Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ครูหน้าโหดกระโดดสอน
•
ติดตาม
12 มี.ค. 2019 เวลา 16:32 • ความคิดเห็น
ข้อความจากคนอายุ 25 ปี
เกิดมาไม่เคยอายุ 25 มาก่อนยังทำตัวไม่ค่อยถูก ใครๆก็จะเรียกช่วงอายุนี้ว่าเบญจเพสที่ล่ำลือกันมายาวนานว่ามักจะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นจุดหักเหหรือเหตุการณ์ใหญ่ๆ บ้างก็ว่าดีบ้างก็ว่าร้าย ทำให้เราที่ไม่เคยอายุ 25 ที่เติบโตมาในแวดล้อมแบบไทยชาวบ้านรู้สึกกังวลอยู่นะ ที่กลัวที่สุดคือกลัวอุบัติเหตุหนัก กลัวเจ็บหนักแบบไม่ตายแต่ทรมาณหรืออยู่ให้คนรอบข้างลำบาก (จริงๆถ้าเจออะไรแบบนั้นเราขอแบบไม่เจ็บขอข้ามขั้นเลยดีกว่า)
ด้วยความกังวลของพ่อท่านก็ร้องขอให้ไปทำบุญ เราก็ไม่ได้รับปากแต่ก็หาโอกาสไปไหว้พระแค่นั้นพอ ส่วนเรื่องทำบุญถ้าเจอโพสเกี่ยวกับทำบุญให้เด็กกำพร้าหรือซื้ออุปกรณ์การแพทย์เราขอทำบุญแบบนั้นดีกว่า เห็นผลชัดกว่า แล้วก็อุทิศบุญไปตามพิธี ซึ่งจริงๆเราอยากจะเชื่อให้มันมีจริงนะเพราะอยากให้แม่เราที่ไม่อยู่แล้วท่านได้รับผลบุญนี้แล้วท่านสบาย แต่ก็นั่นแหละเรามันคนยุคใหม่ไม่เห็นเป็นรูปธรรมก็ยากที่จะเชื่อ แต่ก็ต้องทำเพราะไม่มีอะไรลำบากแค่ขับรถไปไหว้พระนั่งสวดมนต์นิดๆหน่อยๆเอง ทีนี้เราอยากบอกตัวเองและคนอื่นทั้งคนที่อายุเลยเลข 25 ไปแล้วหรือยังไม่ถึงอายุ 25 ในเรื่องต่อไปนี้
1.ความรัก : “มีไม่ดี ไม่มีดีกว่า” ยังคงเป็นคติสอนใจเรื่องนี้และดูทีท่าว่าจะยังใช้ต่อไป ใครก็ชอบมองเราแปลกว่าทำไมชอบใช้ชีวิตคนเดียว จะตอบว่า “ยุ่งอะไรด้วย” มันก็ดูโหดร้ายเกินไป เอาเป็นว่าทุกคนอยู่คนเดียวได้นะ อาจจะไม่ตลอดเวลาแต่ทุกคนทำได้ สำหรับคนที่เขาอยู่ได้แบบตลอดเวลาหมายความว่าภายในเขาอาจจะเป็นความชอบของเขาเป็นเรื่องที่เขาพอใจจะทำเช่นนั้น ยุคนี้อยู่คนเดียวมันเป็นเรื่องปกติมากเลยนะ อย่าเอาตัวเองตั้งแล้วมองคนอื่นว่ามันแปลก มันหลากหลายมากเกินว่าเราจะจินตนาการได้อีกนะ
2.การเปลี่ยนแปลง : “ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน” กับทุกๆเรื่องใช้กับคำๆนี้เสมอ จะมองว่ามันคือแนวคิดแบบพุทธก็ใช่ เพราะการมองโลกแบบนี้มันทำให้เราฉลาดขึ้นนะ มนุษย์เรามักจะติดกับเรื่องความคาดหวัง หวังว่าอะไรมันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ไปตลอดสิ เพื่อนก็ต้องเป็นเพื่อนตลอด ศัตรูก็ต้องเป็นศัตรูตลอด รักกันต้องรักกันไปตลอด รายได้ฉันจะต้องได้เท่านั้น(หรือมากกว่านั้น) เรามีสิทธิ์หวังนะแต่เราต้องรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดเวลา คือมันไม่มีอะไรเหมือนเดิมจริงๆ เราเคยคิดว่าเราเนี่ยดื้อด้านชะมัดที่ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นเสียที พอเราเอาตัวเองไปยืนจุดที่เขาอยู่เราเลยเข้าใจว่าอ๋อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง เราก็เปลี่ยนความคิดตัวเอง เนี่ยแค่นี้เรายังเปลี่ยนได้เลย กับเรื่องรราวทั้งชีวิตมันมีอะไรให้เราเรียนรู้ตลอดเวลา อย่าคิดว่าตัวเองทำนู่นนี่ไม่ได้ถ้ายังไม่ลองทำ อย่าตัดบทตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มว่าฉันไม่ทำ เรามีโอกาสทำก็ลองทำ ทำพลาดก็ทำใหม่ พลาดอีกก็ลองอีก (บางคนจะแย้งในใจก็ฉันพลาดไม่ได้ไม่งั้นบริษัทจะล้มละลายนะ อย่าลืมครับไม่มีอะไรแน่นอน ทำให้ฝีสุดมือได้แค่ไหนก็แค่นั้นแต่ต้องสุดจริงๆก่อน)
3.กลับบ้านไปกอดพ่อกับแม่ตัวเองซะ : บอกตรงๆว่าเราเสียใจมากที่แม่ไม่อยู่ดูเราเรียนจบมีงานทำ ถ้าแม่เรายังอยู่เราจะกอดจะหอมแก้มให้แก้มแดงเลย จะทำกับข้าวที่จำสูตรจากในเน็ตมาให้กินบ่อยๆ พาไปเที่ยวดูอะไรสวยๆ(หน้าบ้าน-หลังบ้าน) แกล้งๆง่วงแล้วนอนตักตอนไปเที่ยว พาไปดูคอนเสิร์ตออเครสตรา รีโนเวทบ้านให้มีห้องลูกสักที พอละ พิมพ์ไปร้องให้ไป กระจอกจริงๆ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงเข้าใจนะว่าควรทำอะไรต่อไปดี อะไรตลกๆทำให้ท่านดูไปเหอะ ชวนท่านทำด้วยเลยมันเข้าถึงกันง่าย มันน่าจดจำ
เอาแค่ 3 ข้อก็พอแล้ว ข้อสุดท้ายทำเราเขียนต่อไม่ไหวเลย แต่เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการนำไปใช้แล้ว ยิ่งข้อสองนี่มันดูครอบคลุมอยู่นะ ถ้ารู้ว่าอะไรๆมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเราก็จะเกิดการพัฒนาตัวเอง เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทำให้เรามีแต่จะก้าวหน้าขึ้นไป เสริมอีกอย่างคือความเห็นใจ เราขาดไม่ได้เลยนะหากจะอยู่ร่วมกับคนอื่น ใจเรขาใจเรา ส่วนรวมต้องมาก่อนส่วนตน ผมเป็นครูผมก็ต้องตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี แบบไหนเราทำผิดเราจะบอกเด็กว่าเราทำผิดเอง และยอมรับผิดเพราะมันย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกคน ถ้าเราเห็นใจกันเรราก็จะเข้าใจเขาและไม่สร้างปัญหาต่อกันแบบทุกวันนี้ ขอบคุณทุกชีวิตที่ผ่านเข้ามา ขอบคุณจริงๆที่เรายังมีชีวิตอยู่แบบสุขบ้างทุกข์บ้าง ขอบคุณที่ทำให้เราพบเจอ “ธรรมะ-ชาติ”
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย