โหงว ห้าพลัง
"โหงว ห้าพลัง"เป็นนักเล่นธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่เรื่องใจถือว่าใช้ได้ และมีสัญชาตญาณนักเลงโดยสันดาน โหงวเป็นนักเล่นที่กล้าได้กล้าเสีย และมีเครดิตดีมากในระยะแรกๆที่เข้าสู่วงการ
การเป็นนักพนันอาชีพของโหงวนั้น เพื่อนเล่นทุกอย่างที่เป็นเกมหนักๆ ไม่ว่าจะเป็น บัคคารา,ม้า,มวย เหตุนี้ โหงว ห้าพลัง หรือชื่อจริงว่า #นายชัยวัฒน์_พลังวัฒนกิจ จึงตั้งค่ายมวย"ห้าพลัง" ขึ้น และมีมวยตัวดีๆและค่าตัวสูงหลายคน
โหงวรู้จักกับเฮียเหลามานานพอสมควร ในฐานะนักเล่น และเป็นเจ้าของค่ายมวยมีชื่อค่ายหนึ่ง วิถีทางจรซึ่งจำเป็นต้องมีสัมพันธ์กัน ทำให้โหงวสนิทสนมกับเฮียเหลา เข้าขั้นลึกซึ้ง ประกอบกับโหงวเป็นคนปากหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นที่ถูกอัธยาศัยของเฮียเหลา โหงวจึงมีสิทธิ์เดินตีคู่กับ"เฮีย ผู้มีแต่ให้"เกือบทุกแห่ง
โดยเฉพาะในยามราตรี ซึ่งเฮียมีรสนิยมในดนตรีและเสียงเพลง แวดล้อมด้วยผู้หญิงสวยมีระดับ โหงว ห้าพลัง จะอยู่ร่วมรสนิยมอันสุนทรีย์ด้วยเสมอ
และเมื่อใดที่เฮีย บินข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปวัดดวงต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น มาเก๊า,ลาสเวกัส,ออสเตเรีย โหงวก็จะตามไป ได้-เสีย ด้วยกันเสมอ แต่มักสร้างความอึดอัดให้เฮียบ่อยๆ เนื่องจากโหงวถูกบ่อนดูดเงินไปจนเกลี้ยง ต้องขออาศัย "เครดิตเฮีย"แก้ตัว กลับมากรุงเทพฯ แล้วกว่าจะวิ่งหาเงินมาคืน ก็ต้องใช้เวลาหลายขยัก จนเป็นที่น่าเบื่อหน่าย
โหงว ห้าพลัง เพิ่มระดับตัวเองขึ้นชั้นเป็นนายบ่อนบ้าง โดยเปิดบ่อนที่สหกรราชรถ เชิงสะพานปิ่นเกล้า กิจการไปได้สวย ทำให้โหงวมีฐานอำนาจด้านการเงินเข้มแข็งขึ้น พร้อมกันนั้น โหงวก็เริ่มสะสม บริวารมือปืนคุ้มกัน ตามแบบอย่างเจ้าพ่อ
ขณะเดียวกัน โหงวสามารถผลักดันตัวเอง ก้าวเข้าไปมีบทบาทในวงการมวย ถึงระดับนายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย
แต่เหลายังคงรักษามาดสุขุมลุ่มลึกเช่นเดิม ไม่มีใครอ่านใจเขาออก ว่ามีความคิดอย่างไรต่อ โหงว ห้าพลัง ซึ่งมีมือปืน นักฆ่าเข้ามาร่วมอาศัยบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เจ้าพ่อ ผู้นั่งอยู่ในเงามืด ย่อมพิจารณาออกว่า บนเวทีสีเลือดเวทีนี้ นักแสดงกำลังเข้าถึงบทบาทของตนอย่างไร
ช่วงระยะหลังๆซึ่ง โหงว ห้าพลัง ปรากฏกายที่ใด จะมี"มือปืน"คุ้มกันรอบทิศ ทำให้บารมีเรืองโรจน์มากขึ้น แต่ดวงด้านการพนันของเขากลับอับแสง ทำให้โหงว เสียแหลกลาญ จนหมุนเงินแทบไม่ทัน ช่วงนี้แหละที่โหงว เล่นบ่อนไหนเป็นติด ที่บ่อนนั้น และโหงวก็เบี้ยวมันทุกบ่อน ถึงขั้นบ่อนใหญ่เช่น "ปอ ประตูน้ำ" กับ "ชัช เตาปูน" ห้ามโหงวเข้ามาเล่น เว้นแต่จะเคลียร์หนี้เก่า หมดเสียก่อน
ว่ากันว่าโหงว เป็นหนี้บ่อนต่างๆหลายสิบล้าน
น่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ หาก โหงว ห้าพลัง ไม่เติบใหญ่จนมีบารมีแก่กล้า เขาจะเป็นที่เกรงใจของนายบ่อนต่างๆ ถึงขั้นให้โหงวติดหนี้มากมายขนาดนั้นได้หรือ และการเป็นหนี้อย่างมหาศาลเช่นนั้น โหงวจะหาเงินมาใช้หนี้ได้หมดตามกำหนดเวลาที่สัญญากับนายบ่อนต่างๆเอาไว้ได้อย่างไร หากเขาไม่ทะยานขึ้นสู่จุดสุดยอดเสียเอง
เพราะโหงว ห้าพลัง สามารถยืนอยู่ในตำแหน่งเจ้าพ่อเมื่อไหร่ หนี้สินเพียงเท่านี้จะกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปทันที พร้อมกันนั้นผลประโยชน์ก้อนมหึมาก็จะไหลมาเทมา
#ว่ากันว่าโหงว_ห้าพลังไม่อยากขี่หลังเสือ_ก็ต้องขึ้นขี่เพราะไม่มีทางเลือกเป็นอื่น
บทบาทที่โหงว ห้าพลัง แสดงออกถึงความทะเยอทะยานอย่างเงียบเชียบก็คือ เมื่อครั้งที่ตี๋ ปลาหมึก ยังมีชีวิตอยู่ และถึงภาวะจนตรอก เนื่องจากเจ้าพ่อ เปิดไฟเขียว บีบให้ตี๋ ปลาหมึก ไปไหนไม่รอด อย่างข่าววงในระบุว่าตี๋คิดจะหักกับเจ้าพ่อ แบบตายเป็นตาย และโหงวคนนี้แหละ ได้ส่งมือปืนไปสนับสนุนตี๋ ปลาหมึก อย่างลับๆ แต่ตี๋ ปลาหมึก อ่อนชั้นเกินไป จึงต้องดับดิ้นอย่างน่าอนาถ...
คราวนั้น โหงว ห้าพลัง กลัวว่า เจ้าพ่อ จะอ่านไพ่ของตนเองถูก ถึงกับวิ่งเข้าหาเจ้าพ่อ พรรณนา ว่าตนเองกับมือปืน ซึ่งย้ายไปเป็นกำลังรบของ ตี๋ ปลาหมึก นั้น เนื่องจากตนหมดกำลังอุ้มชู มิใช่ส่งไปให้ตี๋โดยตรง ถ้อยคำของโหงว เท่ากับเป็นการสารภาพเบื้องหลัง เบื้องลึกกรายๆ แต่เจ้าพ่อนิ่งเฉยและเยือกเย็นเช่นเดิม ไม่แสดงท่าทีใดๆออกมา ทำให้โหงวโล่งอกไปได้
อีกครั้งหนึ่ง ที่โหงว ห้าพลัง แสดงความไม่ยำเกรงเจ้าพ่อ ออกมาอย่างชัดเจน ก็คือในวันชกชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนโลกระหว่าง เขาทราย แกแล็คซี่ ผู้เป็นแชมป์ กับ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ผู้ท้าชิง หลังจากการชกจบสิ้นไปแล้ว ผลของการตัดสิน ให้เขาทรายเป็นผู้ชนะคะแนน
เท่านั้นแหละ โหงว ห้าพลัง ซึ่งให้ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ เป็นต่อ และรับ"รอง"เอาไว้เพียบ ก็โดดผางขึ้นเวทีประท้วง กล่าวหาว่าการตัดสินไม่ยุติธรรม "เจ้าพ่อ"ซึ่งอยู่บนเวทีพยายามห้ามปรามและเตือนสติ แต่โหงวกลับแสดงกิริยาดุจหมดเกรงต่อหน้าสาธารณะชน เพราะความหน้ามืดที่เสียเงิน ต่อ-รอง หลายล้านบาท
งานนี้ทุกคนที่เห็นเฮียเหลายิ้มเย็นเยือก ต่างบังเกิดความหนาวใจกันถ้วนหน้า!!
หลังจากสำแดงความอหังการ์ เพราะขาดสติเนื่องจาก เสียพนันมวย แทบกระอัก โหงว ห้าพลัง จึงคิดได้ รีบไปขอโทษขอโพยเฮียเหลา ด้วยวาทะสำนึกผิดอันซึ้งหู
โหงว อาจมีชีวิตยืนยาวอีกต่อไป หากไม่ไปหักเหลี่ยมกับ ซิตี๋ ในบ่อนถึงขั้นระเบิดวาจาหยามหมิ่นซึ่งๆหน้าว่า "มึงมันนักเลงขี้ยา ไม่มีน้ำยาหรอกว่ะ..."
ซิตี๋"ในวันนี้ ไม่ใช่นักเลงข้างถนน เขาเป็นผู้จัดการค่ายมวย "ธนิกุล" ให้กับเฮียเหลา มาตั้งแต่เริ่มแรก นับเป็นคนสนิทอีกคนหนึ่ง ที่ใครจะดูแคลนได้ง่ายๆ ด้วยพฤติการณ์อันประกอบกันหลายครั้ง หลายคราว ตราบครั้งสุดท้ายที่ล่วงเกินซิตี๋อย่างแรง จึงน่าเชื่อว่า เจ้าพ่อเปิดไฟเขียว สำหรับโหงว ห้าพลังทันที
วันที่ 4 มีนาคม 2531
สนามมวยลุมพินี โปรโมเตอร์ ทรงชัย รัตนสุบรรณ จัดรายการมวยการกุศลชื่อ "ศึกวันทรงชัยกุศลร่มเกล้า" ขึ้น มวยนัดสำคัญวันนี้ แฟนมวยแน่นขนัด พร้อมทั้งบุคคลสำคัญหลายคน...ที่ขาดไม่ได้คือ แคล้ว ธนิกุล "เฮียเหลา" นายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และ "โหงว ห้าพลัง" หรือนาย ชัยวัฒน์ พลังวัฒนกิจ นายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย
ก่อนมวยคู่เอกคือ ฉมวกเพชร ห้าพลัง กับ หลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ จะราวีกันด้วยแม่ไม้มวยไทย โหงว ห้าพลัง ได้ขึ้นเวทีมอบเงินจำนวนหนึ่ง ให้แก่การกุศลร่มเกล้า โดยมีแคล้ว ธนิกุล เป็นผู้รับแทน คณะกรรมการ แล้วคว้าไมค์มาประกาศกล่าวขอบคุณแฟนๆมวย ตลอดจนผู้สละเงินสมทบทุนตามประเพณี และโหงว ได้กล่าวคำปิดท้ายด้วยคำบาดหูอีกครั้ง นั่นคือพูดว่า
"หากนักมวยคนใดถูกโปรโมเตอร์เบี้ยว ขอให้ไปบอกกับเฮียเหลา หรือถ้าเฮียเหลาไม่อยู่ ก็ให้บอกกับโหงว"
"นั่นไม่ผิดกับคำประกาศทาบรัศมี เจ้าพ่อ ต่อหน้าแฟนมวยทั้งสนาม"
มวยคู่เอกระหว่างฉมวกเพชรกับหลังสวน รำมะนากันผ่านไปถึงยกที่๔ ระหว่างพักยกและนักมวยทั้งสองฝ่ายกำลังให้น้ำ ก่อนระฆังยก ๕ จะลั่น
เสียงปืนได้ระเบิดถี่ยิบ๓นัดซ้อน!!
เป้าปืนคือ #โหงว_ห้าพลัง ซึ่งกำลังหันไป ต่อ-รองกับนักเล่นบนล็อค ร่างของโหงว หมุนไปทั้งตัวก่อนจะล้มคว่ำ...คราวนี้ความโกลาหลอลหม่านพลันบังเกิด พร้อมๆกับเสียงปืนขากฝ่ายมือปืนคุ้มกันโหงว ห้าพลัง ระเบิดสนั่น
ส.ต.อ.มานพ นาคทั่ง มือปืนประจำตัวโหงว และมีฐานะเป็นพี่เมียด้วย กระชากปืนกระหน่ำยิงมือปืนคนหนึ่ง ชื่อ #ธงชัย_ติคำ ล้มลุกคลุกคลานหนีไปถึงหน้าห้องน้ำ และถูก พ.ต.ท.สุรัชพงษ์ธานี จับกุมตัวได้
ภายในสนามมวยลุมพินี แฟนมวยต่างหนีตายเพราะกลัวถูกลูกหลง เบียดเสียด เหยียบกันบาดเจ็บนับ๑๐๐คน
ส่วนเฮียเหลา ถูกผู้คุ้มกันกระชากตัวให้หมอบลงกับพื้น ครั้นแน่ใจว่าไม่มีอันตรายอีก เฮียเหลา พร้อมมือปืนคุ้มกันรอบตัวก็ออกจากสนามมวยไป
สำหรับโหงว ห้าพลัง นอนหายใจรวยริน เขาเจอลูกปืนเข้า ๓ นัด ที่เบ้าตาซ้าย ๑ นัด และลำตัว ๒ นัด ถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน อาการเป็นตายเท่ากัน... ต่อมาญาติขอย้ายไปโรงพยาบาลเปาโล
คราวนี้ก็เป็นเรื่องของตำรวจที่จะควานหาตัวมือปืนมี่ลั่นกระสุนสังหาร โหงว ห้าพลัง ส่วนนาย ธงชัย ติคำ ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บ เจอข้อหายิงโหงวเป็นคนแรก และต่อมา #ซิตี๋ ถูกตำรวจจับกุมในข้อหา ผู้บงการจ้างวาน แต่ทั้งสอง ปฏิเสธตลอดข้อหา
ความสัมพันธ์ระหว่าง นาย ธงชัย ติคำ กับซิตี๋ นับว่าใกล้ชิดกันมาก เพราะนาย ธงชัย เป็นน้องเมียของซิตี๋ กล่าวว่า นาย ธงชัย ไม่ได้อยู่กับตนนานแล้ว เนื่องจาก มีกรณีขัดใจกันคือ ซิตี๋ ให้ธงชัย ไปเก็บเงินค่านักมวย ๓๐,๐๐๐ บาท แล้วส่งให้เฮียเหลา ปรากฏว่าเงินขาดไป ๕,๐๐๐ บาท ซิตี๋คิดว่า น้องเมีย เอาเงินไป ธงชัยยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ ด้วยความโมโหธงชัยเข้าไปในครัว
#คว้ามีดปังตอฟันนิ้วกลางมือขวาขาดเกือบข้อนิ้ว แล้วโยนให้พี่เขย ก่อนจะออกจากบ้านหายไป
(ความจริงธงชัยไม่ได้เอาเงินไป แต่เป็นเมียของซิตี๋ หยิบไปใช้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นเงินที่จะส่งให้เฮียเหลา)
วันที่ ๖ มีนาคม
แคล้ว ธนิกุล หรือเฮียเหลา เข้าพบ นาย พิศาล มูลศาสตร์สาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ๓๐ นาที ได้กลับออกมา บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า
"ผมไปงานแต่งงานลูกชายปลัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อคืนก่อน ท่านนัดให้มาคุยที่กระทรวง สอบถามเรื่องราวที่สนามมวยลุมพินีว่าเป็นมายังไง ขอให้ช่วยสืบเสาะหามือปืนที่แท้จริงให้ด้วย ท่านปลัดฯชอบมวย เมื่อเกิดเรื่องอย่างงี้ วงการก็เสื่อมเสีย ท่านเป็นห่วง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับโหงว หลายฝ่ายก็พยายามมาลงที่ผม เรื่องมือปืนที่ถูกจับ เป็นน้องเมียผู้จัดการค่ายมวยผม ซิตี๋ ให้ไปเก็บเงิน แล้วเงินหายไป๕,๐๐๐บาท เด็กบอกไม่ได้เอา ซิตี๋บอก ถ้าไม่ได้เอาไป ก็ให้ตัดนิ้วพิสูจน์ เด็กมันก็ยอมตัดนิ้ว แล้วหายหน้าไปหลายเดือนไม่เคยเจอ มาโผล่อีกทีก็เป็นข่าวว่าผมมีส่วนเกี่ยวพันด้วย เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กเที่ยว มาจากบ้านนอก ไม่น่าเชื่อว่าเป็นมือปืน"
"โหงว เคยคิดทาบบารมีผม แต่ไม่ได้มาวัดรอยเท้า ผมช่วยเขาทุกอย่าง เขาเชื่อผม ผมช่วยเขา ไม่ได้ฆ่าเขา ส่วนสาเหตุผมว่า มาจากวันที่ก้องทรนี ชิงแชมป์กับเขาทราย แล้วมีปัญหานักมวยชก เป็นต่อ แล้วแพ้ มีการกล่าวหากรรมการขี้โกง ถ้าผมไม่เคลียร์ให้ในวันนั้น ต้องเกิดจราจลในสนามแน่ๆ อย่างไรก็ตาม ผมขอพูดด้วยสัจจะของลูกผู้ชายว่า ผมไม่ได้เกี่ยว ผมรักโหงวเหมือนน้อง และเขาก็รักผมเหมือนพี่
แผลที่โหงว ห้าพลัง เจอเข้าไป สาหัสสากรรจ์เหลือกำลัง แต่โหงวก็ทรหดทายาท เขานอนหมดสติอยู่จนถึงวันที่ ๘ มีนาคม ชีวิตก็ถึงที่สุดเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น.
คืนวันที่๑๒มีนาคม ศกเดียวกัน ร่างไร้วิญญาณของโหงว ห้าพลัง นอนสงบอยู่ในโลงจำปา ณ ศาลา๖ วัดเวรุฬาชิน ฝั่งธนบุรี ได้มีการทำพิธีกงเต็กตามประเพณีจีน เพื่อสงวิญญาณผู้ตายไปสวรรค์แทนการสวดพระอภิธรรม ท่ามกลางผู้ร่วมพิธีงานศพ ประมาณ ๒๐๐ คน
ในพิธีกงเต็กครั้งนี้ นอกจากมีเครื่องกงเต็กอันมีสรรพสิ่งเครื่องใช้นับ ๑๐๐ ชิ้น ยังมีคฤหาสน์กระดาษ ๓ ชั้น เฮลิค็อปเตอร์ และเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง ๗๔๗ หนึ่งลำ และรถเบนซ์สีขาวติดแผ่นป้ายทะเบียน ๙ ช ๔๗๓๕ กทม. คล้ายกับรถที่โหงวเคยใช้ ขณะยังมีชีวิต ภายในรถมีหุ่นตุ๊กตาเป็นชายสี่คน สวมสูทสีเข้ม ในมือถือปืนบอกลักษณะมือปืนคุ้มกัน โดยเป็นเจตนาของเจ้าภาพต้องการจะเผาสรรพสิ่งทั้งหมดและมือปืนทั้ง ๔ ให้ไปคุ้มครองโหงว ณ โลกแห่งวิญญาณด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนเช้าวันที่ ๑๓ มีนาคม ก่อนเคลื่อนศพไปยังสุสานสันติธรรม จังหวัดสระบุรี ได้มีนักมวยที่โหงว เคยให้การอุปการะสนับสนุนจนมีชื่อเสียง อันได้แก่ สกัด พรเทวี ,สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ฉมวกเพชร ห้าพลัง และ พนมทวนเล็ก ห้าพลัง มาไหว้ครูมวยเป็นเกียรติและเป็นการรำลึกถึงพระคุณ
ซิตี๋ เจอ ๒ ข้อหา คือความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่ชุมชน(มีหลักฐานจากวีดีโอและภาพถ่าย เห็นซิตี๋ถือปืนในสนามมวยลุมพินี ในวันเกิดเหตุ) และต้องสงสัยจะเป็นผู้บงการ จ้างวานฆ่าโหงว ห้าพลัง
มีพยานปากเอกรับปากจะให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพราะรู้เห็นเบื้องหลังการสังหาร โหงว ห้าพลังทุกขั้นตอน ทำให้ตำรวจมั่นใจว่า ซิตี๋ ไปไม่รอดแน่ ในข้อหาจ้างวานฆ่า
ต่อมาพยานปากเอก เปลี่ยนใจไม่ยอมให้การตามที่สัญญา เพราะกลัวถูกตามปลิดชีวิต ผลก็คือ ตำรวจเอาผิดซิตี๋ได้แค่คดีเดียว คือเรื่องอาวุธ
ใครเป็นผู้บงการฆ่า โหงว ห้าพลัง จึงกลายเป็นคดีที่ปิดแฟ้มไม่ได้อีกคดีหนึ่ง
"แต่ชาวยุทธจักรนักเลง ไม่เคยมีใครลืมรอยยิ้มอันเยือกเย็นของ #เจ้าพ่อ ครั้งนั้น"
Cr.Angkan Soontornkamolwat
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
