17 ก.พ. 2019 เวลา 04:00 • กีฬา
เสื้อคนละสีก็ไม่มีพี่น้อง (ตอน1)
ปลายปี 1998 ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ประกาศออกสื่อว่าจบฤดูกาลจะเปิดหมวกลา แมนฯยูไนเต็ด แน่นอน
ทันทีที่ รูเน่ เฮาเก้ เอเยนต์ชาวนอร์เวย์ที่ดูแลอยู่ได้ยินเข้า ก็รีบต่อสายมาหา ชไมเคิ่ล ก่อนจะตวาดดุด่าด้วยศัพท์ที่หยาบคาย ประมาณว่าโคตรงี่เง่า เพราะไม่มีใครปฎิเสธปีศาจแดงเป็นอันขาด
นายด่านเกรตเดนส์เชื่อว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้เอเยนต์รายนี้ฉุนเฉียว หัวฟัดหัวเหวี่ยงย่อมหนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ เพราะรับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซนต์จากรายได้นักเตะอยู่แล้ว
พอ เฮาเก้ วางหูโทรศัพท์โครมใหญ่ใส่แบบไม่ให้เกียรติกัน ชไมเคิ่ล ก็สัญญากับตัวเองทันทีว่า นับจากนี้จะปลดออกจากเอเยนต์ทันที
คล้อยหลังสองสามวันเอเยนต์รายนี้ เสี่ยงอ่อยโทรกลับมาอีกครั้ง แต่เที่ยวนี้ผู้รักษาประตูร่างยักษ์ไม่สนใจคุยอีกต่อไป เพราะทุกอย่างถูกตัดสินไปแล้ว
ไม่นาน พอล สเตรทฟอร์ท เอเยนต์ชั้นนำซึ่งดูแลแข้งอังกฤษชื่อดังหลายต่อหลายคน เข้ามาเสียบดูแลแทน
กระบวนการหาต้นสังกัดใหม่จึงเริ่มขึ้น โดยมีโจทย์ตามที่ ชไมเคิ่ล ต้องการ
เหตุผลที่อยากจะย้าย เขาไม่เคยปิดบังเลยว่าเอือมระอาสภาพอากาศอันขมุกขมัว ฟ้าปิดฝนตกปรอยๆทั้งวันของแมนเชสเตอร์เหลือเกิน
อีกทั้งยังต้องเจอเกมอันหนักหน่วงโหดเหี้ยม 2 นัดต่อสัปดาห์ตลอดทั้งปี แล้วลีกผู้ดีก็ไม่มีเบรกพักครึ่งซีซั่น ทำให้ ชไมเคิ่ล ต้องการจะเปลี่ยนแปลงถิ่นฐานและเห็นว่าน่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
ประกอบกับเคยไปเข้าแคมป์ทีมชาติเดนมาร์กทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แล้วเกิดประทับใจสถานที่มาก อากาศอันอบอุ่น มีแสงแดดเบาๆโลมเลีย ทะเลสีครามใสแจ๋ว ล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าโหยหาทั้งสิ้น
แรกทีเดียว ชไมเคิ่ล อยากย้ายไป โมนาโก หรือ มาร์กเซย เพราะปลื้มทางใต้ของฝรั่งเศสเป็นทุนอยู่แล้ว แต่พอเสนอตัวไปทางโน้นเฉยๆ ไม่ได้แสดงความต้องการชัดเจน
เช่นเดียวกับสโมสรในอิตาลีหรือสเปนซึ่งพอมีระดับบ้าง ไม่ได้อยู่ในเลเวลล่างๆ ล้วนแต่ไม่ได้มีท่าทีสนใจผู้รักษาประตูที่วัยแตะ 35 ทั้งสิ้น นอกจากค่าจ้าง ชไมเคิ่ล จะสูงลิบแล้ว ยังไม่คุ้มกับการลงทุนในเรื่องระยะเวลาการใช้งานอีกด้วย
มันทำให้ต้องหันกลับมาหา สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรที่จัดอยู่ในโหมดท็อปไฟฟ์ของลีกสูงสุดโปรตุเกส ที่เคยบอกปัดก่อนหน้านี้ไปก่อน
นี่คือเมืองหลวงและมีขนาดใหญ่สุด วางตัวอยู่ทางใต้ติดทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนี่ยน อากาศอุ่นเกือบทั้งปี ชไมเคิ่ล จึงคิดว่าเหมาะสุด แม้จะต้องใช้เวลาการต่อรองค่าจ้างอยู่พอสมควรก็ตาม
นอกจากนี้เกมก็ไม่หนักจนเกินไป ได้เวลาเบรกพักหายใจหายคอกันบ้าง นั่นจะช่วยให้อยู่กับ บานเต้ , แคสเปอร์ และ เซซิเลีย ภรรยาและลูกอีก 2 คนมากยิ่งขึ้น
ยิ่งหลังจากร่วมสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่กับปีศาจแดงด้วยทริปเปิ้ลแชมป์เป็นการส่งท้าย เขาจึงเชื่อเหลือเกินว่านี่คือช่วงเวลาอันเหมาะสมจะกล่าวเซย์กู๊ดบายเหลือเกิน
ชไมเคิ่ล จากไปอย่างตำนาน ทิ้งรอยเวลาอันยิ่งใหญ่ไว้ให้เร้ด อาร์มี่ไว้จำจดระลึกถึง
ตอนนั้นเขาไม่เคยคิดว่าสายลมแห่งชีวิตจะเปลี่ยนทิศทางพาเขากลับมายังอังกฤษอีกครั้งหรอก
ชีวิตที่โปรตุเกสของ ชไมเคิ่ล ไม่มีอะไรหวือหวา เขาสมหวังกับแสงแดดและอากาศอันอบอุ่น ไม่ต้องมาอารมณ์ขุนมัวกับฟ้าฝนที่แมนเชสเตอร์อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามมันนิ่งสงบเงียบ ไร้ความท้าทาย ไม่มีความกระหาย รวมไปถึง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็ยังไม่มีศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นมาเทียบเคียง ปอร์โต้ หรือ เบนฟิก้า ได้เลยในเวลานั้น
สัญญาที่เซ็นไว้ 2 ปี จะหมดลงในฤดูร้อนปี 2001 โดยมีอ็อปชั่นกันเหนียวไว้ 1 ปี ซึ่งทางสโมสรก็ยื่นเสนอมาให้ แต่เขาปฎิเสธ
นอกจากนี้ แคสเปอร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเริ่มโตขึ้นและส่อเค้าให้เห็นว่าจะเดินตามรอยพ่อได้ในการเป็นนายด่านสุดท้าย
ไม่ว่าจะอย่างไรอะคาเดมี่หรือระบบเยาวชนที่โปรตุเกสก็ไม่น่าจะสู้ในอังกฤษได้ หากอยากให้ลูกชายประสบความสำเร็จบนเส้นทางเหมือนตัวเอง จะต้องหาสโมสรใหญ่ในยุโรปไว้คอยเคี่ยวกรำบ่มเพาะ
สายลมแสงแดดไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้สายฝนมัวซัวดูน่าหลงใหลกว่า
ว่าแล้วก็คืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เซ็นสัญญากับ แอสตัน วิลล่า เพียงแค่ 1 ฤดูกาล ท่ามกลางความแคลงใจของใครหลายคน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ แมนฯยูไนเต็ด
ชไมเคิ่ล ก็ให้เหตุผลว่าลูกคือประเด็นหลัก อยากจะให้มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ยังโรงเรียนลูกหนังชั้นยอด เพราะลองจับไปฝึกกับ เอสโตริล สโมสรเล็กๆที่นั่นแล้วดูไม่เวิร์คนัก
เขาอพยพครอบครัวมาอยู่แถวมิดแลนด์ แล้วมัวแต่สาละวนกับการหาโรงเรียนให้ลูกๆ จึงไม่ค่อยมีเวลาเรื่องอะคาเดมี่เท่าไรนัก
พอสัญญาครบเทอม แม้จะมีอ็อปชั่นเสริมให้ขยายต่อไปอีก แต่ ชไมเคิ่ล ไม่สนใจ จนหลายคนเชื่อว่าน่าเลิกราแขวนถุงมืออย่างเป็นเรื่องราวได้ซะที
แต่ ชไมเคิ่ล กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดนั่นคือ เลือกย้ายไปอยู่ แมนฯซิตี้
ทั้งรู้อยู่แล้วว่าเรือใบสีฟ้าคือศัตรูร่วมเมืองของปีศาจแดง แต่กลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ โดยยึดลูกตัวเองก่อน
แมนฯซิตี้ ไม่ใช่ให้สัญญาพ่อแค่คนเดียวเท่านั้น ยังยื่นมาให้ แคสเปอร์ ลูกชายให้มาอยู่ในทีมเยาวชนอีกต่างหาก
เขายอมโดนเร้ด อาร์มี่ตราหน้าว่าเป็นจอมทรยศ แต่ไม่ว่าอย่างไรต้องเลือกสิ่งที่ดีสุดให้กับลูกไว้ก่อน
เพราะตัวเขาต้องเล่นอยู่ที่นั่นและอยากให้ลูกชายอยู่ใกล้หูใกล้ตาเอาไว้ แล้วมันคงเป็นไปได้ยากที่พ่อสังกัดซิตี้ แต่ลูกไปเฝ้าเสาให้เยาวชนของยูไนเต็ด
นักข่าวไปถามเรื่องนี้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ก็ไม่ได้รับความเห็นอะไรนัก โบ้ยเรื่องส่วนตัว คนระดับนี้ย่อมฉลาดในการเลือกตอบอยู่แล้ว เลยเลือกที่จะเลี่ยงดีกว่า
ไม่มีใครรู้ว่าเดอะ เกรตเดนส์มาปรึกษากับ เฟอร์กี้ เรื่องนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคนที่พิโรธโกรธสุดขีดคือ แกรี่ เนวิลล์
ฟิล เนวิลล์ น้องชาย แกรี่ เคยเล่าไว้ว่าพอรู้ข่าว ชไมเคิ่ล ไปเซ็นสัญญากับซิตี้ เขาทั้งประหลาดใจและโมโหระคนกันไป บ่นอุบว่าไม่เข้าใจทำไมถึงทำอย่างนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ
ถ้าเอามาตรฐานความจงรักภักดีของ แกรี่ มาวัดด้วยแล้ว เคสของ ชไมเคิ่ล จึงแตกต่างกันอย่างลิบลับ เทียบกันไม่เห็นฝุ่น
แต่หากมองถึงความจำเป็นบางอย่างแล้ว ชไมเคิ่ล ต้องเลือกลูกไว้ก่อน จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย
มันเป็นความขัดแย้งกันระหว่างเหตุผลที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความรักลูกกับความภักดี ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางมาบรรจบกันได้เลย
แล้วคนอย่าง แกรี่ ที่แค้นนานแค้นทนและเทิดทูน แมนฯยูไนเต็ด ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด มาเจอกับอดีตเพื่อนร่วมทีมทำแบบนี้เข้ามีหรือที่จะอภัยให้กันง่ายๆ
ทั้งที่ความจริงอย่างหนึ่งที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนคือ แกรี่ นับถือ ชไมเคิ่ล มากๆ ตั้งแต่ขึ้นมาจากทีมเยาวชนสู่ชุดใหญ่ใหม่ๆ แล้ว
ด้วยความที่เดอะ เกรตเดนส์ มีบุคลิกที่มุ่งมั่นจริงจัง ทำงานหนักไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นรุ่นพี่ที่ตรงสเป็คในความรู้สึกอย่างมาก
ขนาด เจมี่ คาร์ราเกอร์ ซึ่งภายหลังร่วมเป็นผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เกมทางสกาย สปอร์ตส์ ด้วยกัน ยังเคยเปิดเผยต่อหน้าสาธารณว่า แกรี่ ยกย่องนักเตะสองคนที่ว่าอยู่ในระดับโลก
คนแรกคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ส่วนอีกคนคือ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล นี่แหล่ะ
ถ้าอย่างนั้นหมายความว่า การกระทำของ ชไมเคิ่ล ในปี 2002 ย่อมสร้างความผิดหวังให้กับ แกรี่ แบบดับเบิ้ลเลยทีเดียว
คนอื่นทำยังไม่เท่าไร แต่นี่รุ่นพี่ที่รักนับถือกันมานานนมทำซะเอง มันราวกับว่าถูกตบหน้าฉาดใหญ่จนเลือดกลบปาก
มันก่อให้เกิดเป็นความอาฆาตที่จุกอกฝังแน่นในความรู้สึกเนวิลล์ผู้พี่ยิ่งนัก ถึงขนาดที่ว่าชาตินี้อย่าหวังมาญาติดีกันอีกเลย
พรุ่งนี้มาว่ากันต่ออีกตอนถึงรอยร้าวในสัมพันธ์ระหว่าง แกรี่ เนวิลล์ กับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ครับ
#เสื้อคนละสีก็ไม่มีพี่น้อง 🔴🔵 #1
.
<💓ส่งมอบกำลังใจให้กับ "ผู้เขียน💓>
ช่วยกดไลค์และกดแชร์ ให้ด้วยนะครับ..
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา