Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Save Wildlife & Forest
•
ติดตาม
13 มี.ค. 2019 เวลา 02:15 • การศึกษา
สัตว์ 6 ชนิดที่กำลังจะสูญพันธุ์เนื่องจากความเชื่อของชาวจีน !!!
ในมณฑล Guangdong หรือที่เราคุ้นๆ หูก็คือ กวางตุ้ง เป็นมณฑลหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางตอนใต้ของประเทศจีน มีเรื่องเล่าที่ผู้คนในท้องที่มักพูดกันว่า "คนที่นี่กินทุกอย่างที่มีสี่ขา ยกเว้นโต๊ะ, อะไรที่บินได้ ยกเว้นเครื่องบิน, อะไรที่อยู่ในน้ำได้ ยกเว้นเรือ"ดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลก แต่ฟังดูแล้วแล้วหดหู่ชอบกล เราลองมาดูสัตว์ 6 ชนิดที่อาจสูญพันธุ์เพราะการบริโภคตามความเชื่อ และความต้องการอย่างมากของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อย่างประเทศจีนกัน.....
1
1. เสือโคร่ง (Tiger)
ในปี 2007 เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเสือโคร่งในกรงจำนวนสามตัวที่มีชีวิตอยู่ในกรงแคบๆ นั่นการเป็นข่าวดังไปทั่ว นำไปสู่การเปิดโปงตลาดมืดการค้าสัตว์ป่าในมณฑลกวางตุ้ง หลังจากนั้นก็พบทั้งกระดูกเสือ ขน อวัยวะต่างๆ ของเสือ เรื่อยๆ ชาวจีนมีความเชื่อว่า การได้กินซุปจู๋เสือ จะช่วยเรื่องพละกำลังด้านร่างกาย รวมถึงอวัยวะอื่น แม้กระทั้งหนวดเสือก็สามารถเอาไปทำเครื่องรางของขลังได้ จะเห็นได้ว่า เสือหนึ่งตัวที่ถูกฆ่าสามารถนำไปเป็นอาหาร เครื่องราง หรือเครื่องประดับได้หมด จึงเป็นที่หมายปองของพรานป่าที่ต้องการลักลอบล่าเสือโคร่ง ประมาณกันว่า เสือโคร่งหนึ่งตัวถ้าล่าได้อาจมีมูลค่าเทียบเท่ารถยนต์หนึ่งคัน ถ้าสามารถขนออกไปนอกประเทศจนถึงประเทศปลายทางได้ ค่าตัวเสืออาจเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวเลยทีเดียว เราจึงพบข่าวการจับกุมนายพรานล่าเสือทั้งในป่าและกำลังเคลื่อนย้อยซากออกนอกพื้นที่ ทำให้ที่ผ่านมา ประชาการเสือโคร่งลดลงอย่างรวดเร็ว จนบางชนิดไม่พบทั้งในประเทศ จีน ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีเสืออาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติ
ทุกส่วนของร่างกายเสือมีประโยชน์สำหรับความเชื่อนี้ Cr. Facts and Details
2. ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน (Chinese Giant Salamander)
ซาลาเมนเดอร์ยักษ์จีนอยู่ในตู้ปลา ที่จัดเเสดงในงานเทศกาลอาหารในเมือง จางเจียเจีย
ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบเฉพาะประเทศจีนเท่านั้น ลำตัวยาวประมาณ 180 เซนติเมตร หนักเกือบ 50 กิโลกรัม นับว่าเป็นอาหารอันโอชะและเป็นยาชั้นดีตามความเชื่อของชาวจีน ทำให้จำนวนประชากรในธรรมชาติลดลงไปกว่า 80 % ในสามชั่วอายุของมัน นั่นหมายความว่าเมื่อตัวเต็มวัยถูกจับไปเป็นอาหารหมด ทำให้รุ่นลูกโตไม่ทันก็ถูกจับไปอีกเรื่อยๆ เพื่อลดปัญหาการจับจากธรรมชาติ ชาวจีนบางคนจึงเริ่มทำฟาร์มเลี้ยงซาลาแมนเดอร์ เพื่อให้จำนวนในธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง จนในปี 2011 ฟาร์มเลี้ยงทั้งหมดในมณฑลส่านซี สามารถเลี้ยงซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีนได้ถึง 2.6 ล้านตัว แม้ในธรรมชาติจะมีประมาณ 50,000 เท่านั้น เหมือนจะเป็นข่าวดี แต่กลับกลายเป็นว่า เกิดโรคระบาดจากฟาร์มเลี้ยง ส่งผลให้เกิดการติดต่อโรคสู่ซาลาแมนเดอร์ในธรรมชาติ ทำให้จำนวนซาลาเเมนเดอร์ในธรรมชาติลดลงไปอีก ซ้ำร้ายปัญหาการปนเปื้อนสารพิษในแหล่งน้ำของประเทศจีน ทำให้สถานภาพของมันอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR)
1
อาหารบนจานนี้ทำมาจากซาลาเเมนเดอร์ยักษ์
3. เต่าอเมริกา (American Turtles)
ไม่เพียงแค่เต่าอเมริกาอย่างเดียว ทั้งเต่าบกและเต่าน้ำอื่นๆ ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน
เต่าอเมริกาในที่นี้หมายถึงเต่าหลากชนิดที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกคุกคามจำนวน 23 ชนิด เต่าพวกนี้ถูกลักลอบขนส่งไปยังประเทศจีน ตามความเชื่อเรื่องของโชคราง สมรรถภาพทางเพศ และยาแก้โรคต่างๆ ไม่แปลกที่ราคาตัวหนึ่งอาจสูงถึงหลักพันจะถึงหลักหมื่นบาท
4. ปลาสเตอร์เจียนจีน (Chinese Sturgeon)
ภาพชาวประมงชาวจีนกำลังช่วยกันจับปลาสเตอร์เจียนในแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งเป็นแม่น้ำหลักของจีน
ปลาสเตอร์เจียน เป็นปลาโบราณคาดกันว่าบรรพบุรุษของมันมีอายุกว่า 200 ล้านปี ในยุดไทรแอสซิก แต่มันอาจจะสูญพันธุ์ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้เนื่องจาก ไข่ปลาสเตอร์เจียนหรือที่เรารู้จักในชื่อ “ไข่ปลาคาเวียร์” ซึ่งมีราคาแพงมากๆ การจะได้เมนูไข่ปลาคาเวียร์นั้นแสนยากลำบาก เพราะปลาปลาสเตอร์เจียนจะสามารถผสมพันธุ์ได้ต้องอายุกว่า 20 ปี ถึงจะสามารถออกไข่ได้ และการจะได้ไข่ปลาต้องฆ่ามันเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยที่ทำให้มันลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว
1
5. นกจาบปีกอ่อนอกเหลือง (Yellow-breasted Bunting)
นกจาบปีกอ่อนตัวนี้ถูกจับมาเป็นนกต่อเพื่อล่อให้เพื่อนของมันบินเข้ามาติดตาข่ายในจีน Cr. Northern Thai bird
ในประเทศจีนเรียกว่า “rice bird” มักพบได้ตามทุ่งนาของประเทศจีน สถานภาพปัจจุบันอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR) เนื่องจากในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาประชากรของมันลดลงถึง 95% ส่งผลให้ตอนนี้กลายเป็นนกหายากไปแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน มักพบเป็นฝูงใหญ่ และส่งผลต่อประเทศไทยด้วยเนื่องจากมันเป็นนกอพยพในฤดูหนาวจากประเทศจีน เมื่อประชากรมีน้อยในประเทศบ้านเกิด ก็ทำให้จำนวนตัวที่จะอพยพน้อยลงไปด้วย สาเหตุการลดลงของประชากรมาจากการจับกินนั่นเอง เพราะเชื่อว่าซุปนกชนิดนี้ช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้
6. ตัวนิ่มหรือลิ่น (Pangolin)
ซากตัวนิ่มกว่าพันตัว ที่ถูกจับได้จากเจ้าหน้าที่
ตัวนิ่มหรือตัวลิ่นคงเป็นภาพชัดที่สุด ในบรรดาสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่เรามักจะพบในข่าวทั้งในและต่างประเทศ มักจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนส่งไปประเทศปลายทางทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต มีทั้งหมด 8 ชนิดทั่วโลก ทุกชนิดล้วนใกล้สูญพันธุ์
เมื่อปี 2018 คาดว่าตัวนิ่มถูกล่าไปกว่า 1 ล้านตัวเพื่อส่งเข้าตลาดมืด นับเป็นตลาดการค้าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชาวจีนเชื่อว่า เกล็ดนิ่มสามารถแก้โรคหอบหืด และกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้กับแม่เด็ก แต่ส่วนประกอบของเกล็ดนิ่มมีสารประกอบที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) เป็นเส้นใยโปรตีนทำหน้าที่ช่วยปกป้องและให้ความแข็งแรงกับเนื้อเยื่อหรืออวัยวะส่วนนั้นคล้ายกับเส้นผม เล็บมือเล็บเท้า ขนทุกส่วน และหนังกำพร้าของคนเรา เท่ากับว่าการกินเกล็ดนิ่มไม่ต่างจากการกินเล็บ ขนของเรานั้นเอง
นี่เป็นตัวอย่างของสัตว์ทั้งหมด 6 ชนิด แต่ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดนอกจากนี้ที่กำลังได้รับผลกระทบยกตัวอย่างเช่น แรด นกชนหิน หมี ม้าน้ำ งู ฉลาม ฯลฯ เหตุผลสำคัญก็คือความเชื่อด้านตำรายาโบราณของชาวจีนที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปี ทำให้หยั่งรากลึกและเป็นส่วนหนึ่งของของชีวิต วัฒนธรรม แพทย์ทางเลือกของชาวจีน จนแพร่กระจายออกไปทั่วโลก เราจะเห็นได้ว่าตามหัวเมืองใหญ่ หรือแม้แต่เมืองย่อยๆที่มีชาวจีนส่วนมากอาศัยอยู่ จะมี China town ซึ่งเป็นแหล่งรวมบรรยากาศของประเทศจีนไว้ย่อมๆ
Cr. IWBond
ผมกำลังจะบอกว่าสัตว์ที่ต้องตายเพราะความเชื่อเหล่านี้ปัจจุบันไม่ได้ถูกส่งไปที่ประเทศจีนอย่างเดียวแล้ว แต่กลับกลายเป็นการขนส่งเพื่อถึงประเทศปลายทางทั่วโลก ซึ่งยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และกฎหมายของประเทศซึ่งมีบทลงโทษแตกต่างกัน
ความเชื่อเป็นสิ่งที่ไม่ผิด ตราบใดที่ความเชื่อเราไม่เกิดผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หลายประเทศเริ่มแบนการค้าสัตว์ป่าในลักษณะนี้ แต่ความต้องการยังมากในปัจจุบัน รวมทั้งอำนาจเงินที่เป็นสิ่งเย้ายวนใจของพรานป่า เป็นเรื่องยากที่จะหยุดขบวนการการล่าสัตว์แบบนี้ ทั้งยังมีขบวนการผิดกฎหมายอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องทั้ง เช่น กลุ่มก่อการร้าย ความมั่นคงของประเทศ การค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น แต่ผมหวังว่า เมื่อมีคนล่า แต่ไม่มีคนบริโภค อาจช่วยลดการล่าลงไม่มากก็น้อย และยังเชื่อว่ายังมีคนไม่เห็นด้วยกับการบริโภคสัตว์ป่าแบบนี้อยู่ แล้วผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรครับ?
ซากเสือเคียงคู่กับผลิตภัณฑ์ทางยาโบราณของจีน Cr. IWBond
Cr. The Epoch Times
19 บันทึก
136
14
34
19
136
14
34
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย