Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ
•
ติดตาม
22 ก.พ. 2019 เวลา 15:25 • ธุรกิจ
12 ช่องทางฝ่าวิกฤตขาดสภาพคล่องการเงิน
โดย อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์ "ขาดเงินเหมือนขาดใจ"
“การขาดสภาพคล่องทางการเงิน” หรือขาดเงินสดหมุนเวียนเพื่อการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน เป็นปัญหายอดฮิตที่พบเจอกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการในรูปองค์กรธุรกิจ หรือการดำเนินชีวิตของบุคคลธรรมดาทั่วไป
ซึ่งในทางการเงินแล้ว ถือเป็นปัญหาสำคัญที่สุด ที่ต้องระมัดระวังและให้ความสนใจอย่างยิ่งยวด
ที่เป็นเช่นนี้เพราะธุรกิจแม้มีกำไร หรือคนรวยมากแค่ไหน หากเกิดขาดเงินสดขึ้นมาเมื่อไหร่ และแก้ไม่ได้ทันท่วงที อาจถึงขั้นพังหรือล้มตายลงได้ ในทันที ไม่ต้องรอให้ขาดทุนอ่วม หรือถูกฟ้องล้มละลายเสียก่อนแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้เอง “สภาพคล่องทางการเงิน (Financial Liquidity)” นี้จึงแทบไม่ต่างอะไรกับเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงให้สิ่งมีชีวิต มีชีวิตอยู่ได้นั่นเอง
สำหรับการบริหารจัดการสภาพคล่อง รวมถึงแนวทางฝ่าวิกฤต ในส่วนของบุคคลธรรมดา โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการบริหารจัดการสภาพคล่องในส่วนของบริษัท กล่าวคือมีแนวทางที่อาจนำไปใช้ปฏิบัติได้ดังนี้
1.ทำงบประมาณล่วงหน้าและบันทึกบัญชี ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุด ที่จะช่วยควบคุมรายรับ และรายจ่ายไม่ให้มีปัญหา ทั้งนี้หลักคิดง่ายๆ ในการทำงบประมาณ จะเริ่มจากประมาณการรายรับที่พึงได้ในอนาคตออกมาเป็นลำดับแรกก่อน จากนั้นจึงค่อยนำมาจัดสรรให้เป็นรายจ่ายแต่ละประเภท เพื่อนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการควบคุมอีกชั้น ด้วยการทำบัญชี บันทึกรายรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงๆ
2.เพิ่มช่องทางหารายได้ ทำได้ ด้วยการหาอาชีพอื่นเสริม เป็นอาชีพที่สอง ที่สาม หรือหางานพิเศษทำเพิ่มเติม คนส่วนใหญ่มักพึ่งพิงช่องทางรายได้เพียงช่องทางเดียว ทำให้ชีวิตแขวนหรือผูกกับงานที่ทำอยู่เพียงเท่านั้น เมื่องานเกิดสะดุดขึ้นมา ก็มักจะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องขึ้นในที่สุด
3.ลดและควบคุมค่าใช้จ่าย วิธีง่ายๆ ทำได้โดยแยกค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือค่าใช้จ่ายจำเป็น อีกกลุ่มเป็นค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น จากนั้นให้ลองหาหนทางลดค่าใช้จ่ายจำเป็นลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ให้พยายามลดหรือจำกัดให้เหลือน้อยที่สุด หากสามารถตัดจนเหลือศูนย์ได้เลย จะดีที่สุด
4.จับจ่ายใช้สอยอย่างชาญฉลาด โดยเปลี่ยนแหล่งช็อปปิ้งใหม่ ไปยังแหล่งที่สามารถซื้อได้ถูกกว่า และต่อรองราคาได้ เช่นเปลี่ยนจากห้าง มาเป็นตลาดสดหรือตลาดนัดแทน และถือคติว่าถ้าไม่ได้ส่วนลดจะไม่ซื้ออย่างเด็ดขาด
5.เตรียมแหล่งเงินทุนระยะสั้นไว้ แหล่งเงินทุนระยะสั้นที่ควรต้องเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ ได้แก่ บัตรเครดิต และโอดี(O/D) ภายใต้ข้อแม้ที่ว่าวงเงินนี้ จะต้องคงอยู่เสมอ เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น
1
6.ลดภาระหนี้ผ่อนซื้อสินทรัพย์ให้น้อยลง โดยเฉพาะบ้าน คอนโดฯ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงมือถือ ควรพิจารณาซื้อในขนาดและสเป็คที่พอเหมาะ ตามความจำเป็นต้องใช้เท่านั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดงบซื้อลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลให้ภาระผ่อนรายเดือนลดลงได้
7.รีไฟแนนซ์เงินกู้ที่มีอยู่ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถลดภาระผ่อนชำระรายเดือนลงได้ค่อนข้างดี ทั้งนี้รีไฟแนนซ์ สามารถทำได้หลายลักษณะ เช่นเปลี่ยนไปกู้ที่ใหม่ที่อัตราดอกเบี้ยถูกกว่า ขอยืดระยะเวลาการกู้ยืม หรืออาจเปลี่ยนไปกู้สินเชื่อชนิดใหม่ที่เงื่อนไขการผ่อนชำระดีกว่า เป็นต้น
8.ทวงเงินจากลูกหนี้ให้เร็วขึ้นและหลีกเลี่ยงให้ผู้อื่นยืมเงิน เนื่องจากปัญหาการขาดสภาพคล่องส่วนใหญ่ มัก มาจากปัญหาการให้คนอื่นยืมเงิน แต่ไม่สามารถทวงกลับคืนมาได้ ในเวลาที่ตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้
9.ชำระหนี้ให้ช้าลง โดยเจรจาขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ หรือใช้สิทธิชำระให้ยาวนานที่สุด โดยต้องไม่ทำให้เสียเครดิตของตัวเอง และต้องคำนึงถึงส่วนลดที่จะได้ไปพร้อมๆ กันด้วย สำหรับหลักคิดการเงินพื้นฐานในเรื่องการชำหนี้ ก็คือระยะเวลาจ่ายหนี้อย่างน้อยควรจะต้องยาวนานกว่าระยะเวลาที่เรียกเก็บเงินได้จากลูกหนี้
10.กู้ยืมมาใช้จ่ายอย่างเหมาะสม กล่าวคือหนี้สินระยะสั้น ควรใช้เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ระยะสั้น หรือสินทรัพย์หมุนเวียนเท่านั้น ไม่ควรกู้มาเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว
11.เปลี่ยนถือครองทรัพย์สินที่ไม่มีสภาพคล่องมาเป็นชนิดที่มีสภาพคล่องแทน ทรัพย์สินกลุ่มที่มักเป็นปัญหาอยู่เสมอ ก็คือทรัพย์สินสะสมส่วนตัว รวมถึงทรัพย์สินเพื่อการลงทุน แนวคิดการจัดการสภาพคล่องที่แยบยลที่สุด ก็คือให้เลี่ยงถือครองอสังหาฯ เพราะมีสภาพคล่องต่ำ แต่ให้เปลี่ยนมาถือครองเป็นทองคำ หุ้น หรือหน่วยลงทุนแทน
12.ขจัดทรัพย์สินส่วนตัวที่ไม่จำเป็นออก และเปลี่ยนให้มาเป็นเงินสด มีคนจำนวนมาก ที่เงินทองมักจมอยู่กับทรัพย์สินส่วนตัวที่เป็นของรัก ของหวง ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้มักมีสภาพคล่องต่ำมาก เวลารีบขายขึ้นมาเมื่อไหร่ มักขายไม่ได้ราคา ดังนั้นหากใครมีทรัพย์สินเหล่านี้อยู่กับตัวมากๆ แนวทางที่ดีที่สุด ควรตัดใจ และหาทางขายหรือเปลี่ยนทรัพย์เหล่านี้ให้เป็นเงินสด หรือทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด
บันทึก
4
1
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย