17 ก.พ. 2019 เวลา 08:54 • บันเทิง
มอง friend zone แล้วย้อนกลับไปสู่ความทรงจำเมื่อครั้งก่อนใน “เพื่อนสนิท” และ “seasons change”
“ชอบไปแล้วให้เป็นเพื่อนกัน เพื่อนพ่อง.. .ดิ” ย้อนไปสู่ “แกมาทำอะไรเอาตอนนี้” และ “ ไม่ชอบกินผักทำไมไม่บอก”
ในขณะที่ GDH กำลังก้าวไปข้างหน้าและประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง friend zone ซึ่งทำรายได้วันแรกสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น GDH โดยทำรายได้วันแรกไปได้ถึง 14 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพและเชียงใหม่) แต่ในใจของผม (และคงอีกหลายๆคนด้วย) กลับย้อนไปสู่วันเวลาในช่วงแรกๆของ GTH ที่หนังเพื่อนแอบรักเพื่อนอย่างเพื่อนสนิท (2548) และ seasons change (2549) เข้าฉายเป็นครั้งแรก และสำหรับแฟนหนังหลายคนแล้ว ทั้งสองเรื่องถือได้ว่าเป็นความทรงจำที่สวยงามอย่างแท้จริง
ผ่านมาแล้วนานเกิน 10 ปี นับตั้งแต่เพื่อนสนิทและ seasons change เข้าฉาย แต่หนังเพื่อนแอบรักเพื่อนทั้งสองเรื่องนี้ยังเป็นที่จดจำและเป็นที่รักของแฟนหนังจำนวนมาก แม้เนื้อหาและวิธีการเล่าเรื่องจะมีความแตกต่างกันไป รวมถึงฉากหลังที่แตกต่างจากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเพื่อนสนิท ไปเป็น วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ใน seasons change
แต่สิ่งที่หนังสองเรื่องนี้มีเหมือนกันคือการเล่าเรื่องที่สวยงาม เรียบง่าย แต่มีชั้นเชิง การปูพื้นและค่อยๆนำคนดูเข้าไปในใจของตัวละครทำให้เราเชื่อและรู้สึกตามตัวละครหลักได้อย่างไม่ยากนัก และในเวลาสั้นๆ ผู้กำกับทำให้เราหลงรักตัวละครอย่างดากานดาและอ้อมได้อย่างรวดเร็ว หนังไม่ได้ใส่มุกตลกมากมายเหมือนหนังสมัยใหม่แต่กลับทำให้เรายิ้มได้จากความน่ารักเล็กๆน้อยๆของตัวละคร นอกจากนั้นทั้งสองเรื่องนี้ยังสามารถนำความรู้สึกแบบ nostalgia มาให้คนดู ทำให้เราได้นึกย้อนถึงช่วงเวลาหนึ่งและคนๆหนึ่ง ที่ถึงแม้จะผ่านไปนานแล้ว แต่ความทรงจำบางอย่างก็ยังทำให้เราแอบยิ้มบางๆได้ทุกครั้งเมื่อคิดถึงมันขึ้นมา
หนังทั้งสองเรื่องยังพาเราไปสู่ทางเลือกของตัวละครในช่วงท้ายของหนัง (การกลับไปเกาะพะงันของไข่ย้อยและการเลือกที่จะปฏิเสธทุนฮังการีของป้อม) ซึ่งอาจสื่อเป็นนัยถึงความรักที่เติบโตขึ้นตามตัวละคร และการเลือกทางเดินชีวิตโดยใช้เหตุผลมากขึ้นแทนที่จะเป็นการใช้อารมณ์หรือความรักเป็นหลักเพียงอย่างเดียว และผู้กำกับก็ทำได้ดีมากในการนำเราไปสู่บทสรุปของเรื่องราวของทั้งสองตัวละครนี้
คำพูดของดากานดา “แกมาทำอะไรเอาตอนนี้”
และ “ ไม่ชอบกินผักทำไมไม่บอก” ของดาว
ยังคงเป็นที่จดจำและพูดถึงกันมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับผมแล้วฉากที่อ้อมแกล้งลืมร่มเพื่อที่จะได้วิ่งไปกับป้อมใต้ร่มคันเดียวกัน และฉากที่ไข่ย้อยกลับไปพบกับนุ้ยอีกครั้งตอนท้ายเรื่องคือฉากที่ผมชอบที่สุดในหนังสองเรื่องนี้
กลับมาสู่เรื่องราวใน friend zone ซึ่งห่างจากหนังอย่างเพื่อนสนิทถึงเกือบ 14 ปี ในวันนี้ GTH เปลี่ยนแปลงสู่ GDH และกำลังก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยุคสมัยที่เข้าสู่สังคม social เต็มรูปแบบ ซึ่งรสนิยมของผู้บริโภคย่อมเปลี่ยนไปจากเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วพอสมควร แม้ส่วนตัวแล้วผมจะไม่อินเท่าไรนักกับ friend zone แต่เมื่อดูจากทั้งรายได้และเสียงตอบรับของหนัง มันก็แสดงให้เห็นได้ว่า GDH กำลังมาถูกทางแล้ว และผมในฐานะแฟนตัวยงคนหนึ่งของค่ายนี้ก็คงต้องยอมรับ
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคิดถึงหนังเก่าๆประเภทที่ทำให้ประทับใจและพูดถึงมันอยู่แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปี หนังประเภทที่เราอยากหยิบมาดูซ้ำๆและทุกครั้งก็ทำให้เรายิ้มได้อย่างมีความสุข หรือในบางครั้งเพียงแค่คิดถึงมันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา
ผมคิดถึงมันจริงๆครับ GDH...
ปล. รสนิยมและความชอบเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลซึ่งย่อมมีความแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา บทความนี้เป็นเพียงแค่การแชร์มุมมองด้านหนึ่งของผู้เขียนเท่านั้นครับ
ปล2. การแสดงของใบเฟิร์นใน friend zone คือความดีงามและน่าประทับใจมากกก
ขอบคุณสำหรับการอ่านนะครับ
โฆษณา