เนื่องจากโลกของเราเป็นทรงกลม สมมติว่าเราต้องการเดินทางจากเมือง a ไปยังเมือง b เส้นทางที่สั้นที่สุดคือ เส้นโค้งที่ลากจาก a ไป b ซึ่งมีชื่อว่า The Great Circle เพราะถ้าเราต่อเส้นโค้งนี้ให้ยาวออกไปเรื่อยๆจะได้เส้นวงกลมนั่นเอง
ในทางทฤษฎี การเดินทางด้วยเส้นทางที่สั้นที่สุด นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย แต่การเดินทางบน The Great Circle นั้นเป็นเรื่องยาก (เพราะอะไรเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง) เส้นทางที่ง่ายกว่า แม้จะไกลกว่าเรียกว่า Rhumb line
Rhumb line คือ เส้นทางที่ทำมุมค่าเดิมเสมอกับเส้นลองติจูด ซึ่งถ้าเราลาก Rhumb line ให้ยาวออกไปเรื่อยๆมันจะวิ่งไปยังขั้วโลกเหนือ(หรือใต้ขึ้นกับทิศทางที่มุ่งหน้า)เป็นรูปเกลียวก้นหอยที่เรียกว่า loxodrome
หากเราเดินทางตามเส้นทาง Rhumb line แล้ว ทิศทางที่เรามุ่งหน้าไปจะทำมุมกับทิศเหนือด้วยมุมค่าเดิมเสมอซึ่งจะง่ายมากสำหรับการเดินทางเพราะเราก็แค่เดินทางในทิศทางเดิมเสมอเมื่อเทียบกับเข็มทิศ (ซึ่งชี้ทิศเหนือเสมอ)
แต่ถ้าเราเดินทางด้วย The Great Circle เราจะต้องคอยปรับมุมที่ใช้ในการเดินทางเทียบกับทิศเหนืออยู่ตลอดเวลาซึ่งยุ่งยากกว่ามากจนเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในโลกยุคโบราณ
แนวคิดเรื่องเส้น Rhumb line ถือกำเนิดขึ้นจากนักคณิตศาสตร์และนักภูมิศาสตร์ชาวโปรตุเกสนามว่า Pedro Nunes ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1502-1578 ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังไม่สามารถระบุเส้นลองติจูดของโลกได้อย่างแม่นยำทำให้การเดินทางด้วย Rhumb line นั้นสำคัญมาก
ทิศทางที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามหันหน้าไปยังเมืองเมกะเพื่อประกอบศาสนพิธีนั้นเรียกว่า Qiblah ซึ่งชาวมุสลิมจำนวนหนึ่งในอเมริกาเหนือหันหน้าไปยังนครเมกะด้วยทิศทางตามเส้น Rhumb line