6 ก.พ. 2019 เวลา 02:10 • ธุรกิจ
3 วิธีสร้างและเร่งสปีดนวัตกรรมในองค์กร
.
RISE คือองค์กรเร่งสปีดนวัตกรรม กับหลากหลายประสบการณ์การทำงานให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำ Top 10 ของประเทศ RISE ได้ร่วมงานอยู่แล้วถึง 5 บริษัท
.
ผมคุยกับ คุณหมอคิด-ดร.ศุภชัย ปาจริยานนท์ ซีอีโอแห่งบริษัท RISE ในพอดแคสต์ The Secret Sauce เพื่อค้นหาว่า เราจะสร้างนวัตกรรมในองค์กรได้อย่างไร
.
1. เปลี่ยนชุดความคิดเดิม (Mindset)
อุปสรรคสำคัญในการเคลื่อนตัวขององค์กรคือ HIPPO ย่อมาจากก Highest-Paid-Person Opinion หรือคนที่นั่งหัวโต๊ะ คนที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด ชุดความคิดของคนกลุ่มนี้ บางทียังยึดติดอยู่กับรูปแบบเก่า เราอาจได้ยินบ่อยครั้งว่าเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง มีไอเดียเยอะ แต่พอเอาความคิดไปเสนอรุ่นพี่ทีไร พวกเขาก็มักตอบกลับด้วยประโยคเดิมๆ ว่า “ตอนเด็กเท่าเธอ พี่ก็เคยคิดแบบนี้แล้วไม่เวิร์ก”
.
เคสตัวอย่างการทำงานของกูเกิล ปัจจุบันเวลาประชุม พวกเขาเปิด 2 จอ จอแรกเป็นพรีเซนเทชัน ส่วนอีกจอเป็น Data ประกอบการตัดสินใจ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ประสบการณ์ที่เคยสะสมมา ไม่อาจฟันธงได้ว่า ไอเดียใหม่นั้นดีหรือไม่ดี จึงต้องอาศัยชุดข้อมูลมาช่วยยืนยัน ฉะนั้น สิ่งสำคัญในการกำจัด HIPPO คือ การกำจัดชุดความคิดแบบเดิมๆ เพิ่มวิธีคิดใหม่ให้เกิดนวัตกรรม
.
2. สร้างทักษะจากการลงมือทำจริง (Skill Set)
ลองเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบเดิมๆ นั่งคิด นั่งประชุม วนซ้ำไปเรื่อยๆ เป็นการเริ่มต้นลงมือทำจริง แม้ไอเดียอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่การทำก่อน ล้มเร็ว และล้มไปข้างหน้า ในยุคนี้ย่อมดีกว่า ที่สำคัญอย่าลืมติดอาวุธสำคัญอย่าง Skill Set โดยเฉพาะเรื่อง Design Thinking
.
Design Thinking ที่ว่านี้ ไม่ใช่การท่องจำได้ว่ามีกี่ขั้นตอน แต่ควรทำทุกขั้นตอนอย่างถูกวิธี อาศัยจากประสบการณ์และการฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเหมือนการออกกำลังกาย ถ้าอยากแข็งแรง คุณต้องกระตุ้นกล้ามเนื้อเป็นประจำ เช่นเดียวกัน ถ้าอยากฝึกความสร้างสรรค์ ก็ต้องหมั่นฝึกกล้ามเนื้อแห่งความครีเอทีฟเอาไว้ด้วย
.
3. ติดตั้งเครื่องมือในองค์กร (Tool Set)
จำไว้เสมอว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์กร ก่อนจะพัฒนาไปข้างหน้า ต้องรู้จักองค์กรของตัวเองก่อน
.
ขั้นที่ 1 ตั้งโจทย์ให้ชัดเจน สิ่งที่อยากทำหรืออยากมุ่งไปให้ถึงคืออะไร เพื่อปรับจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งให้ถูกทาง
.
ขั้นที่ 2 ต้องมีทีมงานเต็มเวลาที่เข้ามาทำเรื่องนวัตกรรม และนวัตกรรมต้องเริ่มที่ซีอีโอเท่านั้น ถ้าซีอีโอยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ยังไงการเปลี่ยนแปลงใหม่ก็ไม่เกิด
ขึ้นในองค์กรอย่างแน่นอน
.
ขั้นที่ 3 ใส่ใจรายละเอียดภายใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องมือที่กระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้จริง การวัดผลคนทำงาน รวมถึงอื่นๆ ที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกมากมาย
.
วัฒนธรรมองค์กรที่กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมของ RISE
1. เน้นความสำคัญของคน ถ้าคนทำงานไม่มี Mindset และ Skill Set ที่ใช่ ยิ่งทำให้การช่วยพัฒนาองค์กรตัวเองและองค์กรอื่นเป็นเรื่องยาก
.
2. พนักงานทุกคนมีสิทธิ์ล้มเหลว ผิดพลาดได้ แต่ต้องเรียนรู้ว่าเกิดจากอะไร และไม่ทำซ้ำในเรื่องเดิม
.
3. สิ่งที่ลงมือทำทั้งหมดจะต้องถูกใช้กับทั้งองค์กร ไม่ใช่ทำกับคนที่ขึ้นตรงกับใครบางคนเท่านั้น
.
4. ไม่ทำงานแบบธุรกิจครอบครัว ไม่รักกันแบบพี่น้อง แต่ทำเหมือน Professional Player ทุกคนในองค์กร เมื่ออยู่ข้างนอกเป็นพี่น้องกัน แต่พอเข้าทำงานจะต้องเป็นมืออาชีพ ไม่เน้นการสอนแบบพี่สอนน้อง แต่ให้พื้นที่ในการทำผิดพลาด และสามารถตักเตือนกันได้
.
5. เมื่อมีการสัมภาษณ์พนักงานใหม่ หัวหน้าและทีมงานต้องเข้าสัมภาษณ์และมีมติเอกฉันท์ตรงกันในการรับคนคนนั้นเข้ามาทำงาน
.
อย่าลืมนะครับ กำจัด HIPPO ในตัวคุณออกไป!
.
ฟังได้ที่ https://youtu.be/iFsCOYyjMHs
โฆษณา