21 ก.พ. 2019 เวลา 14:43 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กสนใจที่จะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในกระบวนการล็อกอินและการแชร์ข้อมูลต่างๆใน Facebook / แนะนำสารคดีใน Netflix ที่อธิบายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลที่ฟังดูยากให้เข้าใจง่าย
ภาพ: flickr.com
เมื่อเย็นวานนี้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กได้โพสวีดีโอที่น่าสนใจที่เขาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์
หัวข้อสำคัญที่มาร์กพูดถึงคือ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล, การเข้ารหัส, การต่อสู้กับข่าวลวง, นวัตกรรมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และเรื่องที่ facebook วางแผนที่จะวิจัยในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ มาร์กบอกว่าเทคโนโลยี Blockchain สามารถช่วยผู้ใช้งานในการมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของ 3rd party application (เช่น แอปต่างๆที่มีให้ดาวน์โหลดใน App Store หรือ Play Store) ผ่านการเข้ารหัสต่างๆ
ผมขอยกตัวอย่างนิดนึงเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ
เวลาเราใช้แอปพวก Whatsapp หรือ Facebook Messenger แล้วเราพิมพ์ “ข้อความ” ต่างๆส่งไปให้เพื่อนของเรา บางทีข้อความเหล่านั้นอาจเป็นความลับสำคัญของบริษัท หรือเป็นความลับส่วนตัวของคุณเอง หรือความลับของรัฐบาล (กรณีที่คุณทำงานให้รัฐบาล) ซึ่งหากทางผู้พัฒนาแอปเหล่านี้ไม่มีกระบวนการในการเข้ารหัสข้อความเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็จะสามารถใช้วิธีต่างๆในการแฮกเข้ามาแอบดูข้อความพวกนี้ของคุณได้ครับ
มาร์กจึงสนใจที่จะใช้เทคโนโลยี Blockchain มาช่วยเข้ารหัสข้อความต่างๆเหล่านี้
มาถึงตอนนี้ ผมขอแนะนำสารคดีใน Netlfix ที่อธิบายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลครับ
สารคดีนี้มีชื่อว่า “explained” (ซีซั่นที่1 Episode5 ที่มีชื่อตอนว่า “Cryptocurrency”)​
ภาพ: cryptoglobe.com
สารคดี ep นี้มีความยาวแค่14นาที แต่สามารถอธิบายเรื่องที่ฟังดูยากอย่าง Cryptocurrency ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
โดยปกติสกุลเงินดิจิตอลที่เราคุ้นชื่อมากที่สุดคือ “Bitcoin (BTC)” ซึ่งปัจจุบันสกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้ใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยในการทำรายการต่างๆทางการเงิน เช่น ใช้โอนเงินดิจิตอลเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆได้
ก่อนจะจากกันไป ผมคิดว่าการนำเทคโนโลยี Blockchain มาช่วยในอนาคตน่าจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเพราะความปลอดภัยของข้อมูลของเราน่าจะมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วง8ปีที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการแฮกบิตคอยน์เกิดขึ้นหลายกรณี ผมจึงชักไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยี Blockchain นั้นปลอดภัยจริงอย่างที่ Mark พูดหรือไม่ เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า Mark จะนำ Blockchain มาใช้ใน Facebook อย่างไรบ้างครับ
ติดตาม​ Netflix Addict จากช่องทางอื่นและแวะมาพูดคุยกันได้ที่​ Facebook: https://www.facebook.com/netflixaddict1
โฆษณา