห็นดาวประจำพระองค์ขึ้นได้เดินทางมาถามกษัตริย์เฮโรด และเฮโรดใช้เวลาในการสอบถามจากบรรดาธรรมาจารย์ทั่วเมืองว่าพระกุมารน่าจะประสูติที่ตำบลไหน นั่นแปลว่าในขณะนั้นดาวยังเพิ่งเคลื่อนผ่านมาที่เยรูซาเร็ม ก่อนจะค้นเจอคำทำนายว่าน่าจะประสูติที่ตำบลเบทเลเฮม พอพวกเขาออกเดินทางอีกครั้งพระคัมภีร์ก็ใช้คำว่า "ดาวได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง"
2
คำว่าดาวปรากฎอีกครั้งบ่งบอกนัยว่าการเดินทางไปด้วยดูดาวไปด้วย จะต้องเผชิญปัญหาธรรมชาติอันหนึ่ง(ซึ่งเราคงเคยเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถม)คือคืนวันพระจันทร์เต็มดวงปกติเราจะมองไม่เห็นดาวแต่จะเห็นดาวชัดในคืนเดือนมืด นั่นแปลว่าเหล่าโหราจารย์ก็ใช้เวลานับเดือนตามดาวมาตั้งแต่ตะวันออกซึ่งต้องเดินทางบ้างหยุดพักบ้างตามจังหวะข้างขึ้นข้างแรม อาจเห็นดาววนขึ้นๆหายๆไม่รู้กี่รอบ จนมาเสียเวลากับเฮโรดก็น่าจะหมดไปอีกรอบเดือน ก่อนจะเห็นดาวอีกรอบ ที่นำทางพวกท่านไป "หยุดเหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร" ไม่ใช่คำว่าสถานที่ประสูติ(มธ2:9) ซึ่งตรงนี้น่าสนใจมากเพราะคำที่บันทึกในพระคัมภีร์บทถัดไปนี้เขียนชัดที่ มธ2:11 ว่า "พวกเข้าเข้าไปใน"บ้าน" พบพระกุมารกับพระมารดามารีย์"
ซึ่งบ่งบอกว่าในเวลานั้น แม่พระและพระกุมารน้อยไม่ได้อยู่ที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ที่เป็นสถานที่ประสูติแล้ว แต่ย้ายไปพักในบ้านแล้ว เพราะเหตุผลที่ว่า เมื่อพระกุมารคลอดไม่มีที่ในห้องพักจึงต้องคลอดอย่างฉุกเฉินในถ้ำสัตว์อันเป็นที่สะดวกมากที่เหล่าคนจนเร่ร่อนอย่างพวกคนเลี้ยงแกะจะเข้ามานมัสการได้ แต่เมื่อคลอดแล้ว หลังจากพิธีถวายพระกุมารเข้าสุหนัตในพระวิหารเมื่อครบ7วัน ครอบครัวที่มีทารกเพิ่งเกิดนี้คงไม่ได้นอนในถ้ำสัตว์7วันเป็นแน่ แต่หลังจากวันนั้นอาจมีห้องพักแรมว่างเข้าจนได้ และครอบครัวศักดิ์สิทธิ์คงไม่พาเด็กเพิ่งเกิดออกเดินทางข้ามทะเลทรายอันแสนอันตรายกลับบ้าน แต่คงยังอาศัยอยู่แถวนั้นจนทารกแข็งแรงขึ้น ซึ่งอาจนานเป็นเดือนนานพอที่โหราจารย์จะตามหาเจอใน"บ้าน"ที่พวกท่านคงเช่าพักอาศัย
1
นอกจากนั้นเมื่อเหล่าโหราจารย์ได้รับนิมิตจากพระเจ้าในฝัน พวกท่านเนียนหนีไปทางอื่นไม่กลับไปหาเฮโรด เฮโรดสั่งฆ่าเด็กตั้งแต่2ขวบ นั่นก็ชี้ว่ากว่าเฮโรดจะรู้ตัวว่าโหรราจารย์ไม่กลับไปหาก็อาจรออีกนานเป็นเดือนกว่าจะแน่ใจว่าพวกท่านไม่กลับมาหาตนแน่ๆ จึงสั่งประหารทารกแบบเหมาตำบลโดยรนะบุว่าเป็นเด็กชาย2ขวบลงไป สิ่งนี้ยืนยันว่าเฮโรดไม่ได้แน่ใจในเวลาประสูติและยังคาดว่าอาจจะเกิดก่อนโหราจารย์มาแน่ๆถึงต้องเผื่ออายุทารกไว้เช่นนี้
นอกจากนี้ยังมีธรรมประเพณีและความเชื่อหลายอย่างเกี่ยวกับโหราจารย์ทั้งสาม เช่นว่าพวกท่านอาจมาจากบาบิโลน หรือพวกท่านมาจากชนชาติต่างๆ3ชนชาติดังที่เราพบว่า มักวาดหรือปั้นรูปโหราจารย์ทั้งสามมีสีผิวต่างกัน ที่จริงพระคัมภีร์ไม่ระบุจำนวนพวกท่าน แต่ใช้คำว่า โหราจารย์"บางคน" การอนุมานว่ามีสามท่านมาจากของขวัญสามชิ้นที่พวกท่านนำมานั่นเอง
แต่กระนั้นมีข้อสันนิฐานที่น่าสนใจอีกอันว่า โหราจารย์เหล่านี้ อาจไม่ใช่คนต่างชาติ แต่อาจเป็นชาวยิวหรือผู้มีเชื้อสายยิวที่กระจัดกระจายไปศึกษาศาสตร์ต่างๆในที่ห่างไกลเพราะยุคนั้นชาวยิวก็กระจัดกระจายไปอาศัยทำมาหากินและศึกษาทั่วตะวันออกกลาง การที่พวกท่านพุ่งมาหาเฮโรด และสนทนากันอย่างราบรื่นคล่องปาก ตลอดจนการที่พระเจ้าเตือนพวกท่านในฝัน แปลว่าพวกท่านอาจเป็นชาวยิวที่เชื่อในพระเจ้านี่เอง ที่ไปศึกษาศาสตร์ต่างๆ(เช่นคัปบาล่า) จากตะวันออกแล้ว พวกท่านอาจไม่ต่างจากชาวยิวคนอื่นๆที่รอพระแมสสิยาห์ จึงศึกษาหาวิธีที่จะค้นพบพระองค์ เมื่อพบว่าดวงดาวเปิดเผยการประสูติ จึงกลับมาตามหากษัตริย์ยิว เพื่อนมัสการพระองค์ เพราะพวกตนก็มีเชื้อสายยิวนั่นเอง
โฆษณา