23 ก.พ. 2019 เวลา 10:44 • ประวัติศาสตร์
เราเรียนรู้อะไรจาก Karl Lagerfeld?
(ตอนที่​1)
Cr.รูป​ http://fashion.telegraph.co.uk
ตำนานสุดยอดดีไซเนอร์ Karl Lagerfeld นักออกแบบผู้มีอิทธิพลและมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 21
...
ได้จากไป​
ด้วยวัย 85 ปี
งานออกแบบของเขาก้าวข้ามเวลา
เขาไม่ได้สร้างเทรนด์ แต่เขาคือเทรนด์
เราจะเรียนรู้อะไรจากชีวิตและการทำงานของเขาได้บ้าง...
1.พิสูจน์ตัวเองจากผลงานและความพยายาม
Cr.รูป​https://fashionelite.com
“ผมเกลียดการเป็นเด็ก มันน่าอาย ผมไม่อยากเป็นเด็ก พวกผู้ใหญ่มองผ่านผมไป เด็กๆเดี๋ยวนี้เป็นจุดสนใจของผู้ใหญ่ตลอด แต่ในสมัยที่ผมเป็นเด็ก ผมต้องพยามอย่างมากเพื่อจะแตกต่างจากคนอื่น”
คาร์ลเกิดในครอบครัวที่มีฐานะมั่งคั่ง พ่อของเขาทำธุรกิจผลิตนมรายใหญ่ในเยอรมนี
ชีวิตวัยเด็กของเขาสะดวกสบาย
แต่เขาก็อยากได้รับการยอมรับในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง ไม่อยากเป็นแค่เด็กธรรมดา
เมื่ออายุเพียง 6 ขวบ คาร์ลพูดได้ 3 ภาษา... ภาษาเยอรมัน อังกฤษ และฝรั่งเศส ส่งผลให้โลกทัศน์เปิดกว้าง เรียนรู้ทางความคิดใหม่ๆในเวลาต่อมา และตลอดชีวิตของเขา
Cr.รูป​https://www.wmagazine.com
ในปี 1955 คาร์ลเริ่มต้นก้าวสู่วงการแฟชั่นดีไซเนอร์ แข่งขันออกแบบเสื้อโค้ท จัดโดย International Wool Secretariat
คาร์ลชนะการแข่งขันและกลายเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งกับ Yves Saint Laurent
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการว่าจ้างจาก Pierre Balmain ทำงานเป็นผู้ช่วยและต่อมาฝึกงานเป็นเวลาสามปี
ในปี 1958 คาร์ลรับหน้าที่ผู้กำกับศิลป์ของ Jean Patou เขาไปที่กรุงโรมเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะและทำงานให้กับ Tiziano ในปี 1964
จากนั้นคาร์ลก็เบนเข็มไปเป็นดีไซเนอร์อิสระให้กับแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chloé, Charles Jourdan, Krizia และ Valentino
Cr.​รูป http://www.cafleurebon.com
จุดพลิกผันอีกครั้งในชีวิตของเขาคือ ใช่วงปี 1980 คาร์ลได้รับการว่าจ้างจากชาแนล
นับตั้งแต่การจากไป Coco Chanel ในวงการแฟชั่นขณะนั้นทุกคนต่างพยายามห้ามเขาไม่ให้รับงานนี้
เพราะมองว่าแบรนด์ Chanel เป็น "แบรนด์ใกล้ตาย"
คาร์ลกลับมองว่าเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เขาเข้ามาชุบชีวิตChanel ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จนกระทั่งปัจจุบัน
Cr.รูป​ https://www.crfashionbook.com
2.ยอมรับในตัวตน และเป็นตัวเองเต็มที่
"I'm very much down to earth, just not this earth"....
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ครอบครัวของคาร์ลอพยพออกไปอยู่นอกเมืองเพื่อความปลอดภัย คาร์ลเคยพยามยามเรียนเปียโนเพื่อเอาใจแม่แต่
แต่แม่ก็ทนกับเสียงเปียโนของเขาไม่ไหว ปิดฝาเปียโนกระแทกนิ้วเขา
บอกว่า “ ลูกชอบวาดรูปไม่ใช่เหรอ ไปวาดรูปดีกว่าไหม อย่างน้อยก็ไม่หนวกหู”
Cr.รูปhttps://www.hollywoodreporter.com
จากนั้นคาร์ลเลยวาดรูป เขาวาดรูปตลอดเวลา ไม่สนใจอย่างอื่น ไม่เล่นกับเด็กๆด้วยกัน แม่เข้าใจในตัวตนของเขาในแบบที่เขาเป็น ปล่อยให้ทำในสิ่งที่อยากทำ
แม่ของคาร์ลเป็นคนเจ้าระเบียบแต่ก็ปล่อยให้ลูกชายทำในสิ่งที่ชอบ และคอยสนับสนุนอยู่เสมอ คาร์ลพูดถึงแม่บ่อยครั้ง เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลในชีวิตของเขา
“แม่ไม่เคยชมผม เรื่องความสำเร็จใดๆ ไม่เคยไปดูโชว์ของผมสักครั้งด้วยซ้ำ”
คาร์ลออกแบบลุคตัวเองตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก “ผมไม่อยากเหมือนเด็กๆคนอื่น” เพื่อนๆของคาร์ลรับรู้ถึงความพิเศษไม่เหมือนใครของเขา คาร์ลแต่งตัวไม่เหมือนใคร ไว้ผมยาวที่สุดเมื่อเทียบกับเด็กผู้ชายด้วยกันในชั้นเรียน
คาร์ลจำได้แม่นว่าครั้งนึงเคยมีคนรู้จัก ทักทายเขากับแม่ระหว่างที่กำลังเดินกันอยู่ริมถนน และบอกให้แม่ตัดผมเขาให้สั้นเหมือนเด็กคนอื่นๆ
แม่ของคาร์ลกระชากคอเสื้อของคนนั้น “ทำไม! เธอยังเป็นนาซีอยู่อีกเหรอ”
เมื่อคาร์ลตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ตอนอายุแค่ 17 ปี เพื่อทำตามความฝันที่อยากเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์
คนรอบข้างรอบเตือนแม่ของคาร์ลว่าลูกชายชักจะเสียสติฟั่นเฟือนไปแล้ว
แต่แม่ของเขากลับตอบว่า
“คนเราก็มีบ้างที่เสียสติหลงทางไป แต่ไม่ใช่คาร์ล ลูกฉันเขารู้ตัวดีว่าเขาต้องการอะไร”
Cr.รูป​ https://lifeofcloud.net
เขาจึงมีโอกาสเป็นตัวเอง และซื่อสัตย์กับการเป็นตัวเอง ไม่แคร์ว่าจะโดนใครเกลียด เพราะบางครั้งเขาพูดและทำอย่างที่ใจคิดเสมอมา
Cr.​รูปhttps://www.telegraph.co.uk
To​ be​ continued​ 😘
โฆษณา