19 ก.พ. 2019 เวลา 05:13 • ธุรกิจ
สวัสดีวันพระใหญ่ ก่อนที่ทุกท่านจะเข้าวัดทำบุญกัน...เรามาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนกันก่อน ซึ่งในวันนี้นั้นเนื้อหาที่ SOLs นำมาจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการ (fundamental analysis) กันบ้าง หลังจากที่เราเรียนรู้กราฟแท่งเทียนกันไปพอสมควรแล้ว โดยในวันนี้นั้นจะนำเสนอในหัวข้อ Financial statement ฉบับย่อสุดๆ ย่อแล้วย่ออีก ย่อจนเหลือแค่ slide เดียว...เน้นย้ำนะครับ เนื้อหาในวันนี้จะเป็นแค่ภาพรวมหลักการคร่าวๆเท่านั้นยังจะไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดต่างๆ เพราะงบการเงินแต่ละแบบนั้นสามารถอธิบายกันได้เป็นวันเลยทีเดียว ถ้าจะลงลึกจริงๆ (รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเยอะมาก) เพราะฉะนั้นวันนี้จะเป็นแค่ภาพรวม พอให้ทุกท่านเห็นภาพหน้าที่ความสำคัญของงบการเงินแต่ละประเภทกันก่อนและในครั้งถัดๆไป ถ้ามีโอกาสจะลงรายละเอียดงบแต่ละประเภทครับ...มาเริ่มกันเลยดีกว่า
โดยในวันนี้ขออนุญาตแบ่งเนื้อหาเป็นทั้งหมด 5 หัวข้อหลักครับ ได้แก่
1. งบดุล (Balance Sheet) หรือชื่อใหม่เรียก งบแสดงฐานะทางการเงิน (Statements of Financial Position)
2. งบกำไรขาดทุน (Income statement) หรือชื่อใหม่เรียก งบกำไรขาดทุดเบ็ดเสร็จ (Statements of Comprehensive Income)
3. งบกระแสเงินสด (Statements of Cash Flows)
4. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น (Statements of Changes in Shareholders’ Equity)
5. หมายเหตุประกอบเงินการเงิน (Footnotes to financial statement)
เรามาเริ่มกันที่ส่วนแรกกันเลยครับ...งบดุล (Balance Sheet)
1. งบดุล (Balance Sheet) = งบที่แสดงฐานะทางการเงินของบริษัท ณ วันสิ้นรอบเวลาบัญชี (3 เดือน, 6 เดือน, 9 เดือน, 1ปี) โดยจะประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ สินทรัพย์, หนี้สิ้น, และส่วนของผู้ถือหุ้น และมีสมการที่แสดงถึงความสัมพันธ์ขององค์ประกอบทั้ง 3 สิ่งที่ทุกท่านทราบกันดีก็ คือ การใช้เงินทุนของบริษัท (สินทรัพย์) = แหล่งที่มาของเงินทุนของบริษัท (หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น)นั้นเอง
1.1 สินทรัพย์ (Assets) = ทรัพย์สินที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทได้ ในที่นี้ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) = สินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี คือ เงินสดและเงินฝากธนาคาร, เงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในความต้องการของตลาด, ลูกหนี้การค้า, สินค้าคงเหลือ, และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆ
- สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assests) = สินทรัพย์ที่ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสด (ส่วนใหญ่ > 1 ปี ) คือ เงินลงทุนระยะยาว, และที่ดินอาคารและอุปกรณ์
1.2 หนี้สิน (Liabilities) = ภาระผูกพันที่บริษัทจะต้องรับผิดชอบในอนาคต แบ่งเป็น
- หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities) = หนี้สินระยะสั้นที่บริษัทต้องชำระภายใน 1 ปี คือ เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร, เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย, ส่วนของหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดใน 1 ปี, เงินปันผลค้างจ่าย, ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย, และหนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ
- หนี้สินระยะยาว (Long-Term Liabilities) = หนี้สินที่เป็นภาระผูกพันกับบริษัทที่ต้องชำระหนี้มากกว่า 1 ปี คือ หุ้นกู้. และพันธบัตร
1.3 ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder’s Equity) = เงินลงทุนที่เป็นส่วนของเจ้าของโดยตรง
2. งบกำไรขาดทุน (Income statement) = งบที่แสดงผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง (3 เดือน, 6 เดือน, 9 เดือน, 1 ปี) เพื่อบอกให้ทราบว่ากิจการมีรายได้และค่าใช้จ่ายเท่าไรในช่วงเวลานั้นๆ เพราะฉะนั้น งบกำไรขาดทุนจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ
2.1 รายได้ (Revenues) = รายได้ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประกอบด้วย รายได้จากการขาย และ รายได้อื่นๆ
2.2 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย (Expenses) = ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าเพื่อขาย รวมไปถึงต้นทุนการให้บริการต่างๆและค่าใช้จ่ายอื่นๆในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะฉะนั้นสามารถแบ่งได้เป็น ต้นทุนขาย, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
หลังจากนั้นจะมีการนำรายได้และต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาหักลบกันและลบด้วยดอกเบี้ยจ่าย สุดท้ายจึงจะลบด้วยภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จะต้องจ่าย จากนั้นจะได้ค่าที่เป็นกำไร(ขาดทุน) สุทธิสำหรับงวดนั้นๆออกมา (สำหรับรายละเอียดนั้นครั้งถัดๆไป ถ้ามีโอกาสจะมาอธิบายเพื่มเติมครับ ตรงนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรเลย)
3. งบกระแสเงินสด (Statements of Cash Flows) = งบที่แสดงการได้มาหรือการเปลี่ยนแปลงหรือการใช้ไปของเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดสำหรับงวดระยะเวลาหนึ่ง (3 เดือน, 6 เดือน, 9 เดือน, 1 ปี) งบกระแสเงินสดสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลัก คือ
3.1 กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (Net Cash Flow from Operating Activities: CFO) = เงินสดรับจ่ายจริงสุทธิที่ได้จากการดำเนินการปกติของกิจการในงวดระยะเวลานั้นๆ โดยไม่สนใจรายได้ที่ยังไม่ได้รับเงินและค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้จ่ายเงินในงวดเวลานั้นๆเช่นกัน
- เงินสดไหลเข้า เมื่อเงินสดที่ได้รับ (รายได้) > เงินสดที่จ่ายออก (ค่าใช้จ่าย)
- เงินสดไหลออก เมื่อเงินสดที่ได้รับ (รายได้) < เงินสดที่จ่ายออก (ค่าใช้จ่าย)
3.2 กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุน (Net Cash Flow from Investing Activities: CFI) = เงินสดรับจ่ายจริงสุทธิที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและลงทุนในกิจการอื่นในงวดระยะเวลานั้นๆ
- เงินสดไหลเข้า เมื่อขายสินทรัพย์ถาวร เช่นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์, ขายหนี้หรือเงินลงทุนในกิจการอื่น, เรียกเงินให้กู้ยืมจากกิจการอื่นคืน
- เงินสดไหลออก เมื่อซื้อสินทรัพย์ถาวร เช่นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์, ซื้อหนี้หรือเงินลงทุนในกิจการอื่น, ให้เงินกู้ยืมแก่กิจการอื่น
3.3 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการจัดหาเงิน (Net Cash Flow from Financing Activities: CFF) = เงินสดรับจ่ายจริงสุทธิที่เกิดจ่ายการเปลี่ยนแปลงในส่วนของหนี้สินระยะยาวและส่วนของเจ้าของในงวดเวลานั้นๆ
- เงินสดไหลเข้า เมื่อออกหุ้นทุน, ตราสารหนี้หรือพันธบัตร
- เงินสดไหลออก เมื่อจ่ายปันผล, หนี้สิน
4. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น (Statements of Changes in Shareholders’ Equity) = งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นระหว่างต้นงวดและปลายงวด เปรียบเสมือนเป็นบัญชีเงินฝากของกิจการเพราะเราสามารถดูการเคลื่อนไหวต่างๆของผู้ถือหุ้นได้นั้นเอง
5. หมายเหตุประกอบเงินการเงิน (Footnotes to financial statement) = รายการต่างๆที่แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมและไม่ได้แสดงอยู่ในงบการเงิน เช่น นโยบายการทำบัญชี, เกณฑ์การจัดทำงบการเงิน, ข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ เป็นต้น
ปล. ถ้าใครชอบ รบกวนฝากกดติดตามเพจเป็นกำลังใจให้กันด้วยครับขอบคุณครับ
โฆษณา