ดูฟุตบอลอย่างนักวิเคราะห์เกม
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เซียนอะไรมากมายครับ แต่เห็นเพื่อนๆชอบโพสต์ที่ผมวิเคราะห์กัน ผมเลยจะมาแนะนำวิธีของผมคร่าวๆว่าเวลาผมวิเคราะห์เกมผมทำอย่างไร เรามาเริ่มกันเลยละกันครับ
1. ศึกษาทีมที่เราจะวิเคราะห์
- ก่อนแข่งหนึ่งวันหาอ่านข่าวของทั้งสองทีม ให้มากที่สุด ปัญหาที่ทั้งสองทีมมี ตัวบาดเจ็บ ตัวติดโทษแบน รวมถึงผู้เล่นตัวจริงหรือระบบการเล่นในช่วง 4-5 นัดที่ผ่านมา เพื่อเห็นภาพคร่าวๆถึงระบบการเล่นรวมถึงการจัดตัวของทั้งสองทีม ถ้าเป็นไปได้หาแมตซ์เก่าๆดูเร็วๆหรือดูไฮไลท์ยาวๆด้วยก็จะดีมากเพื่อให้พอเห็นภาพคร่าวๆของทีมที่เราจะเล่น
-ก่อนแข่งหนึ่งชั่วโมงรายชื่อนักเตะจะออก หลังจากเราศึกษาทีมนั้นๆมาแล้ว เราพอจะเดาออกคร่าวๆว่านักเตะแต่ละคนจะยืนตรงไหน ให้ร่างระบบกการเล่นคร่าวๆไว้ ใช้ดินสอได้ก็จะดีเพื่อง่ายต่อการลบถ้าเราเขียนผิด ถ้าเป็นทีมที่เราไม่ค่อยรู้จักให้เราจดเป็นเบอร์แทนชื่อนักเตะจะดูง่ายกว่าเวลาเรานั่งดูเกม
2. ขณะนั่งดูเกม
- สิ่งที่สำคัญเลยที่ผมอยากจะแนะนำก่อนคือ อย่าวิเคราะห์ทีมที่ตัวเองเชียร์ เพราะเราจะพลาดบางจุดไปเวลาเราตื่นเต้น วิธีแก้คือ ดูแบบไม่ต้องคิดอะไร ดูแบบแฟนบอลเชียร์ให้เต็มที่ แล้วค่อยกลับมาดูจริงๆจังๆอีก 1 รอบ
- ถ้าดูทีมที่เราไม่ได้เชียร์อยู่แล้วให้ดูไปแล้วจด time code ไปด้วย เวลาที่เราเห็นสิ่่งที่น่าสนใจ พอเรากลับมาดูรอบสองจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการหาอีกรอบครับ
3. เราต้องดูอะไรในการวิเคราะห์เกม
-ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ฟุตบอลเป็นเกมของช่วงเวลา(Game of Phases) ซึ่งเราสามารถแบ่งช่วงเวลาในเกมฟุตบอลออกมาเป็นช่วงๆหลักๆได้ดังนี้คือ เกมรับ <-> ช่วงเปลี่ยนผ่าน(Transition) <-> เกมรุก
- นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงคือ ระบบการยืน แต่ต้องจำเอาไว้เสมอว่า ระบบการยืน 4-4-2, 4-3-3, หรือ 3-5-2 พวกนี้ไม่มีจริงมันเป็นความเชื่อผิดๆ เพราะความเป็นจริง ไม่มีทีมไหนที่จะเล่นระบบเดียวตลอดทุกช่วงเวลา ระบบการเล่นนั้นเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ทุกๆทีม จะเปลี่ยนระบบการเล่นทุกครั้งเวลาที่เกมเปลี่ยนจากช่วงนึงไปอีกช่วงนึง เช่น เกมรับเล่นระบบนึงช่วง transition เล่นอีกระบบนึง เกมรุกเล่นอีกระบบนึง ฟุตบอลเป็นเกมที่มี dynamicมาก ทุกอย่างเคลื่อนที่ตลอดเวลา
- เราจะเห็นตัวอย่างได้จากแมตซ์รอบรองชนะเลิศคาราบาวคัพระหว่าง สเปอร์สกับเชลซี ว่าถ้าเราไม่เข้าใจคอนเซปตรงนี้เราจะมองเกมพลาดทันที ในแมตซ์นั้นเกมรับ สเปอร์ส จะใช้ ออริเย่เป็นแบ็คขวา แต่พอเกมรุก ออริเยจะเติมขึ้นไปเป็นปีก และ ซิสโซโก้จะขยับถอยลงมาเป็นแบ็คขวาแทน ซึ่งตรงนี้ผู้บรรยายทางช่องที่ถ่ายทอดสดวันนั้นไม่ได้สังเกตุตรงนี้ เลยทำให้ทุกครั้งที่เชลซีโต้กลับไปทางแบ็คขวาของสเปอร์ส ผู้บรรยายจะเรียกซิสโซโก้เป็น ออริเย่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราต้องระวังตรงจุดนี้ให้ดี
- เมื่อเริ่มให้เรารอให้ทีมใดทีมนึงได้บอลและกด Pause เสร็จแล้วให้เรานับจำนัวนนักเตะของแต่ละทีมในแต่ละตำแหน่ง ทำอย่างนี้สลับกันเราจะรู้ว่าแต่ละทีมเล่นระบบอะไรทั้งเวลามีบอลและไม่มีบอล
4. เกมรับเราดูอะไร
-เกมรับถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญต่อทุกๆทีม โดยโค้ชหลายๆคนมักจะใส่แทคติคในเกมรับมากกว่าเกมรุกด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมมักจะดูเกมรับก่อนในการวิเคราะห์แต่ละแมตซ์ครับ ที่เราลองมาดูว่าผมดูอะไรบ้างสำหรับเกมรับ
4.1 Pressing
สิ่งแรกที่ผมจะดูคือการ Pressing ซึ่งในฟุตบอลสมัยใหม่นั่นการ Pressing เป็นสิ่งที่สำคัญระดับต้นๆเลยในเกมรับ คำถามที่ต้องถามเวลาเราจะวิเคราะห์ การ Pressing คือ
- พื้นที่ในการเริ่ม Press? - ทีมเริ่ม press ตรงตำแหน่งไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งหลักๆออกได้เป็น High Block, Medium Block และ Low Block ตามโซนที่ทีมเริ่มเพรส
- Pressing Trigger หรือ จุดเริ่มต้นในการเพรส - Pressing Trigger คือ จุดเริ่มต้นที่ที่จะบอกว่าทีมจะเริ่มเพรส ซึ่งมีได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นอยู่กับทีมจะเลือกใช้แบบไหน เช่น เริ่มเพรสเมื่อคู่ต่อสู้จับบอลไม่ดี เริ่มเพรสเมื่อคู่ต่อสู้หันหน้าเข้าประตูตัวเอง หรือ เริ่มเพรสเมื่อคู่ต่อสู้เข้ามาในโซนที่เรากำหนดเป็นต้น
- Pressing Style รูปแบบการเพรสซิ่ง - รูปแบบการเพรสซิ่งนั้นแบ่งได้อยู่ 3 แบบหลักๆคือ Man to Man Pressing, Zonal Pressing และ Pressing Trap
4.2 การจัดระเบียบเกมรับ- การยืนของทีมเวลาเล่นเกมรับ
-มีนักเตะกี่คนที่ลงมาช่วยเกมรับ
-มีการประกบตัวอย่างไร ใช้การยืนประกบตัวหรือใช้การยืนแบบแบ่งโซน
-ความ compact ในเกมรับทั้งแนวลึกและแนวด้านข้าง
-การ Overload นักเตะของตัวเองในแต่ละพื้นที่ของสนาม
4.3 การเปลี่ยนจากรุกเป็นรับ - อันนี้ถือว่าสำคัญมากเหมือนกัน เราต้องคอยดูว่าเมื่อทีมนั้นๆเสียบอลแล้วจะทำอย่างไร จะเพรสซิ่งเพื่อไล่เอาบอลกลับมาเลยไหม หรือ จะถอยลงมาเพื่อยืนใน shape เกมรับให้ดีไว้ก่อน รวมถึงที่ว่างในแดนตัวเอง เมื่อเสียบอลแล้ว ในเกมรับมีที่ว่างตรงไหนให้คู่ต่อสู้โจมตีได้บ้าง
5. เกมรุก
-เกมรุกสำหรับผมถือว่าสนุกมากในการนั่งดูเพราะรูปแบบการเล่นสามารถเลือกใช้ได้หลากหลายรูปแบบมากทำให้เราจะได้เห็นไอเดียในการทำเกมรุกของแต่ละทีมที่แตกต่างกันไป
5.1 การขึ้นเกม - อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวของผม ผมชอบดูหลายๆทีมขึ้นเกมจากแดนหลังมันแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจใน tactic ของผู้จัดการทีมแต่ละคน บางทีมในเกมๆนึงใช้การขึ้นเกมได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้้นอยู่กับสถานการณ์และการเพรสของคู่ต่อสู้ สิ่งสำคัญที่ต้องดูตอนขึ้นเกมนั้นให้ดูตำแหน่งการยืนของทั้งสองฝ่าย ว่ายืนกันอย่างไร เมื่อบอลเคลื่อนที่ไปตำแหน่งอื่นแล้วนักเตะแต่ละคนเคลื่อนที่ตามอย่างไร
5.2 Shape ในการยืน - อันนี้ถือว่าสำคัญเหมือนกัน เวลาทีมรุกได้บอลให้เราลองดูนักเตะให้ทั่วสนามว่าเขายืนกันอย่างไร อย่ามองแค่นักเตะที่มีบอลอย่างเดียว และให้ลองคิดตามว่าทำไมนักเตะคนนั้นๆถึงไปยืนตรงนั้น ทำไมปีกทีมนี้ถึงไปยืนริมเส้นแต่ปีกอีกทีมหุบเอามายืนด้านใน ลองดูความสัมพันธ์ในการยืนตำแหน่งของนักเตะเทียบกับ ตำแหน่งเพื่อนร่วมทีม ตำแหน่งลูกบอล และตำแหน่งคู่ค่อสู้ นักเตะคนไหนที่มีการเปลี่ยนตำแหน่ง ระหว่าง shape เกมรับและ shape เกมรุก การOverload พื้นที่ของสนามในโซนต่างๆ
5.3 พื้นที่ว่าง = เวลาเล่นเกมรุกผมมักจะมองว่าทีมๆนั้นมีการสร้างพื้นที่ว่างหรือมีการใช้ที่ว่างนั้นๆอย่างไร มีแผนการอย่างไรและได้ผลไหม
5.4 การเปลี่ยนจากรับเป็นรุก - ในช่วงเป็นจากรับเป็นรุกก็สำคัญและมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป เมื่อทีมนั้นๆได้บอลคืนมาจากคู่ต่อสู้แล้วทำอย่างไร จะโต้กลับเลยไหม หรือ จะค่อยๆทำเกมกันขึ้นไป ถ้าโต้กลับเลยบอลจะถูกส่งไปที่ใคร Play maker ปีก หรือ กองหน้าตัวเป้า
นี่เป็นวิธีคร่าวๆที่ผมใช้ในการดูบอลแต่ละแมตซ์นะครับ แน่นอนว่ามันมีรายละเอียดที่เยอะกว่านี้มากมาย แต่อันนี้เป็นวิธีเบื้องต้นที่ใช้สำหรับคนที่อยากจะลองดูบอลให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม ใครมีคำแนะนำอะไรก็เสริมหรือเพิ่มเติมกันได้นะครับ
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
