30 ม.ค. 2019 เวลา 01:00 • ความคิดเห็น
ข้อแนะนำสำหรับ Content creator แบบ Part Time
บทความนี้สำหรับ Content creator ที่ไม่มีเวลามากพอที่จะทำ Content ได้เต็มที่เหมือนกับสื่อดังๆหลายเจ้านะครับ มันเหมือนเป็น Pain Point ที่ Content creator หน้าใหม่ ๆ หรือบางคนที่มีงานประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำ Content เป็นงานเสริมหรือเป็นงานอดิเรกแล้วบางทีไม่มีเวลาลง Content อะไรเลย
ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาคาใจสำหรับ Content creator หลาย ๆ ท่าน ซึ่งหลายท่านที่ว่าก็เป็นเพื่อนๆของผมที่ทำงานด้าน Content creator เช่นกัน แล้วด้วยคำถามที่ถามมาแนวนี้บ่อยๆผมก็เลยทำเป็น Content ซะเลยครับ
สำหรับข้อแนะนำที่ผมจะบอกในบทความนี้ว่าควรทำยังไงสำหรับ Content Creator แบบ Part Time ก็มีดังนี้ครับ
ถ้าเป็น Content creator หน้าใหม่ ๆ เลย แนะนำให้ทำ Content จากสายงานที่ทำอยู่เป็นประจำ
Section นี้จะเป็น Section สำหรับ Content creator หน้าไหมคะแต่ว่าถ้าเป็น Content creator ที่ทำอยู่แล้วแต่ไม่มีเวลาให้ข้าม section นี้ไปได้เลยนะครับ ประโยชน์จากการทำ Content จากอาชีพที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้คือ เราจะรู้ลึก เพราะว่าเราทำอาชีพหลักนี้อยู่แล้วแล้วอยากจะแชร์เรื่องราวประสบการณ์หรืออะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังสนใจใน Content ของเราอยู่ได้โดยเป็นธรรมชาติ
ถ้าผมจะยกตัวอย่างขอเป็นช่างภาพดีกว่า เพราะว่าเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผมแล้วผมก็เคยมีประสบการณ์การถ่ายภาพมาแล้ว คือคุณก็เป็นช่างภาพในสตูดิโอหรือตามงานต่างๆ แล้วอยากจะทำ Content เกี่ยวกับมุมมองของช่างภาพ หรือเทคนิคการถ่ายภาพให้แบบดูดี เทคนิคการถ่ายภาพในสตูดิโอ หรือข้อแนะนำในการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ถ้าเราทำอาชีพนี้อยู่แล้วแล้วมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยตรงเวลาเราทำ Content ออกมามันจะตรง และให้ข้อมูลที่เป็นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชมต้องการมากที่สุดครับ
แต่ถ้าคุณไม่อยากจะทำ Content ที่มาจากอาชีพหลักโดยตรงของเราแต่อยากจะทำ Content จากความสนใจส่วนตัวอย่างเช่นไอดอล เรื่องการเล่นดนตรี การออกไปเที่ยว ต้องดูด้วยว่าเราชอบจริงหรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ชอบจริง ๆ ก็อย่าไปทำให้ทำในสิ่งที่เรามีประสบการณ์ร่วมในทุกๆวันจะดีกว่า
การทำ Content จากสิ่งที่เราชอบ ไอ้เช็คตัวเองครับว่าเราผูกพันเราสนใจเราเปิดดูข่าวเราเข้าไปดูสิ่งๆนั้นทุก ๆ วันหรือเปล่า อย่างเช่นจะทำ Content เกี่ยวกับเกมพับจี แต่ถ้าเราไม่ได้เล่นพับจีทุกวันก็ไม่ต้องไปทำ การที่เราทำ Content ที่เราชอบแต่เราไม่ได้ไปคลุกคลีกับมันทุกๆวันมันจะเป็นการเสียเวลาเพราะมันเหมือนกับว่าเราจะต้องเข้าไปในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น แล้วเราทำ Content ออกมามันจะไม่ Real
เพจ Facebook Twitter ต้องมี
จะมีอันใดอันหนึ่งก็ได้หรือจะมี 2 อันไปเลยก็ยิ่งดีครับ สาเหตุที่ผมแนะนำว่าคุณควรมีเพจ Facebook หรือ Twitter เพราะว่า Social Network ทั้ง 2 อันนี้เราสามารถเอาแหล่งข่าวอื่นๆหรือบทความอื่นๆที่คนอื่นเขียนมาแปะเป็นโพสต์ของเราเหมือนกับการแชร์บทความนั้น ๆ ได้ และนั่นก็คือ 1 Content
ใช่ครับ การแชร์เรื่องราวต่างๆจากคนอื่นก็ถือว่าเป็น Content อีก 1 Content ด้วยเช่นกัน
เป็น Content ที่สามารถผลิตได้ไม่ถึงนาทีเลยด้วยซ้ำ เหมาะสำหรับวันที่เราแทบจะไม่มีเวลาจริงๆหรือกำลังอ่านบทความอะไรแล้วรู้สึกว่ามันมีประโยชน์สำหรับผู้ติดตามแล้วตัวเราด้วย ก็แชร์เลย ซึ่งแชร์พร้อมกับความคิดเห็นส่วนตัวของเรานิด ๆ หน่อย ๆ นั่นก็ได้แล้ว
แต่ถ้าจะแชร์พวกบทความต่างๆไปตลอดมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เพราะว่าใน Facebook การแชร์เรื่องราวต่างๆจากสื่ออื่น ๆ ค่า Reach มันจะต่ำกว่าโพสต์ที่เราโพสต์จริง ๆ การแชร์เอาไว้สำหรับตอนที่เราเจอบทความหรือ Content อะไรดี ๆ จะดีกว่า หรือเฉพาะตอนไม่มีเวลาจริง ๆ
โพสเน้นเนื้อ ๆ แล้วควรแบ่งเวลาทำ Content อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงต่อวันก็ยังดี
สาระสำคัญคือ เราคิดว่าทำ Content เหมือนกับการเปิดประเด็นพูดคุยกับเพื่อนๆของเราเอง ประมาณว่าเจอเรื่องอะไรดีๆเรื่องอะไรที่น่าสนใจหรือเป็นกระแสก็พูดให้เพื่อนๆฟัง ก็แค่นั้น
ถ้าเกิดไม่มีเวลาทำ Content อะไรเต็มที่ อย่างเวลาพิมพ์ก็ใช้เวลาเขียน Content ค่อนข้างยาว ให้พยายามทำ Content ให้มีแต่เนื้อแล้วผู้รับสารรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เราสร้าง Content ไป ในโลกความเป็นจริงการใช้งาน Facebook หรือ Twitter คนที่ดูบางคนอาจจะดูแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นในการตัดสินใจ ถ้าโพสต์ไหนมันดูแล้วไม่น่าสนใจเขาก็เลื่อนไปดูโพสต์อื่น ๆ ดังนั้นไม่ใช่แค่ตัว Content ที่มันจะมีสาระที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความพึงพอใจอย่างเดียว ยังมีเรื่องของภาพประกอบด้วย
ภาพประกอบควรเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้วใส่หัวข้อที่สั้น กระชับ เห็นแล้วน่าเปิดอ่าน Content ตัวนั้น เพียงแค่นี้ก็ทำ Content ออกมาน่าสนใจครับ
ประมาณตนเข้าไว้
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ Content creator แบบ part time คือเราต้องประมาณตนว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าคนทำ Content มีแค่คนเดียว เราก็ต้องประมาณตนว่าเราทำได้แค่นี้นะ ยิ่งถ้าเป็น YouTube creator นี่ต้องคิดหนักเลยเพราะว่าถ้าเป็น YouTube Creator ทำด้วยตัวคนเดียว ถ้าจะทำคลิปแบบเป็นเรื่องเป็นราวหรือการตัดต่อเนียน ๆ มันจะต้องแลกกับเวลาที่เสียไป เพราะอย่าลืมว่าการทำคลิปของยูทูปคลิปหนึ่งใช้เวลานานพอสมควร
หรือถ้าไม่ถนัดเรื่องการตัดต่ออะไรเลย แต่อยากจะทำคลิปวีดีโอ ก็ทำคลิปสั้น ๆ ออกแนวสั้น ๆ เหมือนที่ลงใน Story ก็ยังได้
หรือบางคนอยากจะเล่าเรื่องราวยาวๆแต่ไม่อยากจะทำเป็นคลิปวีดีโอลงใน YouTube ก็ทำเป็นพ็อดคาสท์ก็สามารถทำได้ เพียงแต่พ็อดคาสท์มันจะมีเรื่องของ Platform ดัง ๆ อย่าง SoundCloud ที่ต้องจ่ายเงินลง Podcast แต่ละตอน สำหรับผมถ้าเป็นไปได้ ยังไม่มีทุนจ่ายพื้นที่ลงไฟล์เสียง แนะนำให้ Mixcloud จะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม โฟกัสกับงานที่สามารถหาเงินได้ก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Content creator ในยุคนี้เกิดขึ้นมาเยอะมาก ๆ ก็คือเรื่องของรายได้ที่ได้จากการเขียน Content จาก Content creator ดัง ๆ ที่เรารู้จักกันดี บอกเลยครับว่ากว่าจะได้รายได้จากการเขียน Content ค่อนข้างนานพอสมควรแล้วบางทีก็ได้ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ดีจริงๆก็คือเรื่องของ “อิทธิพล” ที่ทำให้คนเชื่อหรือเอาข้อมูลของเราที่ทำเป็นแหล่งอ้างอิง การทำ Content ในช่วงแรกๆหรือช่วงต่อๆไปให้เลิกคิดถึงเรื่อง “เงิน” ก่อน เพราะเม็ดเงินที่เข้ามาค่อนข้างน้อยครับ
แต่ตรงกันข้าม การถูดพูดถึงจะมากกว่า
เมื่อเราเลิกคิดถึงเรื่องเงินสำหรับการทำ Content ในเรื่องของเงินเงินทองทอง ๆ เราควรโฟกัสที่งานหลักก่อนดีกว่า ช่วงแรก ๆ ของการทำ Content บาง Content จำเป็นต้องลงทุน อย่างเช่น ออกไปเที่ยวออกไปถ่ายทำหรือออกไปซื้อของเพื่อมารีวิว คนที่หาเงินจากการทำ Content ต้องเป็น Content creator ที่มีชื่อเสียงพอสมควร แล้วพวก Content creator ที่มีชื่อเสียงแล้วมักจะมีทีมงานที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ Content creator ที่มีชื่อเสียงมาจากทำผลงานออกมาดี ๆ แล้วโพสต์ตรงเวลาเหมือนกับรายการจริง ๆ ตามช่องทีวีทั่วไป
โฆษณา