อันที่จริง “ฝุ่นละออง 2.5 PM” ก็เป็นเหมือน“ความฟุ้งซ่าน”
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
สถานการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนก และความวิตกกังวลให้กับใครหลายๆคน คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ฝุ่นละออง 2.5 PM” ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศในบ้านเมืองเรา
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ หากพิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่า…อันที่จริง “ฝุ่นละออง 2.5 PM” นั้นก็มีหลายอย่างที่เหมือนกับ “ความฟุ้งซ่าน”…
crpic pixabay.com
ความเหมือนที่ว่าผู้เขียนขอแบ่งเป็น 4 ข้อ ดังนี้
1. ฝุ่นละออง 2.5 PM กับ ความฟุ้งซ่าน ต่างก็มีคุณสมบัติในการ “ฟุ้งกระจาย” ที่เหมือนกัน
ต่างกันตรงที่
ฝุ่นละออง 2.5 PM...จะฟุ้งกระจายอยู่ใน"อากาศ"
ส่วนความฟุ้งซ่าน..จะฟุ้งกระจายอยู่ใน"ใจของเรา"
2. ฝุ่นละออง 2.5 PM กับ ความฟุ้งซ่าน ต่างก็มีสาเหตุมาจาก “การสะสม” เหมือนกัน
ต่างกันตรงที่
ฝุ่นละออง 2.5 PM… มีสาเหตุมาจากการสะสมของ"ฝุ่นละออง"ในอากาศที่เพิ่มขึ้น เกิดจาก
เดิมพื้นที่นั้นเป็นแหล่งกำเนิดทางมลพิษตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งมลพิษเหล่านี้มาจากยานพาหนะ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ เช่น การก่อสร้างจำนวนมาก การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆที่ปล่อยควันไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น บวกกับสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น เมื่ออากาศเย็นเจอเข้ากับอากาศร้อน ทำให้เกิดภาวะ
ที่สภาพอากาศนิ่ง ลมไม่พัด ประกอบกับมีหมอก ทำให้ไม่มีการหมุนเวียนของอากาศ จึงเกิดการสะสมของฝุ่นละอองที่เพิ่มขึ้นในที่สุด
ส่วนความฟุ้งซ่าน…. เกิดจากการสะสม"ความไม่รู้สึกตัว ใจลอย ขาดสติ" ทำให้ความคิดซัดส่ายไหลไปในตามอารมณ์ต่างๆที่เข้ามากระทบได้อย่างง่ายดาย
3. ฝุ่นละออง 2.5 PM กับ ความฟุ้งซ่าน ต่างก็ “ทำให้เกิดอันตราย” ได้เหมือนกันทั้งคู่
ต่างกันตรงที่
ฝุ่นละออง 2.5 PM …จะทำให้เกิดอันตรายต่อ"ร่างกาย"
เนื่องจากเป็นฝุ่นที่มีอนุภาคที่เล็กมากๆ ทำให้มันสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมทั้งสมอง และหัวใจ ทำให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคทางทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และโรคทางสมอง เป็นต้น
ส่วนความฟุ้งซ่าน…จะทำให้เกิดอันตรายต่อ"จิตใจ"
กล่าวคือ เมื่อเราฟุ้งไปในอารมณ์ต่างๆ หลงคิดไปในเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามา จิตใจของเราก็จะโซเซซัดส่ายอย่างไม่มีจุดหมาย ไม่มีที่ยึดเหนี่ยว สุดท้ายก็นำมาซึ่งความทุกข์ในที่สุด
4. ฝุ่นละออง 2.5 PM และความฟุ้งซ่าน ต่างก็
“วิธีในการป้องกัน” เหมือนกัน
ต่างกันตรงที่
ี่วิธีการป้องกันฝุ่นละออง 2.5 PM นั้น…ก็คือ
การใส่หน้ากาก "N95"
ส่วนวิธีการป้องกันความฟุ้งซ่าน…ก็คือ
การใส่หน้ากากแห่ง"สติ"
เนื่องจากหากเรามีสติคอยรู้ทันจิตที่ฟุ้งซ่าน รู้ทันใจที่ไหลไปในอารมณ์ต่างๆ จิตของเราก็จะตั้งมั่นตื่นขึ้นมาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ไม่ใช่ผู้คิด ผู้นึก ผู้ปรุง ผู้แต่ง ส่งผลให้เกิดสมาธิที่ดี ซึ่งมีความสำคัญในการเจริญปัญญาต่อไป
เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า"ฝุ่นละอองของความฟุ้งซ่านนั้น" มีสาเหตุมาจาก "การสะสมของมลพิษแห่งความไม่รู้สึกตัว ใจลอย ขาดสติ" ทำให้ความคิดซัดส่ายไหลไปในตามอารมณ์ต่างๆที่เข้ามากระทบได้อย่างง่ายดาย จนทำให ้"เกิดอันตรายต่อจิตใจ" คือเกิดความทุกข์ตามมาในที่สุด
เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว...เราก็ควรเรียนรู้ "วิธีการป้องกัน"ไม่ให้สิ่งเหล่านี้มากระทบจิตใจของเรา โดยการหมั่น"สวมหน้ากากแห่งสติ"บ่อยๆ
เพราะ การมีสติรู้เท่าทัน "ฝุ่นละอองแห่งความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้น" จะทำให้จิตของเราตั้งมั่นขึ้นมาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบานในที่สุด
เขียนโดยเพจ "ชอบธรรม..คำสอน"
อนุโมทนากับท่านผู้อ่านทุกท่าน
cr pixabay.com
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
