15 มี.ค. 2019 เวลา 15:02 • ประวัติศาสตร์
”นิค วูจิซิค” นักพูดหัวใจนักสู้
เมื่อวานผมได้เขียนถึงนักพูดไทยไปแล้ววันนี้ผมจะเขียนถึงนักพูดชื่อดังของต่างประเทศบ้างนะครับ
ผมเคยดูคลิปของเขาใน Ted x Talks ดูแล้วรู้สึกเขาพูดดีทำให้คนฟังมีกำลังใจขึ้นมามากเลยเอาประวัติมาแบ่งปันพี่ๆน้องๆกันครับ
นิค วูจิซิค (Nick Vujicic)
เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2525 ที่เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย
พ่อแม่ของนิคชาวเซอร์เบียที่อพยพเข้ามายังประเทศออสเตรเลีย
แม่ของนิคเป็นพยาบาล เธอดูแลตัวเองมาตลอดช่วงที่ตั้งครรภ์
รวมทั้งไปตรวจอัลตร้าซาวด์ถึง 3 ครั้ง ก่อนที่ลูกของเธอจะคลอดซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น
จนกระทั่ง วันที่ นิค วูจิซิค เกิดมาไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีขาสั้นๆ ข้างเดียวที่มีนิ้วโป้งสองนิ้วเท่านั้น
แพทย์สรุปได้เพียงว่าเขาเป็นโรคแขนขาบกพร่อง หรือ Tetra-amelia disorder
1
วินาทีที่พยาบาลอุ้มนิคออกมาจากห้องคลอดเพื่อมาให้เธอนั้น เธอตกใจมาก ถึงขนาดปฏิเสธที่จะอุ้มเขา
เพราะรู้สึกช็อกกับภาพของลูกที่อยู่ตรงหน้า
ในคราวแรกพ่อและแม่ของนิคคิดว่าเขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแต่เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว กลับพบว่าเขาเป็นเด็กชายที่มีสุขภาพแข็งแรงมาก
ตั้งแต่นั้นพ่อและแม่ของนิคจึงตัดสินใจอยากให้นิคใช้ชีวิตอย่างเด็กปกติทั่วไป
แต่ด้วยร่างกายที่ผิดปกติ ทำให้ชีวิตของนิคในวัยเด็กลำบากอย่างมาก
ในตอนแรกนิคไม่มีสิทธิในการเข้าเรียน เนื่องจากกฎหมายของออสเตรเลียจำกัดไม่ให้ผู้พิการเข้าเรียนกับคนปกติ แต่สุดท้ายก็มีการต่อสู้จนเปลี่ยนกฎหมาย ทำให้นิคเป็นผู้พิการรุ่นแรกๆที่มีโอกาสได้เข้าเรียน นิคชอบเรียนหนังสือ แม้ว่าในการเรียนเขาต้องใช้ดินสอผูกติดไว้กับเท้าเล็กๆ ถึงจะสามารถเขียนหนังสือได้
1
การไปโรงเรียนแม้ว่าเขาจะชอบโรงเรียนและพยายามจะมีชีวิตเหมือนกับเด็กทั่วไป แต่เขาก็พบอุปสรรคในการไปเรียนอย่างหนัก คือ การถูกกลั่นแกล้ง ล้อเลียน และสายตาที่ไม่เป็นมิตรจากเพื่อนรอบข้าง จนทำให้เขาเคยไม่อยากไปโรงเรียน
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาอายุ 8 ขวบ วันนั้นเขาถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนถึง 12 คน เขาทั้งเสียใจ โกรธและถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย นิคคิดในใจว่าหากวันนี้มีคนมาแกล้งเขาอีกคนเดียวเขาก็จะไม่ทนแล้ว เย็นวันนั้นขณะที่เขากำลังกลับบ้าน มีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเขาเอาไว้ ในครั้งแรกเขาคิดในใจว่าคงจะโดนแกล้งอีกแล้ว แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเดินมาชมเขา นั่นทำให้นิคผ่านวันนั้นมาได้
ด้วยความรักและกำลังใจจากพ่อแม่ ทำให้เขาผ่านเรื่องร้ายต่างๆมาได้
1
หลังจากนั้นเขาเริ่มเปลี่ยนความคิดใหม่เขา”เชื่อ”และ“ศรัทธาในตนเอง”
ความศรัทธาในตนเองทำให้นิคเชื่อ ว่าเขาจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยความพยายาม
เขาทำทุกอย่างได้เหมือนคนทั่วไป
“เขาคิดเสมอว่า ความบกพร่องทางร่างกายของเขา คือการทดลองที่พระเจ้ามอบให้”
อายุ 17 ปี - เขาได้ตั้งมูลนิธิ Life Without Limbs เพื่อให้คำปรึกษาสำหรับกลุ่มคนพิการอื่นๆ
อายุ 21 ปี - นิคเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยถึง 2 ปริญญา ทั้งด้านบัญชีและการวางแผนด้านการเงินจาก Griffith University ที่ออสเตรเลียท่ามกลางคำสบประมาทของใครหลายคนที่ไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้
ในช่วงแรกที่นิคตัดสินใจจะเป็นนักพูด หลังจากที่เขาเคยได้รับคำแนะนำจากภารโรงสมัยที่เขาเรียนไฮสคูลและเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย นิคได้ติดต่อไปที่โรงเรียนต่างๆเพื่อขอเข้าไปพูดให้เด็กๆฟัง แต่ก็ถูกปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นไม่ได้ทำให้นิคล้มเลิกมัน เขาเชื่อว่าเมื่อล้มแล้วต้องลุกขึ้นมาใหม่ได้ เขานำตัวอย่างของโทมัส อดิสัน ที่ต้องผลิตหลอดไฟถึง 1000 ครั้งกว่าจะประสบความสำเร็จ เขาจึงเดินหน้าติดต่อโรงเรียนต่างๆไปเรื่อยๆ จนมีโรงเรียนที่สนใจให้เขาเข้าไปพูด
3
ครั้งแรกมีคนฟังเพียง10 คนเท่านั้น จากนั้นชื่อของเขาก็ถูกพูดต่อไปเรื่อยๆนิคได้มีโอกาสไปพูดในโรงเรียนและสถานที่ต่างๆแก่คนมากมาย
ครั้งหนึ่งเขาเคยไปพูดในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถึงการให้ทุกคนศรัทธาและเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความดีและสวยงาม ครั้งนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาร้องไห้มาขอกอดและขอบคุณเขา
เขาเคยเจอกับเด็กที่บกพร่องแขนขาเหมือนกับเขา พร้อมกับพ่อแม่ของเด็ก
นิคและครอบครัวถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองให้กับครอบครัวนั้น ทำให้ทุกวันนี้เด็กคนนั้นกลายเป็นเด็กที่เจ๋งและเข้มแข็งเหมือนกับเขา
ณ วันนี้ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักพูดที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดคนหนึ่งในโลก
เขามีชื่อเสียง ถึงขนาดในปี 2009 มีโอกาสไปเล่นหนังเรื่อง The Butterfly Circus ซึ่งหนังเรื่องดังกล่าวได้รับรางวัลหลายรางวัล
1
The butterfly circus
ในปี 2011 ได้ถูกเชิญไปพูดเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจที่ World Economic Forum ซึ่งเป็นการประชุมเศรษฐกิจประจำปี ที่มีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม
เขายังเขียนหนังสือชื่อ Life Without Limits และอีกหลายเล่มออกมาเพื่อให้กำลังใจ จนเป็นที่นิยมและสร้างยอดขายถล่มทลาย
ปัจจุบันนิคเป็น CEO ขององค์กรไม่แสวงหากำไร และพบรักกับ คานาเอะ มิยาฮาร่า (Kanae Miyahara) เขาทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ10 กุมภาพันธ์ 2012 ที่แคลิฟอร์เนีย
ตอนนี้เขาทั้งคู่มีลูกที่น่ารักด้วยกัน4คน และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ที่ฮาวาย
1
โฆษณา