แต่อันที่จริงแล้วการจะเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องเข้าหามันด้วยความเข้าใจ
หาใช่ไปกดมันไว้ อุปมาก็เหมือนกับการที่เราจะสอนสุนัขให้สงบนิ่งไม่ลอกแลก ไม่ตื่นเต้นตูมตามจนเกินไป หากเราใช้วิธีกดมัน ข่มมัน อาจจะด้วยคำพูด หรือการกระทำใดๆ เพื่อฝืนไม่ให้มันออกอาการรุนแรง เจ้าสุนัขนั้นก็อาจจะสงบ แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น
แต่หากเราปล่อยใจของเราให้สบาย ส่งความสุขสงบผ่านใจเราไป ไม่ต้องพะวงหรือกดอารมณ์ตนเองนัก ความรู้สึกสงบของเราก็จะส่งผ่านเจ้าสุนัขนั้น และสุนัขก็จะสงบในที่สุด โดยที่เราเองก็ไม่ต้องพยายามอะไรมากนักเลย ดังนั้นเรื่องของการปล่อยใจสงบเองก็เป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งบางคนก็อาจจะแย้งว่าเราจะปล่อยใจไปได้ยังไง ก็ใจเรามันนิ่งเสียที่ไหน เผลอแป๊บเดียวก็คิดไปนั่นไปนี่ ตอนแรกก็ยังดูสงบดี แต่เพียงแค่มีอะไรมากระทบนิดหน่อย ใจเราก็เตลิดเปิดเปิงไปแล้ว แล้วเราจะกล้าปล่อยใจไปได้อย่างไร
ความคิดขัดแย้งนี้จะว่าไปก็ถูก....
แต่ ! ก็ยังผิดตรงที่การปล่อยใจนี้
หาใช้ ! ให้ปล่อยไปแบบปล่อยหมาปล่อยปลา ให้มันเตลิดเปิดเปิงไปเอง...
แต่ ! เป็นการทำให้ความคิดเราปลอดโปร่งสบายใจ ไม่คาดคั้นคาดหวัง กับความต้องการของเรา เช่น.....
เมื่อเราหวังว่าจิตใจเราจะสงบสุข เราอาจคาดหวังได้
แต่ ! อย่าถึงกับคาดการณ์ว่า....
มันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ให้ได้
เพราะ เมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนั้นแล้ว
จิตใจเราก็ย่อมจะเกิดทุกข์ เกิดปัญหา
แม้ว่าปัญหาของเราจะดูเหมือนกุศลกรรม แต่หากทำผิดก็ทำให้จิตใจขุ่นมัวได้เช่นกัน
- - - - - - - - - - - - - - -