ด้วยความที่เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของ End Game ทำให้ตัวหนังถูกยกระดับให้เป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญ และนั่นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแฟนๆ แต่หากนับว่านี่คือหนังซูปเปอร์ฮีโร่เรื่องนึง หนังไม่มีอะไรใหม่เลย...
ความไม่สมูทอีกสิ่งหนึ่งของหนังคือการพยายามเล่นกับแฟชั่นย้อนยุค การพยายามนำเอาความป๊อปของยุค 90’s มาเล่น ไม่ว่าจะเป็นการอิงหนังอย่าง True Lies (เพื่อเชื่อมกับความเป็นเฟมินิสต์ ) ภาพนักบินแบบ Top Gun การใส่เพลงของ No Doubt ,Garbage , Nirvana รวมถึงการใส่ Easter Egg ต่างๆเข้ามามันดูจงใจเกินไปซึ่งต่างกับความสมูทรของ ReadyPlayer One แต่โอเค.... ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมเป็นที่ถูกใจของแฟนๆยุคนั้น แต่หากพูดถถึงเหตุผลแล้วจะเห็นว่าอุปกรณ์ล้ำยุคของชาวครีนั้นสามารถเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายมาก โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลากับเรื่องบางเรื่องเลย
การพยายามดันภาพเฟมินิสต์ในเรื่องนอกจากตัวละครจะเป็นผู้หญิงแล้ว อุดมการณ์ที่พูดถึงในจุดนี้เท่าที่เห็นก็มีแค่ปมตอนต้นเรื่องที่ Vers ถูกจำกัดพลังจาก Yon ที่เป็นผู้ชาย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเด่นเลยจริงๆหนังไม่มีพลังในการขับเน้นตรงนี้
จุดแข็งและข้อดีของหนังอยู่ที่พลังการแสดงของ Samuel ที่แบกหนังไว้แทบจะทั้งเรื่อง ในส่วนของ Brie แอดให้ผ่านครับแต่ยังไม่ถึงกับดีนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวบทไม่ได้เปิดพื้นที่ตรงนี้ให้เธอมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากๆเมื่อว่ากันที่ความสามารถของนักแสดงระดับออสการ์อย่างเธอ