18 ก.พ. 2019 เวลา 12:04
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเรื่องราวจากยุคพ่อ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาล สู่ยุคลูกชาย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เจ้าของวลี #หนักแผ่นดิน ไล่เรียงเรื่องราวลึกแต่ไม่ลับ ฉบับครอบครัวเลือดข้นคนทหาร...
รสช.รัฐประหารนายกฯ จี้จับชาติชายบนเครื่องบิน
เมื่อเริ่มปี พ.ศ.2534 เป็นต้นมา มรสุมทางการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี ยังคงกลายเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง แม้จะได้มีการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐบาล “ชาติชาย 2” เพื่อปรับปรุงภาพพจน์บางประการของรัฐบาลให้ดีขึ้น แต่ปัญหาหลักๆ ก็ไม่สามารถแก้ไขให้ลุล่วงไปได้แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นดินพอกหางหมูรอวันปะทุอยู่ทุกขณะ
ณ เวลานั้น เกิดข่าวลือรุนแรงว่า จะมีการย้ายนายทหารระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ กระทั่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ตัดสินใจแต่งตั้งให้ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรี (บุคคลที่ถูกจับจ้องจากกองทัพ ณ ขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่ง ความอดทนของกองทัพจากเหตุการณ์ต่างๆ ก็ถึงจุดแตกหัก...
คณะทหารที่เรียกตัวเองว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ภายใต้การนำของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจ๊อด ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ในขณะนั้น) ได้ประกาศยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจากรัฐบาลที่มี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
การยึดอำนาจในครั้งนั้น คณะทหารเข้าควบคุมตัว พล.อ.ชาติชาย และพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม บนเครื่องบินซี 130 ที่สนามบินดอนเมือง ขณะ พล.อ.ชาติชาย กำลังจะนำ พล.อ.อาทิตย์ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง จึงเป็นการยึดอำนาจครั้งแรกที่ใช้วิธีการจี้จับตัวนายกรัฐมนตรีบนเครื่องบิน ขณะที่เครื่องบินกำลังจะขึ้นบิน
2
โดยเหตุผลก่อการหลักๆ คือ พฤติการณ์ฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาล รัฐบาลเป็นเผด็จการทางรัฐสภา และรัฐบาลทำลายสถาบันทางการทหาร แต่การยึดอำนาจในครั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อกันว่า คณะทหารต้องการจะล้างอำนาจพรรคการเมืองและนักการเมืองเลือกตั้งที่เริ่มจะเข้มแข็งขึ้นและมีการใช้เงินทุนมากมาย
ขณะที่ในยุคนั้น พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจ๊อด ถือเป็นนายทหารระดับตำนาน ที่มีสโลแกนประจำตัวว่า "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน"
ไม่กี่ปีถัดมา มีภาพนักธุรกิจคนดังนาม ทักษิณ ชินวัตร ยืนเอามือกุมเป้า โดยมี พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจ๊อด กอดคออย่างเป็นกันเอง และภาพนั้นกลายมาเป็นประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดถึงอีกครั้งช่วงที่ผ่านมา
“ถ้าไม่มีพี่ชายผมคนนี้ ก็ไม่มีวันนี้” คำพูดจากใจ ทักษิณ ชินวัตร ถึง พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจ๊อด เมื่อวันที่ดาวเทียมไทยคมถูกส่งขึ้นสู่ฟ้า (17 ธันวาคม 2536)
ในวันนั้น "ทักษิณ" เชิญสื่อมวลชนและแขกวีไอพีไปเป็นสักขีพยาน หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธาน รสช. แม้ว่า รสช. จะหมดอำนาจ และภาพลักษณ์ของ "บิ๊กจ๊อด" ค่อนข้างติดลบ แต่ "ทักษิณ" ก็ยังเชื้อเชิญ "บิ๊กจ๊อด" ไปร่วมงานและบอกกับคนที่ไปร่วมงานด้วยว่า "ถ้าไม่มี พล.อ.สุนทร ก็ไม่มีวันนี้"
รุ่นลูก เจ้าของวลี หนักแผ่นดิน
กระทั่ง คืนวันผันผ่านมาสู่ยุคลูกชาย “พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” หรือ บิ๊กแดง ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน บุรุษผู้นี้ จบการศึกษาจาก โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ต่อโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 แล้วเข้ารับราชการที่ ศูนย์การบินทหารบก ก่อนโอนย้ายมาอยู่เหล่าทหารราบ ขึ้นเป็นผู้บังคับหน่วยภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ก่อนขยับขึ้นมาตามลำดับชั้น ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าสู่เส้นทาง 5 เสือกองทัพบก และขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีอายุราชการถึงปี 2563
ชื่อของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กแดง นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เคยเห็นฝีไม้ลายมือมาตั้งแต่ช่วงรัฐประหารเมื่อปี 2549 แล้ว โดยขณะนั้น พล.อ.อภิรัชต์ เป็นนายทหารระดับคุมกำลังระดับกองพันที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
1
โดยมีการรายงานว่า คืนวันที่ 19 ก.ย. 2549 พล.อ.อภิรัชต์ เป็นคนบอกฝ่ายนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ว่า “ผมอยู่กับพี่บัง (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ขณะนั้น)” ทำให้กลุ่มของนายทักษิณที่ออกมาเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารต้องยอมจำนน และปล่อยให้ พล.อ.สนธิ ยึดอำนาจในที่สุด
1
ขณะที่ เหตุการณ์ที่สร้างชื่อให้กับ พล.อ.อภิรัชต์ อย่างมากคือ เมื่อปี 2553 ตอนดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.อภิรัชต์ ได้นำกำลังทหารปฏิบัติการยึดคืนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคมที่ จ.ปทุมธานี จากการยึดครองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นผู้นำทหารกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ 28 นายบนดาดฟ้าของอาคารที่ทำการสถานี เพื่อปกป้องสถานีเอาไว้ ก่อนเช้าวันถัดมาจะเจรจาเพื่อเปิดขอทางออกจากอาคารสำเร็จ
ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ เป็นที่พูดถึงไปทั่วทุกหย่อมหญ้ากับวลีที่ว่า “หนักแผ่นดิน” ภายหลังจากที่ พล.อ.อภิรัชต์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการกล่าวพาดพิงถึงกรณีพรรคการเมืองเสนอให้ตัดงบกองทัพและยกเลิกเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่า "ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน"...
1
โฆษณา