ปรากฏการณ์ก็อปปี้งานเขียนของนักเขียนใน Blockdit (ตอนที่2)
หลังจากที่ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ในลิงก์ด้านล่าง
ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าจะมีกรณีการก็อปปี้งานเขียนเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
ภาพ: flickr.com
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นเพิ่มเติมมี2กรณี คือ
1. นักเขียนเพจก็อปปี้บทความมาจากอินเตอร์เนตมาเกือบจะทั้งกะบิเลย แล้วออกตัวโดยใส่เครดิตอย่างชัดเจนว่าก็อปปี้มาจากที่ไหน
2. มีนักเขียนบางเพจ ก็อปปี้บทความของตัวเอง (เนื้อหาเหมือนเดิม100%) มาลงซ้ำกับบทความเดิมแล้วได้ดาวจากบทความเดิมซ้ำกัน2ครั้ง
ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองอ่านเกี่ยวกับกับกติกาของ Blockdit ที่มีในลิงก์ด้านล่างนี้อีกครั้ง
นอกจากลิงก์ด้านบนแล้ว ผมสังเกตเห็นว่า หากคุณเข้าแอป Blockdit แล้วคลิกไปที่เมนูรูป “คน” บริเวณมุมขวาล่างของจอ คุณจะเห็นเมนู “คำถามที่พบบ่อย” หรือ “FAQs”
หากคุณลองคลิกเข้าไปต่อ คุณจะเห็นหัวข้อ “คำถามเกี่ยวกับ Page” หากคุณเลื่อนอ่านลงไปคุณจะพบหัวข้อที่เขียนว่า “Page สร้างรายได้อย่างไร” และในหัวข้อนี้เองทาง Blockdit ได้อัพเดทข้อความบางอย่างเพิ่มเติมว่า “โพสต์ที่คัดลอกมาจากแหล่งอื่นจะไม่มีสิทธิ์สร้างรายได้ ผู้เขียนต้องเขียนเองมากกว่า 90% ของเนื้อหาทั้งหมด”
มาถึงตอนนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ผมสังเกตเห็นจากทั้ง2กรณีด้านบนบ้างครับ
สำหรับกรณีที่ 1 ที่ผมระบุไว้ด้านบน เป็นประเด็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ หมายความว่า หากคุณขออนุญาตเจ้าของบทความต้นทางว่าจะก็อปปี้มาลงใน Blockdit และเจ้าของบทความอนุญาตเรียบร้อยแล้ว (ในกรณีที่อาจถูกฟ้องร้องในชั้นศาลในอนาคตว่าละเมิดลิขสิทธิ์ คุณควรจะมีหลักฐาน เช่น อีเมลที่ส่งไปขออนุญาตและอีเมลที่เจ้าของบทความตอบกลับมาว่าอนุญาต ยกเว้นว่าจะเป็นรูปภาพที่คุณนำมาจากเว็บฟรี)
กรณีนี้ถือว่า “ไม่ผิดลิขสิทธิ์” แต่อย่างใด แต่เรื่องมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ถ้าหากบทความนั้นเกิดได้ดาวขึ้นมา คุณจะไม่สามารถสร้างรายได้จากบทความนั้นได้ตามกติกาใน FAQs ของ Blockdit ที่ผมเกริ่นไว้ด้านบน
ซึ่งโดยทั่วไป ผู้อ่านที่มาเห็นเหตุการณ์ในกรณีนี้ มักจะกด “Report” โดยการกดไปที่เครื่องหมาย “…” ที่มุมขวาบนของบทความนั้น แล้วกด “รายงานปัญหา” แล้วเลือกว่า “โพสต์นี้ถูกคัดลอกมาจากที่อื่น”
หลังจากถูก Report แล้ว ผู้เขียนสามารถเห็นสถิติการถูกกด Report ได้ที่ค่าสถิติ “Negative Feedback”
แล้วปกติเวลานักเขียนเห็นว่าบทความของตัวเองถูกกด Report จะรู้สึกอย่างไร?
สำหรับตัวผมเองที่เคยโพสต์บทความมาแล้วถึง 123ครั้ง มีบทความที่เคยถูกกด Report ทั้งหมดเกือบ 10 ครั้ง แต่สุดท้ายทาง Blockdit มีกระบวนการในการตรวจสอบซ้ำ และสุดท้ายพบว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร โพสต์ทั้งหมดของผมที่เคยถูกกด Report จึงยังอยู่ดีมีสุข ไม่ได้ถูกลบแต่ประการใด รวมถึงผมยังได้รับเงินจากโพสที่ได้ดาวต่างๆตามปกติ แม้ว่าโพสต์ที่ได้ดาวดังกล่าวจะเคยถูก Report ก็ตาม
ครั้งแรกๆที่ผมถูกกด Report ผมรู้สึกเครียดว่าผมทำผิดอะไร ทำไมต้องมากด Report ผมด้วย และผมพยายามที่จะหาสาเหตุว่าผมทำผิดจริงหรือเปล่า ผิดข้อหาอะไรบ้าง พอหาสาเหตุไม่เจอผมเลยรู้สึกโกรธคนที่กด Report ผม
แต่สุดท้ายผมก็ทำใจได้ ทำให้พักหลังๆที่ผมถูกกด Report ผมก็แค่ยิ้ม และคิดว่าบางคนคง “มือลั่น” กดปุ่ม Report โดยบังเอิญ (ทั้งๆที่รู้ว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่)
กลับมาที่นักเขียนในกรณีที่1 ที่ถูกกด Report บ้างครับ
ถึงในกรณีนี้บทความจาก “เพจ” ของคุณจะไม่ได้ผิดกฏในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ แต่คุณผิดเงื่อนไขการได้ดาวครับ นั่นแปลว่าคุณจะไม่ได้รับเงินจากโพสต์ติดดาวนั้น การโกรธเคืองผู้กด Report ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา คุณควรจะยอมรับว่าคุณทำผิดเงื่อนไขเองและอย่าทำมันซ้ำอีกในอนาคตครับ
สำหรับในกรณี “บล็อกส่วนตัว” ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการได้ดาว แม้ว่าคุณจะมีเจตนาดีที่อยากจะแชร์ความรู้โดยไม่หวังอะไรตอบแทน หากคุณขออนุญาตเจ้าของบทความที่คุณไปก็อปมาเรียบร้อยแล้ว ถือว่าคุณไม่ผิดกฏครับ แต่ถ้าคุณไปก็อปมาโดยไม่ได้ขออนุญาต แม้คุณจะประกาศแบบแมนๆแต่แรกว่าคุณไปก็อปมารวมถึงใส่เครดิตและลิงก์ต้นทางไว้แล้ว คุณก็อาจผิดกฏในข้อนี้ได้ครับ ฉะนั้น การโกรธเคืองผู้กด Report ไม่มีประโยชน์อันใดครับ เพราะคุณเป็นคนทำผิดกฏเอง
มาพูดถึงในกรณีที่2 ที่ผมเกริ่นไว้ในตอนแรกบ้างครับ
กรณีที่ 2 ไม่ผิดกฏในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่ผิดกฏในการได้ดาว แต่ผิด “จรรยาบรรณ” ครับ
กรณีนี้ไม่ต่างอะไรกับการใช้ช่องโหว่ของกฏหมายหลอกลวงผู้บริโภคครับ ผมเรียกการกระทำแบบนี้ว่าหัวหมอ และไม่ควรที่จะเอาเยี่ยงอย่างครับ
มาถึงตอนนี้ ผมขอพักไว้ก่อน ไว้ว่างๆจะมาเขียนต่อครับ
ติดตาม Netflix Addict จากช่องทางอื่นและแวะมาพูดคุยกันได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/netflixaddict1
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
